xs
xsm
sm
md
lg

ชาวแปดริ้วกว่า 2,000 คน ปิด “สุวินทวงศ์” ต้านโรงไฟฟ้า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ฉะเชิงเทรา - ชาวบ้านแปดริ้วกว่า 2 พัน ยกพลปิดถนน “สุวินทวงศ์” ต้านโรงไฟฟ้าเครือของบริษัท สหโคเจน ทำการจราจร 304 อัมพาต ขณะตำรวจตั้งท่ารอประจันหน้า ด้านจังหวัดส่ง 2 รองพ่อเมืองตีคู่เข้าเจรจา ก่อนได้ข้อสรุปเบื้องต้นให้เตรียมร่างคำร้องส่งถึงศาลปกครองสั่งยุติโครงการ เหตุซุ่มทำอีไอเอจนชาวบ้านเชื่อไม่โปร่งใส

วันนี้ (28 ส.ค.) ชาวบ้านจาก 12 ตำบลในเขตพื้นที่ อ.เมืองฉะเชิงเทรา ประกอบด้วย ชาวตำบลคลองนครเนื่องเขต วังตะเคียน บางเตย ท่าไข่ หนามแดง บางกะไห เกาะไร่ คลองอุดมชลจร คลองหลวงแพ่ง คลองเปร็ง ศาลาแดง และบ้านคลองเจ้า จำนวนกว่า 2,000 คน ได้กรูกันเข้าไปนั่งอยู่บนพื้นผิวการจราจร เพื่อปิดขวางเส้นทางการสัญจร บนถนนสายสุวินทวงศ์ บริเวณสามแยกสตาร์ไลท์ พื้นที่ ม.5 ต.วังตะเคียน อ.เมืองฉะเชิงเทรา ทุกช่องทาง จนทำให้การสัญจรบนเส้นทางกลายเป็นอัมพาตลงในทันที

การชุมนุมในวันนี้ เป็นการชุมนุมเพื่อต่อต้านโรงไฟฟ้าของบริษัท ฉะเชิงเทรา โคเจนเนอเรชั่น จำกัด ที่ได้เข้ามาทำโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าขนาดกำลังการผลิต 114 เมกะวัตต์ โดยใช้พลังงานจากก๊าซ NGV ในเขตพื้นที่ ม.17 ต.คลองนครเนื่องเขต อ.เมือง ฉะเชิงเทรา จนทำให้ชาวบ้านผู้ประกอบอาชีพในภาคเกษตรกรรม หวั่นเกรงว่า จะถูกแย่งชิงเอาทรัพยากร โดยเฉพาะน้ำซึ่งเป็นปัจจัยหลักในการทำนา และอาจได้รับผลกระทบจากมลพิษที่จะเกิดขึ้นติดตามมาในภายหลัง

ก่อนการชุมนุมในวันนี้ ผู้ชุมนุมได้มีการเตรียมการมาก่อนล่วงหน้ามาเป็นอย่างดี โดยมีการจัดตั้งเวทีการปราศรัย และออกรถตระเวนปลุกระดมชาวบ้านให้ออกมาร่วมกันชุมนุมคัดค้าน ซึ่งมีการรวมตัวกันตั้งแต่ก่อนเวลา 08.00 น.ซึ่งในช่วงแรกเป็นการรวมตัวกันที่บริเวณด้านหน้าเวที และโดยรอบพื้นที่ริมข้างทาง

หลังจากนั้น กลุ่มชาวบ้านจึงได้พากันออกมาอยู่บนท้องถนน เนื่องจากไม่พอใจที่ นายกิตติ ทรัพย์วิสุทธิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ไม่ลงมาพบกับกลุ่มชาวบ้าน โดยได้ส่ง นางสุมิตรา ศรีสมบัติ พร้อมด้วย นายบัณฑิตย์ เทวีทิวารักษ์ รองผู้ว่าฯทั้ง 2คน พร้อมด้วย นายภุชงค์ รังสินธุ์ นายอำเภอเมืองฉะเชิงเทรา เป็นผู้ลงมาเจรจาร่วมกับชาวบ้านแทน

อย่างไรก็ตาม การเจรจาร่วมกับตัวแทนชาวบ้านได้ใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง จึงได้ข้อสรุปในเบื้องต้น ว่า ให้กลุ่มชาวบ้านที่คัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้า ร่วมกันร่างคำร้องส่งไปยังศาลปกครอง พร้อมกับลงลายมือชื่อร่วมกันในท้ายคำร้อง โดยมี รองผู้ว่าฯ ทั้ง 2 คนร่วมลงชื่อไว้ด้วย ในกรณีการคัดค้านการเข้ามาทำโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าที่ไม่โปร่งใส โดยไม่ได้มีการเข้ามาสอบถามถึงความเห็นและความยินยอมจากชาวบ้านในพื้นที่มาก่อน โดยเฉพาะการทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม หรือ อีไอเอ ซึ่งชาวบ้านมองว่าไม่มีความโปร่งใส ชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่ได้มีส่วนร่วมและไม่เคยรับรู้ รับทราบมาก่อนว่าจะมีโครงการนี้เกิดขึ้นมาตั้งแต่แรก

ด้าน นายประจักร์ กลี่จินดา อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 27 ม.12 ต.ท่าไข่ อ.เมืองฉะเชิงเทรา ตัวแทนชาวบ้าน ที่เข้าร่วมเป็นแกนนำในการเจรจากับตัวแทนของภาครัฐ กล่าวว่า ในการเจรจาทางรองผู้ว่าฯ ได้ให้ชาวบ้านร่างคำร้องคัดค้านโครงการ เพื่อที่จะยื่นต่อศาลปกครองภายในวันนี้ ซึ่งจะต้องประชุมขอความเห็นจากชาวบ้านก่อนว่า จะยื่นคำร้องในกรณีใดบ้าง โดยจะร่างออกมาเป็นข้อๆ ก่อนที่จะส่งคำร้องไปยังศาลปกครองให้พิจารณาและมีคำสั่งระงับโครงการก่อสร้างต่อไป

สำหรับบรรยากาศการชุมนุมโดยรอบพื้นที่นั้นมีฝนตกลงมาโดยตลอด แต่ที่บริเวณจุดชุมนุมกลับไม่มีฝนตก จึงทำให้ชาวบ้านยังคงปักหลักชุมนุมกันอย่างเหนียวแน่น

ขณะที่ฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้มีการตั้งแถวกองร้อยควบคุมฝูงชน เพื่อแสดงกำลังให้ชาวบ้านเห็นแบบประจันหน้า ผลัดเปลี่ยนกันระหว่าง 2 กองร้อย โดยที่ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ได้จัดเตรียมพนักงานสอบสวนให้เข้าประจำการ รอการทำหน้าที่สอบสวนไว้เป็นจำนวนมาก ในกรณีหากมีการสลายการชุมนุม หรือทำการจับกุมฝูงชนที่เข้ามาร่วมชุมนุมเป็นจำนวนมาก

ส่วนด้านการจัดการจราจร เจ้าหน้าที่ได้พยายามที่จะจัดการจราจรให้สับหลีกเส้นทางจากเส้นทางหลักสาย 304 ให้รถยนต์ของผู้สัญจรผ่านเข้าไปใช้เส้นทางหลบเลี่ยงตามเส้นทางภายในหมู่บ้านโดยรอบแทน แต่ก็ยังมีความแออัดไม่เพียงพอ เนื่องจากมีรถจำนวนมาก และยังมีรถสะสมอยู่ในเส้นทางอย่างหนาแน่น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ผ่านมา ชาวบ้านทั้ง 12 ตำบล ได้มีการรวมตัวคัดค้านโครงการดังกล่าวมาแล้ว ถึง 3 ครั้ง โดยมีการรวมตัวกันในพื้นที่บริเวณก่อสร้าง แสดงเจตนารมณ์ไม่เห็นด้วยกับโครงการดังกล่าว โดยเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย และหวั่นในเรื่องของผลกระทบสิ่งแวดล้อม แต่บริษัทยังยืนยันที่จะเดินหน้าโครงการต่อ ในวันนี้จึงมีการรวมตัวกันออกมาปิดถนนเพื่อแสดงพลังอีกครั้ง











กำลังโหลดความคิดเห็น