พระนครศรีอยุธยา - ผู้ว่าฯพระนครศรีอยุธยา ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือชาวบ้านตำบลบางหัก อำเภอบางบาล พร้อมกำชับผู้นำท้องถิ่นเร่งให้ความช่วยเหลือในทุกด้านที่ราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยร้องขอ หากชาวบ้านร้องเรียนถึงผู้ว่าฯเอง เจอคาดโทษ
บ่ายวันนี้ (23 ส.ค.) นายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ลงพื้นที่ตำบลบางหัก อำเภอบางบาล เพื่อติดตามการให้ความช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมจนบ้านเรือน ไร่นา และพืชผลทางการเกษตรได้รับความเสียหายประมาณ 300 ครัวเรือน ใน 8 หมู่บ้าน โดยผู้ว่าฯ ได้กำชับนายอำเภอ กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำท้องถิ่น ให้ลงพื้นที่สำรวจอย่างจริงจัง เพื่อจะได้รับทราบปัญหาที่ชาวบ้านเดือดร้อนอย่างแท้จริง
พร้อมย้ำ ข้อมูลที่ได้รับรายงานจากชาวบ้านต้องเป็นไปอย่างถูกต้อง ไม่เช่นนั้นจะถือว่าเป็นการให้ข้อมูลเท็จ ต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งที่ผ่านมาได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาโดยตลอด ว่า ก่อนจะเกิดสถานการณ์อุทกภัยต้องมีการแต่งตั้งสายข่าว อาสาสมัคร คอยรายงานข้อมูลข่าวสารในพื้นที่ให้ทราบ 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ เพื่อคอยดูแลชาวบ้านในพื้นที่อย่างเต็มที่และทั่วถึง อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ ทางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ตั้งเต็นท์ชั่วคราว ห้องสุขาเคลื่อนที่ และติดตั้งไฟฟ้า ให้กับชาวบ้านที่ร้องขอมา
ส่วนบางพื้นที่ยังไม่ได้รับก็ต้องรอไปก่อน เนื่องจากสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด กำลังทยอยให้ความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว พร้อมกันนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ยังได้ให้หมายเลขโทรศัพท์ส่วนตัวเพื่อเปิดโอกาสให้ชาวบ้านร้องขอและรายงานความเดือดร้อนให้ทราบตลอด 24 ชั่วโมงที่หมายเลข 081 785 3322 ทำให้ชาวบ้านแสดงความพอใจที่ผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นคนที่พูดตรงช่วยเหลือจริง
ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวเพิ่มเติมว่า บางพื้นที่ในตำบลบางหัก ได้รับรายงานว่าบางจุดมีตลิ่งพัง และบ้านทรุด จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่เข้าไปให้ความช่วยเหลือแล้ว
ขณะเดียวกัน วันนี้ นางปาริชาติ ศรีวิพัฒน์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร ได้ลงพื้นที่ตำบลบางหักเช่นกันเพื่อติดตามการให้ช่วยเหลือราษฎรที่มีพื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหาย เนื่องจากขณะนี้ในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย สร้างความเสียหายให้กับพื้นที่การเกษตรอย่างมาก โดยเฉพาะพื้นที่นาข้าว รวมถึงพื้นที่การเกษตร ซึ่งได้รับความเสียหายล่าสุดกว่า 2 แสนไร่ ทั้งนี้ ได้เตรียมเมล็ดพันธุ์พืชแจกจ่ายให้กับเกษตรกรหลังน้ำลดแล้ว
นอกจากนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ยังเปิดเผยถึงงบประมาณที่ได้เสนอขอความช่วยเหลือชาวบ้านในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาเมื่อปี 2553 ได้ขอรัฐบาลชุดที่ผ่านมาเพิ่มไปอีก 20 ล้านบาท แต่รัฐบาลยุบสภาไปก่อนจึงทำให้ต้องหยุดชะงัก ดังนั้น จึงต้องรอรัฐบาลชุดใหม่ที่จะสานต่อ
บ่ายวันนี้ (23 ส.ค.) นายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ลงพื้นที่ตำบลบางหัก อำเภอบางบาล เพื่อติดตามการให้ความช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมจนบ้านเรือน ไร่นา และพืชผลทางการเกษตรได้รับความเสียหายประมาณ 300 ครัวเรือน ใน 8 หมู่บ้าน โดยผู้ว่าฯ ได้กำชับนายอำเภอ กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำท้องถิ่น ให้ลงพื้นที่สำรวจอย่างจริงจัง เพื่อจะได้รับทราบปัญหาที่ชาวบ้านเดือดร้อนอย่างแท้จริง
พร้อมย้ำ ข้อมูลที่ได้รับรายงานจากชาวบ้านต้องเป็นไปอย่างถูกต้อง ไม่เช่นนั้นจะถือว่าเป็นการให้ข้อมูลเท็จ ต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งที่ผ่านมาได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาโดยตลอด ว่า ก่อนจะเกิดสถานการณ์อุทกภัยต้องมีการแต่งตั้งสายข่าว อาสาสมัคร คอยรายงานข้อมูลข่าวสารในพื้นที่ให้ทราบ 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ เพื่อคอยดูแลชาวบ้านในพื้นที่อย่างเต็มที่และทั่วถึง อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ ทางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ตั้งเต็นท์ชั่วคราว ห้องสุขาเคลื่อนที่ และติดตั้งไฟฟ้า ให้กับชาวบ้านที่ร้องขอมา
ส่วนบางพื้นที่ยังไม่ได้รับก็ต้องรอไปก่อน เนื่องจากสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด กำลังทยอยให้ความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว พร้อมกันนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ยังได้ให้หมายเลขโทรศัพท์ส่วนตัวเพื่อเปิดโอกาสให้ชาวบ้านร้องขอและรายงานความเดือดร้อนให้ทราบตลอด 24 ชั่วโมงที่หมายเลข 081 785 3322 ทำให้ชาวบ้านแสดงความพอใจที่ผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นคนที่พูดตรงช่วยเหลือจริง
ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวเพิ่มเติมว่า บางพื้นที่ในตำบลบางหัก ได้รับรายงานว่าบางจุดมีตลิ่งพัง และบ้านทรุด จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่เข้าไปให้ความช่วยเหลือแล้ว
ขณะเดียวกัน วันนี้ นางปาริชาติ ศรีวิพัฒน์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร ได้ลงพื้นที่ตำบลบางหักเช่นกันเพื่อติดตามการให้ช่วยเหลือราษฎรที่มีพื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหาย เนื่องจากขณะนี้ในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย สร้างความเสียหายให้กับพื้นที่การเกษตรอย่างมาก โดยเฉพาะพื้นที่นาข้าว รวมถึงพื้นที่การเกษตร ซึ่งได้รับความเสียหายล่าสุดกว่า 2 แสนไร่ ทั้งนี้ ได้เตรียมเมล็ดพันธุ์พืชแจกจ่ายให้กับเกษตรกรหลังน้ำลดแล้ว
นอกจากนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ยังเปิดเผยถึงงบประมาณที่ได้เสนอขอความช่วยเหลือชาวบ้านในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาเมื่อปี 2553 ได้ขอรัฐบาลชุดที่ผ่านมาเพิ่มไปอีก 20 ล้านบาท แต่รัฐบาลยุบสภาไปก่อนจึงทำให้ต้องหยุดชะงัก ดังนั้น จึงต้องรอรัฐบาลชุดใหม่ที่จะสานต่อ