“ขวัญชัย” ต้อนไพร่แดงอุดรฯ ข้ามโขงหวังพบ นช.ทักษิณ แต่แห้ว

หนองคาย- “ขวัญชัย” พามวลชนคนรักอุดรไปลาวพบ นช.ทักษิณ เจอด่านลาวห้ามสวมเสื้อแดงเข้าประเทศ ต้องเสียเวลาหาเสื้อมาเปลี่ยนก่อนจะชวดอดเจออดีตนายกฯ “ขวัญชัย” ระบุต้องเปลี่ยนแผนกะทันหันเกรงกระทบด้านความสัมพันธ์และตกเป็นเครื่องมือของฝ่ายตรงข้าม

ผู้สื่อข่าวได้รับการบอกเล่าว่า เมื่อเวลา 10.00 น.วานนี้ (31 ส.ค.) ที่ด่านสากล สปป.ลาว มวลชนคนเสื้อแดงจำนวนหนึ่งได้ทยอยลงจากรถบัส 10 คันเพื่อเดินหาเลือกซื้อเสื้อสีต่างๆ มาสวมใส่แทนเสื้อสีแดง เนื่องจากเจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองลาวไม่อนุญาตให้สวมเสื้อสีแดงเข้าประเทศเพราะเกรงว่าจะกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

ขณะเดียวกัน นายขวัญชัย สาราคำ หรือขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดร ได้จัดหาเสื้อหลากสีมาให้ใส่แทนกว่า 500 ตัวมาให้คนเสื้อแดงของชมรมคนรักอุดรสวมใส่

จากนั้นได้เดินทางไปยังตลาดเช้าเพื่อรับประทานอาหารกลางวันและชมสถานที่ต่างๆ ในลาวก่อนเดินทางไปรวมตัวกันเพื่อรับประทานอาหารเย็นและพบกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ตามกำหนดการที่โรงแรมเพ็ดจำปา ในนครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว

โดยแต่ละคนต้องเสียค่าใช้จ่ายคนละ 1 พันบาทแต่ไม่พบเนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงแผนอย่างกะทันหัน

นายขวัญชัยกล่าวว่า ตั้งใจอยากพาชมรมคนรักอุดรมาเที่ยวฝั่งลาวและได้รับการติดต่อจากท่านอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ว่า จะมาพบปะมวลชนคนเสื้อแดงที่จังหวัดอุดร จึงคิดว่าหลังจากเราเลือกตั้งชนะแล้วจะมาพบกันที่ลาวตามความตั้งใจ แต่ก่อนเดินทางมา 1 วันก็มีกระแสข่าวมากมายจึงทำให้คิดว่าไม่สมควรจะพบกัน ตนจึงโทรศัพท์แจ้ง พ.ต.ท.ทักษิณว่าให้ระงับการเดินทางมาที่ สปป.ลาว เกรงความสัมพันธ์ไทย-ลาว เพราะฝ่ายมีตรงข้ามที่ไม่หวังดีมีเยอะ

“ซึ่งเรามาพบกันไม่ได้มาทางการบ้านการเมือง เรามาด้วยความผูกพันระหว่างประชาชนคนเสื้อแดงในนามชมรมคนรักอุดรที่มีความผูกพันกับท่านนายกทักษิณ เราจึงมาพบปะกันเป็นธรรมชาติของคนรักกัน แต่เมื่อมีกระแสข่าวอย่างนี้เลยต้องระงับแต่เราก็มาเที่ยวกันตามปกติมากินข้าวกันที่โรงแรมเพ็ดจำปาซึ่งเราจองโต๊ะกันไว้และเราก็มา เรากลับจากนี่เราจะไปพบกันที่ชมรมคนรักอุดร

และตอน 1 ทุ่ม ของคืนที่ผ่านมาท่านนายกฯ ทักษิณได้โทรศัพท์มาขอโทษชมรมคนรักอุดรด้วยที่ไม่ได้มาตามนัด เพราะสถานการณ์บ้านเมืองกำลังเดินไปด้วยดีไม่อยากให้มีอะไรไปทำให้เสียบรรยากาศ นี่คือความรับผิดชอบของพวกเราที่อยากเห็นบ้านเมืองเดินไปข้างหน้าไม่อยากให้มีอุปสรรค ไม่อยากให้เป็นเหยื่อของฝ่ายตรงข้ามที่จะเอาไปขยายผลที่คือความต้องการของพวกเรา”

นายขวัญชัยยังกล่าวอีกว่า ในระหว่างการเดินทางนั้นอาจจะมีอุปสรรคนิดหน่อย แต่ชาวบ้านเขาเข้าใจดี เพราะการเข้า สปป.ลาว นั้นมีอุปสรรคเยอะแยะเหลือเกินเริ่มจากด่านฝั่งลาว ต้องเสียเวลาไป 3-4 ชม.เพราะ ตม.ลาวไม่อยากให้เราใส่เสื้อแดงเข้ามา ซึ่งชมรมคนรักอุดรเรามีความภาคภูมิใจในเสื้อแดงที่เขาเลือกตั้งชนะไปอย่างถล่มทลาย เขามีความภูมิใจในความเป็นคนเสื้อแดงของเขา จึงต้องใส่มา

แต่เมื่อด่าน ตม.ลาวไม่ยอมให้เราใส่เสื้อแดงเข้าประเทศ จึงต้องหาเสื้อมาเปลี่ยนอีก 500 กว่าตัว นี่คือสิ่งที่พี่น้องประชาชนคนรักอุดรเขาเป็นห่วง เพราะตนต้องเสียอะไรต่อมิอะไรมากมาย แต่ไม่เป็นไรในนามประธานชมรมฯ เมื่อพาพี่น้องมาแล้วต้องพาไปให้ถึงฝั่งและให้สบายใจทุกคนทุกฝ่ายด้วย จึงไม่มีปัญหาอะไรทุกคนไม่เคยบ่น จริงๆ แล้วจัดโต๊ะอาหารไว้ 50 โต๊ะสำหรับคน 500 คน แต่เมื่อมาเกินเราก็สั่งอาหารในโรงแรมให้รับประทานจนครบ