ศูนย์ข่าวศรีราชา - หัวหน้าป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดจันทบุรี ลงพื้นที่ดูระดับน้ำแม่น้ำจันทบุรี พร้อมเตือนประชาชนที่อาศัยริมแม่น้ำระวังเด็กเล็กและสัตว์มีพิษ หลังมีน้ำหลากและไหลเชี่ยวกาด พร้อมจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าสถานการณ์น้ำตลอด 24 ชั่วโมง
วันนี้ (19 ส.ค.) นายจุมพฏ วรรณฉัตรสิริ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดจันทบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ดูระดับน้ำที่บริเวณหน้าวัดจันทนาราม อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี ซึ่งเป็นจุดวัดน้ำหลักของจังหวัดจันทบุรี หลังระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากพื้นที่ต้นน้ำในเขตอำเภอเขาคิชฌกูฎ และอำเภอมะขาม มีปริมาณฝนตกทุกวันและมีปริมาณฝนตกสะสมเพิ่มขึ้นจนทำให้ทั้ง 2 อำเภอ มีปริมาณน้ำไหลลงสู่แม่น้ำจันทบุรีจนทำให้ระดับน้ำสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีสีขุ่นแดง และไหลเชี่ยวกาด
จนเจ้าหน้าที่จากสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดจันทบุรี ต้องนำธงสีเหลืองมาติดเตือนบริเวณกลางสะพาน เพื่อให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำจันทบุรีทั้ง 2 ฝั่งระวังกับสถานการณ์น้ำที่เพิ่มระดับสูงขึ้น
นอกจากนี้ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยยังฝากให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำ ระมัดระวังบุตรหลานไม่ให้ลงเล่นน้ำในระยะนี้ เพราะอาจจะถูกกระแสน้ำพลัดจมหายไปได้ และให้ระมัดระวังในเรื่องของสัตว์มีพิษ เช่น ตะขาบ งู หรือสัตว์อื่นๆที่มากับน้ำ เป็นต้น
สำหรับสถานการณ์น้ำในพื้นที่จุดวัดน้ำทั้ง 4 จุดหลัก ยังน่าเป็นห่วง หลังบางจุดเริ่มใกล้เข้าสู่วิกฤต อาทิบริเวณฝายท่าระม้า อำเภอมะขาม ระดับน้ำวัด 5.30 เมตร ขณะที่จุดวิกฤตอยู่ที่ 8 เมตร บริเวณสะพานวัดกระทิง อำเภอเขาคิชฌกูฎ ช่วงเช้าวันนี้( 19 สิงหาคม) วัดอยู่ที่ 3.80 เมตร จุดวิกฤตอยู่ที่ 7 เมตร ส่วนฝายยาง ตำบลจันทนิมิต อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี เช้าวันนี้วัดได้ 4.50 เมตร จุดวิกฤตอยู่ที่ 5.50 เมตร และแม่น้ำจันทบุรีวัดได้ 2.58 เมตร จุดวิกฤตอยู่ที่ 3.45 เมตร
นายจุมพฏ ยังกล่าวอีกว่าสำหรับพายุลูกใหม่ที่จะเข้ามาในพื้นที่จังหวัดจันทบุรีนั้น ทางจังหวัดและสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ได้สั่งการให้ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เทศบาล ผู้นำท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เฝ้าสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และหากพบว่าพื้นที่ใดมีความเสี่ยงขอให้แจ้งเตือนมายังจังหวัด หรือหากสถานการณ์น่าเป็นห่วงให้มีการอพยพประชาชนออกมาอยู่ในพื้นที่ที่ปลอดภัย รวมทั้งให้มีติดเฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด
ส่วนความพร้อมในขณะนี้ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดจันทบุรี ได้จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งในเรื่องของอุปกรณ์ เครื่องมือ เรือท้องแบน และกำลังเจ้าหน้าที่ และชุดเคลื่อนที่เร็ว ที่มีความพร้อม ออกให้การช่วยเหลือประชาชนได้ทันที
วันนี้ (19 ส.ค.) นายจุมพฏ วรรณฉัตรสิริ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดจันทบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ดูระดับน้ำที่บริเวณหน้าวัดจันทนาราม อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี ซึ่งเป็นจุดวัดน้ำหลักของจังหวัดจันทบุรี หลังระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากพื้นที่ต้นน้ำในเขตอำเภอเขาคิชฌกูฎ และอำเภอมะขาม มีปริมาณฝนตกทุกวันและมีปริมาณฝนตกสะสมเพิ่มขึ้นจนทำให้ทั้ง 2 อำเภอ มีปริมาณน้ำไหลลงสู่แม่น้ำจันทบุรีจนทำให้ระดับน้ำสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีสีขุ่นแดง และไหลเชี่ยวกาด
จนเจ้าหน้าที่จากสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดจันทบุรี ต้องนำธงสีเหลืองมาติดเตือนบริเวณกลางสะพาน เพื่อให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำจันทบุรีทั้ง 2 ฝั่งระวังกับสถานการณ์น้ำที่เพิ่มระดับสูงขึ้น
นอกจากนี้ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยยังฝากให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำ ระมัดระวังบุตรหลานไม่ให้ลงเล่นน้ำในระยะนี้ เพราะอาจจะถูกกระแสน้ำพลัดจมหายไปได้ และให้ระมัดระวังในเรื่องของสัตว์มีพิษ เช่น ตะขาบ งู หรือสัตว์อื่นๆที่มากับน้ำ เป็นต้น
สำหรับสถานการณ์น้ำในพื้นที่จุดวัดน้ำทั้ง 4 จุดหลัก ยังน่าเป็นห่วง หลังบางจุดเริ่มใกล้เข้าสู่วิกฤต อาทิบริเวณฝายท่าระม้า อำเภอมะขาม ระดับน้ำวัด 5.30 เมตร ขณะที่จุดวิกฤตอยู่ที่ 8 เมตร บริเวณสะพานวัดกระทิง อำเภอเขาคิชฌกูฎ ช่วงเช้าวันนี้( 19 สิงหาคม) วัดอยู่ที่ 3.80 เมตร จุดวิกฤตอยู่ที่ 7 เมตร ส่วนฝายยาง ตำบลจันทนิมิต อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี เช้าวันนี้วัดได้ 4.50 เมตร จุดวิกฤตอยู่ที่ 5.50 เมตร และแม่น้ำจันทบุรีวัดได้ 2.58 เมตร จุดวิกฤตอยู่ที่ 3.45 เมตร
นายจุมพฏ ยังกล่าวอีกว่าสำหรับพายุลูกใหม่ที่จะเข้ามาในพื้นที่จังหวัดจันทบุรีนั้น ทางจังหวัดและสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ได้สั่งการให้ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เทศบาล ผู้นำท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เฝ้าสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และหากพบว่าพื้นที่ใดมีความเสี่ยงขอให้แจ้งเตือนมายังจังหวัด หรือหากสถานการณ์น่าเป็นห่วงให้มีการอพยพประชาชนออกมาอยู่ในพื้นที่ที่ปลอดภัย รวมทั้งให้มีติดเฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด
ส่วนความพร้อมในขณะนี้ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดจันทบุรี ได้จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งในเรื่องของอุปกรณ์ เครื่องมือ เรือท้องแบน และกำลังเจ้าหน้าที่ และชุดเคลื่อนที่เร็ว ที่มีความพร้อม ออกให้การช่วยเหลือประชาชนได้ทันที
