จันทบุรี - หัวหน้าโครงการโรงจักรไฟฟ้าพลังน้ำ เขื่อนคีรีธารจันทบุรี นำเจ้าหน้าที่นำกระสอบทรายกั้นเขื่อนเพื่อชะลอน้ำหลังพบว่าปริมาณน้ำในเขื่อนสูงกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ระดับน้ำในแม่น้ำจันทบุรีเพิ่มระดับสูงขึ้นและเหลือเพียงเมตรกว่าก็จะเข้าสู่จุดวิกฤต
วันนี้ (30 ส.ค.) นายสุจิน รัตนพิณ หัวหน้าโครงการโรงจักรไฟฟ้าพลังน้ำ เขื่อนคีรีธาร จังหวัดจันทบุรี ได้นำเจ้าหน้าที่ทำการบรรจุทรายใส่ถุงกระสอบ จำนวน 1000 กระสอบเพื่อนำไปกั้นบริเวณสปริงเวย์ที่เป็นจุดปล่อยน้ำของเขื่อนคีรีธาร หลังพบว่าปริมาณน้ำในเขื่อนคีรีธารมีน้ำสูง 97 เปอร์เซ็นต์ และเหลือเพียงอีก 3 เปอร์เซ็นต์ ก็จะทำให้น้ำล้นสปริงเวย์ออกมา
โดยพบว่าในปีนี้มีปริมาณน้ำในเขื่อนสูงกว่าทุกปี ทำให้ทางโครงการโรงจักรพลังน้ำเขื่อนคีรีธาร ต้องมีการนำกระสอบทรายมากั้น และเปิดทางน้ำให้ไหลเพียงช่องเดียวเพื่อเป็นการชะลอน้ำไม่ให้ลงไปสู่พื้นที่อำเภอขลุงมากเกินไป และเป็นการบรรเทาไม่ให้ชาวบ้านในพื้นที่อำเภอขลุง และพื้นที่รอยต่อจังหวัดตราด ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมพื้นที่สวนผลไม้ และบ้านเรือนของชาวบ้าน และนับว่าเป็นรอบ 4 ปี ที่ได้มีการนำกระสอบทรายมากั้นสปริงเวย์บนสันเขื่อนนี้
นอกจากนี้ การกั้นกระสอบทรายจะเกิดผลดีต่อไปในระยะยาวที่ชาวบ้านจะได้มีน้ำเพียงพอในช่วงฤดูแล้ง สำหรับเขื่อนคีรีธารมีปริมาณความจุอยู่ที่ 76 ล้านลูกบาศก์เมตร ปัจจุบันมีน้ำในเขื่อนอยู่ที่ 72.101 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ คิดเป็นร้อยละ 94.86 เปอร์เซ็นต์
ในส่วนของปริมาณน้ำในแม่น้ำจันทบุรี ในเช้าวันนี้พบว่ามีปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นเนื่องจากเมื่อคืนได้มีน้ำป่าจากอำเภอมะขาม และพื้นที่อำเภอแก่งหางแมวไหลลงสมทบทำให้ปริมาณน้ำมีการเพิ่มสูงขึ้นในวันนี้ โดยวัดได้ 2.87 เมตร จุดวิกฤตอยู่ที่ 3.45 เมตร ฝายยางวัดได้ 4.85 เมตร จุดวิกฤตอยู่ที่ 5.50 เมตร ฝายท่าระม้าวัดได้ 4.20 เมตร จุดวิกฤตอยู่ที่ 7 เมตร และสะพานกระทิงวัดได้ 7.20 เมตร จุดวิกฤติอยู่ที่ 8 เมตร ซึ่งทั้ง 4 จุดหลักมีปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้น และคาดว่าถ้าในวันนี้มีฝนตกลงมาเพิ่มก็จะทำให้จุดวัดน้ำทั้ง 4 จุดเข้าสู่จุดวิกฤตอย่างแน่นอน
สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ 6 ตำบล ในพื้นที่จังหวัดจันทบุรีระดับน้ำเริ่มลดลงหลังในวันนี้ไม่มีฝนตกลงมาเพิ่ม และคาดว่าอีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะทำให้พื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติเหมือนเดิมต่อไป แต่ถึงอย่างไรทางจังหวัด นายธีรเทพ ศรียะพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรียังคงมีความเป็นห่วงในเรื่องของสถานการณ์น้ำอยู่ และได้สั่งการให้ทางป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดจันทบุรีได้มีการเฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำ และฝนที่ตกอย่างต่อเนื่อง
พร้อมทั้งขอให้มีการจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าติดตามน้ำทุกหลักของจังหวัดจันทบุรี และรวมทั้งให้มีการจัดเตรียมเจ้าหน้าที่ อุปกรณ์เครื่องมือ เรือท้องแบนให้พร้อมหากเกิดสถานการณ์ที่เลวร้าย และเกิดน้ำท่วมฉับพลันก็จะได้เข้าช่วยเหลือชาวบ้านได้อย่างทันท่วงทีต่อไปอีกด้วย
วันนี้ (30 ส.ค.) นายสุจิน รัตนพิณ หัวหน้าโครงการโรงจักรไฟฟ้าพลังน้ำ เขื่อนคีรีธาร จังหวัดจันทบุรี ได้นำเจ้าหน้าที่ทำการบรรจุทรายใส่ถุงกระสอบ จำนวน 1000 กระสอบเพื่อนำไปกั้นบริเวณสปริงเวย์ที่เป็นจุดปล่อยน้ำของเขื่อนคีรีธาร หลังพบว่าปริมาณน้ำในเขื่อนคีรีธารมีน้ำสูง 97 เปอร์เซ็นต์ และเหลือเพียงอีก 3 เปอร์เซ็นต์ ก็จะทำให้น้ำล้นสปริงเวย์ออกมา
โดยพบว่าในปีนี้มีปริมาณน้ำในเขื่อนสูงกว่าทุกปี ทำให้ทางโครงการโรงจักรพลังน้ำเขื่อนคีรีธาร ต้องมีการนำกระสอบทรายมากั้น และเปิดทางน้ำให้ไหลเพียงช่องเดียวเพื่อเป็นการชะลอน้ำไม่ให้ลงไปสู่พื้นที่อำเภอขลุงมากเกินไป และเป็นการบรรเทาไม่ให้ชาวบ้านในพื้นที่อำเภอขลุง และพื้นที่รอยต่อจังหวัดตราด ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมพื้นที่สวนผลไม้ และบ้านเรือนของชาวบ้าน และนับว่าเป็นรอบ 4 ปี ที่ได้มีการนำกระสอบทรายมากั้นสปริงเวย์บนสันเขื่อนนี้
นอกจากนี้ การกั้นกระสอบทรายจะเกิดผลดีต่อไปในระยะยาวที่ชาวบ้านจะได้มีน้ำเพียงพอในช่วงฤดูแล้ง สำหรับเขื่อนคีรีธารมีปริมาณความจุอยู่ที่ 76 ล้านลูกบาศก์เมตร ปัจจุบันมีน้ำในเขื่อนอยู่ที่ 72.101 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ คิดเป็นร้อยละ 94.86 เปอร์เซ็นต์
ในส่วนของปริมาณน้ำในแม่น้ำจันทบุรี ในเช้าวันนี้พบว่ามีปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นเนื่องจากเมื่อคืนได้มีน้ำป่าจากอำเภอมะขาม และพื้นที่อำเภอแก่งหางแมวไหลลงสมทบทำให้ปริมาณน้ำมีการเพิ่มสูงขึ้นในวันนี้ โดยวัดได้ 2.87 เมตร จุดวิกฤตอยู่ที่ 3.45 เมตร ฝายยางวัดได้ 4.85 เมตร จุดวิกฤตอยู่ที่ 5.50 เมตร ฝายท่าระม้าวัดได้ 4.20 เมตร จุดวิกฤตอยู่ที่ 7 เมตร และสะพานกระทิงวัดได้ 7.20 เมตร จุดวิกฤติอยู่ที่ 8 เมตร ซึ่งทั้ง 4 จุดหลักมีปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้น และคาดว่าถ้าในวันนี้มีฝนตกลงมาเพิ่มก็จะทำให้จุดวัดน้ำทั้ง 4 จุดเข้าสู่จุดวิกฤตอย่างแน่นอน
สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ 6 ตำบล ในพื้นที่จังหวัดจันทบุรีระดับน้ำเริ่มลดลงหลังในวันนี้ไม่มีฝนตกลงมาเพิ่ม และคาดว่าอีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะทำให้พื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติเหมือนเดิมต่อไป แต่ถึงอย่างไรทางจังหวัด นายธีรเทพ ศรียะพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรียังคงมีความเป็นห่วงในเรื่องของสถานการณ์น้ำอยู่ และได้สั่งการให้ทางป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดจันทบุรีได้มีการเฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำ และฝนที่ตกอย่างต่อเนื่อง
พร้อมทั้งขอให้มีการจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าติดตามน้ำทุกหลักของจังหวัดจันทบุรี และรวมทั้งให้มีการจัดเตรียมเจ้าหน้าที่ อุปกรณ์เครื่องมือ เรือท้องแบนให้พร้อมหากเกิดสถานการณ์ที่เลวร้าย และเกิดน้ำท่วมฉับพลันก็จะได้เข้าช่วยเหลือชาวบ้านได้อย่างทันท่วงทีต่อไปอีกด้วย
