พระนครศรีอยุธยา - “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ลงพื้นที่ดูน้ำท่วมกรุงเก่า พร้อมแจกถุงยังชีพผู้ประสบภัย
วันนี้ (7 ก.ย.) จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ยังคงถูกน้ำท่วมอย่างหนัก ชาวบ้าน วัด โรงเรียน สถานที่ราชการ ที่ตั้งอยู่ริม 2 ฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำน้อย แม่น้ำป่าสัก และแม่น้ำลพบุรี ในเขต 9 อำเภอ ประกอบด้วย อ.พระนครศรีอยุธยา บางบาล บางปะอิน บางไทร ผักไห่ มหาราช บางปะหัน นครหลวง และ อ.เสนา ต่างได้รับความเดือดร้อนกันถ้วนหน้า
ขณะที่ น.ท.รชต ผกาฟุ้ง หัวหน้าสำนักงานเจ้าท่า สาขาภูมิภาคอยุธยา ได้ออกประกาศเตือนชาวเรือเพิ่มเติม เรื่อง การเดินเรือข้ามฟากในช่วงน้ำหลาก โดยกำชับให้เจ้าของเรือจะต้องมีเสื้อชูชีพให้กับประชาชนที่ใช้เรือข้ามฟาก และจะต้องทำตามข้อกำหนดของกรมเจ้าท่าอย่างเคร่งครัด ซึ่งหากผู้ประกอบการรายใดฝ่าฝืน จะต้องถูกดำเนินคดีอาญาทันที
สำหรับท่าเรือข้ามฟากที่ยังคงเปิดให้บริการอยู่ในขณะนี้ คือ ท่าเรือวัดขุนพรหม ท่าเรือสถานีรถไฟอยุธยา และท่าเรือป้อมเพชร โดย 2 จุด คือ ท่าเรือป้อมเพชร และท่าเรือวัดขุนพรหม ถือว่าอันตรายที่สุด เนื่องจากมีกระแสน้ำค่อนข้างไหลแรง แต่ผู้ประกอบการยังดำเนินการต่อไป เพราะเป็นเส้นทางที่ใกล้ที่สุดของชาวบ้านในการเดินทางเข้ามายังเกาะเมืองอยุธยา
ต่อมาเมื่อเวลา 17.00 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ พลโท อุดมเดช สีตบุตร แม่ทัพภาคที่ 1 พลตรี ประสงค์ บุตรขวัญ ผบ.มทบ.13 ได้เดินทางมาตรวจสถาการณ์น้ำท่วมที่บริเวณตลาดบ้านแพน ต.สามกอ อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา โดยมี นายวิทยา ผิวผ่อง ผวจ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมหัวหน้าส่วนราชการให้การต้อนรับ
หลังจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เดินเยี่ยมชาวเสนา พร้อมมอบถุงยังชีพจำนวน 1,400 ชุด และตรวจดูสภาพน้ำท่วมแล้ว ได้ฟังบรรยายสรุปสถานการณ์น้ำท่วม จ.พระนครศรีอยุธยา ณ ที่ว่าการอำเภอเสนา ซึ่งมีประชาชนที่ชื่นชอบนายกมาให้การต้อนรับจนล้นหลาม
จากนั้นนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ เดินทางต่อไปที่บริเวณโรงงานซ่อมยาง กองโรงงานซ่อมสร้างรถยนต์ทหาร (บ้านหัวแหลม) ต.ท่าวาสุกรี เยี่ยมชาวบ้านที่ประสบอุทกภัยน้ำท่วมพร้อมแจกถุงยังชีพจำนวน 1,000 ชุดแล้วฟังบรรยายสรุปจาก นายวิทยา ผิวผ่อง ผวจ.พระนครศรีอยุธยา
น.ส.ยิ่งลักษณ์ บอกว่า มาเยี่ยมให้กำลังใจกับผู้ประสบภัยขอให้ทุกคนสู้ๆ ทางรัฐบาลจะทำตามที่ให้สัญญาไว้และไม่ต้องรอให้น้ำลดถ้าสำรวจเสร็จก่อนก็จ่ายเงินชดเชยได้เลย สำหรับบ้านที่ถูกน้ำท่วมเกิน 7 วัน หลังละ 5,000 บาท นาข้าวไร่ละ 2,220 บาท