ทีมสัตวแพทย์เร่งช่วยช้างเหยื่อกับระเบิดฝั่งพม่าวางยาซึม-ตัดเนื้อตายทิ้งแล้ว

ลำปาง - สัตวแพทย์เร่งรักษาช้างเหยียบระเบิด เบื้องต้นต้องวางยาซึม เนื่องจากช้างไม่คุ้นทั้งสถานที่และควาญจึงไม่ให้ความร่วมมือในการรักษา

นายสัตวแพทย์ ดร.สิทธิเดช มหาสาวังกุล ผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ของโรงพยาบาลช้างศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย เปิดเผยว่า หลังจากได้รับช้างพังโม่มะเอ หรือพังพรสวรรค์ วัย 18 ปี ซึ่งเป็นช้างของชาวกะเหรี่ยงในอำเภอท่าสองยาง จ.ตาก ที่นำช้างเข้าไปรับจ้างชักลากไม้ในฝั่งพม่าจนเหยียบกับระเบิด ส่งผลให้เท้าหลังซ้ายเป็นแผลเหวอะวะขนาดใหญ่ เล็บและอุ้งเท้าหายไปหมด และเนื่องจากต้องเดินเท้าออกจากฝั่งพม่าร่วม 8 วัน ทำให้เท้าช้างบวมเป็นหนองอักเสบเริ่มส่งกลิ่นเหม็น จนต้องนำส่งรักษาที่โรงพยาบาลช้าง สถาบันคชบาลแห่งชาติ ในพระอุปถัมภ์ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ (ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย) อ.อ.ป.จังหวัดลำปาง

ล่าสุด สัตวแพทย์ได้ทำความสะอาดบาดแผลฉีดยาปฏิชีวนะเพื่อคุมการติดเชื้อเข้ากระแสเลือด และให้พักผ่อนตลอดคืนเนื่องจากช้างมีอาการเพลียจากการเดินทาง จากนั้นทีมสัตวแพทย์ได้เริ่มให้การตรวจรักษา แต่เนื่องช้างไม่ค่อยให้ความร่วมมือในการรักษา เพราะไม่คุ้นกับสถานที่และไม่คุ้นเคยกับควาญ ทางเจ้าหน้าที่จึงต้องตรึงเชือกรัดตัวช้างติดกับหลักอย่างแน่นหนา แล้ววางยาซึมให้แก่ช้างเพื่อที่จะให้การรักษาง่ายมากขึ้น

ส่วนการรักษาได้เริ่มจากทำความสะอาดบาดแผลโดยให้ช้างเอาเท้าแช่น้ำยาฆ่าเชื้อวันละ 2 ครั้งๆ ละ 20 นาที พร้อมทั้งฉีดยาปฏิชีวนะ ให้สารน้ำเกลือและยาระงับปวดไปพร้อมกัน จากนั้นก็วางยาซึมล้างแผลล้วงเอาเนื้อตายและหนองออก เริ่มตัดเอาชิ้นเนื้อตายที่เท้าออกเท่าที่จะทำได้

นอกจากนี้ ทางสัตวแพทย์ได้ทำการส่งตัวอย่างเลือด ชิ้นเนื้อ ไปเพาะเชื้อที่คณะสัตวแพทย์ศาสตร์ มช.และศูนย์วิจัยและชันสูตรโรคภาคเหนือ จังหวัดลำปาง รวมทั้งโรงพยาบาลช้างแห่งนี้ด้วยเพื่อที่จะให้ผลออกมาเป็นที่แน่นอนว่าช้างติดเชื้อชนิดอื่นอีกหรือไม่ รวมถึงเพื่อให้การรักษาเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและถูกต้องในการให้ยา