นราธิวาส - รองผู้ว่าฯ นราฯ กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งมือเปิดศูนย์ราชการชายแดน อ.สุไหงโก-ลก ให้ทันภายในปีหน้า เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่สำหรับคนในพื้นที่ใช้เป็นช่องทางเศรษฐกิจที่สำคัญ และเตรียมพร้อมเปิดประตูสู่อาเซียน
นายอุทาร พิชญาภรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับศูนย์ราชการชายแดนเพื่อกำหนดวันที่ชัดเจนสำหรับการเปิดให้บริการศูนย์ราชการชายแดน ที่ด่านศุลกากรสุไหงโก-ลก หลังพบว่ายังมีอีก 2 หน่วยงาน ที่ยังไม่สามารถดำเนินการย้ายอุปกรณ์ เครื่องใช้สำนักงาน เพื่อเข้ามาปฏิบัติงานประจำ ณ ศูนย์ราชการชายแดน อ.สุไหงโก-ลกได้ เนื่องจากการปรับปรุงและต่อเติมอาคารยังไม่แล้วเสร็จ จึงไม่สามารถเปิดให้บริการแบบONE STOP SERVICE ของทั้ง 11 หน่วยงานได้อย่างเต็มระบบ เพื่อเป็นของขวัญสำหรับชาว อ.สุไหงโก-ลก และจ.นราธิวาสในปี2555 ให้สมกับที่ต้องรอคอยมานาน เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นช่องทางเศรษฐกิจที่สำคัญในการส่งออกสินค้าของผู้ประกอบการในพื้นที่ จ.นราธิวาส จึงต้องการให้ประชาชนได้รับความสะดวกมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันก็เป็นการเตรียมความพร้อมเพื่อเปิดประตูสู่ประชาคมอาเซียนที่จะมาถึงในปี 2558 ด้วย
ด้าน นายสัญชัย ธรรมาธิกุล ผู้แทนนายด่านศุลกากรสุไหงโก-ลก ได้ชี้แจงในเรื่องดังกล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับปรุงและต่อเติมอาคาร ซึ่งใช้งบประมาณรวมกว่า 18 ล้านบาท เพื่อที่จะแล้วเสร็จโดยเร็วที่สุดตามแผนงานที่กำหนดไว้ คือภายในเดือน ก.ค.2555 และหากไม่มีปัญหาแทรกซ้อนเข้ามา ก็คาดว่าจะดำเนินการเสร็จสิ้นเร็วกว่ากำหนด คือภายในช่วงต้นปี 2555
ขณะที่ในส่วนของการแก้ปัญหาการจราจรติดขัด ด่านศุลกากรสุไหงโก-ลก ได้มีนโยบายที่จะให้ยานพาหนะทุกชนิดมากระจุกตัวอยู่บริเวณพื้นที่ด่านชายแดน แทนที่จะไปติดขัดบริเวณถนนเข้าเขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก หรือที่สะพานข้ามแม่น้ำโก-ลก ซึ่งเบื้องต้นได้จัดให้บริเวณพื้นที่ด่านที่ติดกับรางรถไฟเป็นพื้นที่จอดรถของผู้โดยสารขาออก ส่วนผู้โดยสารขาเข้าที่อยู่อีกด้านหนึ่ง ก็มีพื้นที่สำหรับรองรับยานพาหนะได้ถึง 100 คัน ซึ่งคาดว่าจะเพียงพอต่อการสัญจรทั้งขาเข้าและขาออก
ส่วนการทำพิธีการ ทางศุลกากรได้มีการแยกคนเข้าไปดำเนินการทางเอกสารในอาคารผู้โดยสาร ส่วนยานพาหนะก็จะใช้ช่องทางการผ่านแดนตามปกติโดยเป็นไปตามวีธีปฏิบัติของด่านสากลทั่วไป ส่วนจะมีปัจจัยใดที่จะส่งผลให้การดำเนินงานตามแผนที่มีเวลาทั้งสิ้น 360 วัน คลาดเคลื่อนออกไปอีกหรือไม่นั้น นายวัฒนา เรืองศร ผู้ควบคุมโครงการ กล่าวว่า ขณะนี้มีเพียง 2 เรื่อง คือ ปัญหาสภาพอากาศที่ฝนตกอย่างต่อเนื่อง และปัญหาด้านแรงงานที่มีจำกัด แต่ก็ได้พยายามแก้ปัญหาพร้อมทั้งเตรียมแผนสำรอง เพื่อให้ทุกอย่างเดินหน้าตามเวลาที่กำหนด
ด้านความพร้อมของด่านตรวจคนเข้าเมือง จ.นราธิวาส และสำนักงานจัดหางาน สาขาสุไหงโก-ลกนั้น พ.ต.ท.ณัฏฐ์ชูเดช จรัสร่มเย็น รองผู้กำกับการด่านตรวจคนเข้าเมืองนราธิวาส ยืนยันว่า หากปรับปรุงพื้นที่แล้วเสร็จ ก็จะเข้าไปดำเนินการติดตั้งอุปกรณ์ทางเทคนิคทันที และภายใน 1 เดือนหลังจากนั้น ก็จะสามารถเปิดให้บริการเต็มทั้งระบบ ซึ่งจะเพิ่มความคล่องตัวให้กับผู้มาใช้บริการได้มากขึ้น
นายอุทาร พิชญาภรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับศูนย์ราชการชายแดนเพื่อกำหนดวันที่ชัดเจนสำหรับการเปิดให้บริการศูนย์ราชการชายแดน ที่ด่านศุลกากรสุไหงโก-ลก หลังพบว่ายังมีอีก 2 หน่วยงาน ที่ยังไม่สามารถดำเนินการย้ายอุปกรณ์ เครื่องใช้สำนักงาน เพื่อเข้ามาปฏิบัติงานประจำ ณ ศูนย์ราชการชายแดน อ.สุไหงโก-ลกได้ เนื่องจากการปรับปรุงและต่อเติมอาคารยังไม่แล้วเสร็จ จึงไม่สามารถเปิดให้บริการแบบONE STOP SERVICE ของทั้ง 11 หน่วยงานได้อย่างเต็มระบบ เพื่อเป็นของขวัญสำหรับชาว อ.สุไหงโก-ลก และจ.นราธิวาสในปี2555 ให้สมกับที่ต้องรอคอยมานาน เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นช่องทางเศรษฐกิจที่สำคัญในการส่งออกสินค้าของผู้ประกอบการในพื้นที่ จ.นราธิวาส จึงต้องการให้ประชาชนได้รับความสะดวกมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันก็เป็นการเตรียมความพร้อมเพื่อเปิดประตูสู่ประชาคมอาเซียนที่จะมาถึงในปี 2558 ด้วย
ด้าน นายสัญชัย ธรรมาธิกุล ผู้แทนนายด่านศุลกากรสุไหงโก-ลก ได้ชี้แจงในเรื่องดังกล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับปรุงและต่อเติมอาคาร ซึ่งใช้งบประมาณรวมกว่า 18 ล้านบาท เพื่อที่จะแล้วเสร็จโดยเร็วที่สุดตามแผนงานที่กำหนดไว้ คือภายในเดือน ก.ค.2555 และหากไม่มีปัญหาแทรกซ้อนเข้ามา ก็คาดว่าจะดำเนินการเสร็จสิ้นเร็วกว่ากำหนด คือภายในช่วงต้นปี 2555
ขณะที่ในส่วนของการแก้ปัญหาการจราจรติดขัด ด่านศุลกากรสุไหงโก-ลก ได้มีนโยบายที่จะให้ยานพาหนะทุกชนิดมากระจุกตัวอยู่บริเวณพื้นที่ด่านชายแดน แทนที่จะไปติดขัดบริเวณถนนเข้าเขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก หรือที่สะพานข้ามแม่น้ำโก-ลก ซึ่งเบื้องต้นได้จัดให้บริเวณพื้นที่ด่านที่ติดกับรางรถไฟเป็นพื้นที่จอดรถของผู้โดยสารขาออก ส่วนผู้โดยสารขาเข้าที่อยู่อีกด้านหนึ่ง ก็มีพื้นที่สำหรับรองรับยานพาหนะได้ถึง 100 คัน ซึ่งคาดว่าจะเพียงพอต่อการสัญจรทั้งขาเข้าและขาออก
ส่วนการทำพิธีการ ทางศุลกากรได้มีการแยกคนเข้าไปดำเนินการทางเอกสารในอาคารผู้โดยสาร ส่วนยานพาหนะก็จะใช้ช่องทางการผ่านแดนตามปกติโดยเป็นไปตามวีธีปฏิบัติของด่านสากลทั่วไป ส่วนจะมีปัจจัยใดที่จะส่งผลให้การดำเนินงานตามแผนที่มีเวลาทั้งสิ้น 360 วัน คลาดเคลื่อนออกไปอีกหรือไม่นั้น นายวัฒนา เรืองศร ผู้ควบคุมโครงการ กล่าวว่า ขณะนี้มีเพียง 2 เรื่อง คือ ปัญหาสภาพอากาศที่ฝนตกอย่างต่อเนื่อง และปัญหาด้านแรงงานที่มีจำกัด แต่ก็ได้พยายามแก้ปัญหาพร้อมทั้งเตรียมแผนสำรอง เพื่อให้ทุกอย่างเดินหน้าตามเวลาที่กำหนด
ด้านความพร้อมของด่านตรวจคนเข้าเมือง จ.นราธิวาส และสำนักงานจัดหางาน สาขาสุไหงโก-ลกนั้น พ.ต.ท.ณัฏฐ์ชูเดช จรัสร่มเย็น รองผู้กำกับการด่านตรวจคนเข้าเมืองนราธิวาส ยืนยันว่า หากปรับปรุงพื้นที่แล้วเสร็จ ก็จะเข้าไปดำเนินการติดตั้งอุปกรณ์ทางเทคนิคทันที และภายใน 1 เดือนหลังจากนั้น ก็จะสามารถเปิดให้บริการเต็มทั้งระบบ ซึ่งจะเพิ่มความคล่องตัวให้กับผู้มาใช้บริการได้มากขึ้น
