xs
xsm
sm
md
lg

2 เก๋งพุ่งชนกลางสี่แยก ส่วนอีกคันพุ่งเข้าร้านตัดผมพังพินาศ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวศรีราชา - หญิงสาวพาลูกชายวัย 7 ขวบ ขับเก๋งออกจากบ้านพัก ถูกหนุ่มขับเก๋งอีกคันพุ่งชนกลางคัน จนรถยนต์ของ 2 แม่ลูกเหินเข้าร้านตัดผมก่อนเหินขึ้นหลังคาร้านพังพินาศ ด้านรถเข็นขายของรอบข้างถูกลูกหลงกระเด็นคนละทิศละทาง โชคดีเหตุการณ์ครั้งนี้ไม่มีใครเสียชีวิต

ร.ต.อ.เอกชัย มูลลี ร้อยเวรสอบสวนสถานีตำรวจภูธรสัตหีบ ได้รับแจ้งจาก นางสุดาพร พรหมพูล อายุ 48 ปี เจ้าของร้านตัดผมซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 35/6 หมู่ 3 ตำบลสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรีว่า ได้เกิดเหตุรถยนต์เก๋งพุ่งชนกันบนถนนสุขุมวิท กม.173 เส้นทางพัทยา-สัตหีบ บริเวณกลางสี่แยกหน้าโรงเรียนธัมมสิริศึกษา ก่อนจะพุ่งเข้ามาภายในร้านจนได้รับความเสียหาย

หลังรับแจ้งได้รุดไปตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พบรถยนต์เก๋งโตโยต้า รุ่นโคโรลล่า สีเขียวขี้ม้า หมายเลขทะเบียน ฐบ 2213 กรุงเทพฯ ซึ่งพุ่งเข้าไปในร้านตัดผม สภาพรถด้านซ้ายติดคาอยู่บนหลังคากระเบื้องของร้านและสิ่งของภายในร้านถูกชนจนพังพินาศ โดยรถคันดังกล่าวมี นางสุคนธ์ทิพย์ เติมกล้า อายุ 33 ปี เป็นคนขับ และเด็กชายภัคพล เติมกล้า อายุ 7 ปี บุตรชายนั่งมาในรถ ห่างออกไปประมาณ 20 เมตร พบรถยนต์เก๋งฮอนด้า รุ่นซิตี้ สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน กต 7893 อุดรธานี สภาพด้านหน้าพังยับเยิน และมี นายเติมชัย พรหมวิชัย อายุ 20 ปี เป็นคนขับและได้รับบาดเจ็บ พลเมืองดีได้ให้การช่วยเหลือนำตัวส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้า

นอกจากนี้ ยังพบว่า รถเข็นขายก๋วยเตี๋ยว รถเข็นขายขนมปังสังขยาและรถเข็นขายบะหมี่เกี๊ยวกุ้ง 5 ดาวที่อยู่โดยรอบถูกชนทั้ง 2 คันชนจนได้รับความเสียหาย

จากการสอบถาม นางวินัย อาญาเมือง อายุ 44 ปี แม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยวผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ขณะเกิดเหตุรถยนต์เก๋งของนางสุคนธ์ทิพย์ ได้วิ่งออกมาจากบ้านพักทุ่งโปรงผ่านกลางแยก และเลี้ยวเข้าตลาดสัตหีบ จังหวะเดียวกันได้มีรถยนต์เก๋งของนายเติมชัย วิ่งตรงมาจากทางพัทยามุ่งหน้าเข้าสัตหีบด้วยความเร็วสูง ก่อนจะพุ่งชนด้านซ้ายอย่างจัง เป็นเหตุให้รถยนต์เก๋งของนางสุคนธ์ทิพย์ เสียหลักพุ่งเข้าไปชนร้านตัดผมจนได้รับความเสียหาย

ขณะที่ นางสุดาพร เจ้าของร้านตัดผม เล่าว่า บริเวณดังกล่าวมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อยครั้ง ซึ่งก่อนหน้าเพียง 1 อาทิตย์ ได้เกิดอุบัติเหตุรถยนต์พุ่งชนกันจนทำให้ร้านค้าที่ตั้งอยู่ริมถนนและบ้านของตนถูกลูกหลงจนได้รับความเสียหายมาแล้ว แต่หตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้นับเป็นความโชคดีที่ขณะเกิดเหตุทุกคนอยู่หลังบ้าน จึงไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต



กำลังโหลดความคิดเห็น