กาฬสินธุ์ -ผู้ว่าฯกาฬสินธุ์ ตั้งชุดเฉพาะกิจ 200 นาย ออกกวาดล้างขบวนการค้า-ตัดไม้พะยูง บนอุทยานแห่งชาติภูพาน และภูสีฐาน แฉนายทุนเพิ่มเงินและใช้ยาเสพติดจ้างชาวบ้านเข้าไปลักลอบตัด ระบุข้าราชการมีเอี่ยวจะถูกดำเนินการอย่างเด็ดขาด พร้อมเดินหน้าประชาสัมพันธ์สร้างเครือข่ายแจ้งข่าวและอนุรักษ์ป่า สนองพระราชเสาวนีย์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
วันนี้ (23 ส.ค.) นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ เป็นประธานประชุมคณะอนุกรรมการป้องกันและปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่า จ.กาฬสินธุ์ เพื่อร่วมกันสรุปผลการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมทั้งร่วมกันวางแนวทางการแก้ไขปัญหาการลักลอบตัดไม้ทำลายป่าที่เกิดขึ้นในพื้นที่จ.กาฬสินธุ์ โดยมี นายพนัส วงษ์รัตนะ ผอ.สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.กาฬสินธุ์ นายสราวุฒิ บุญเกื้อ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูพาน นายอำเภอในพื้นที่เสี่ยง และตัวแทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมกว่า 100 คน ที่ห้องประชุมชั้น 4 ศาลา จ.กาฬสินธุ์
นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า จากสถานการณ์การลักลอบตัดไม้ทำลายป่าในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ในขณะนี้ พบว่า มีกลุ่มนายทุนว่าจ้างให้ชาวบ้านเข้าไปลักลอบตัดจำนวนมาก โดยเฉพาะการลักลอบตัดไม้พะยูงในเขตอุทยานแห่งชาติภูพาน และอุทยานแห่งชาติภูสีฐาน ซึ่งนับวันมีแนวโน้มที่จะขยายวงกว้างและทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้น แม้เจ้าหน้าที่จะพยามยามป้องกันและปราบปรามมาอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังพบการกระทำผิด โดยที่ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย
นายวิโรจน์ กล่าวต่อว่า จากการลงพื้นที่พบว่า ขณะนี้กลุ่มนายทุนในพื้นที่และต่างชาติได้ว่าจ้างชาวบ้านเข้าไปตัดในราคาที่สูงถึงท่อนละ 3,000-5,000 บาท บางพื้นที่จ้างด้วยยาเสพติด เช่น ยาบ้า เพื่อเป็นสิ่งล่อใจ และที่สำคัญการลักลอบตัดไม้หลายแห่ง พบว่า เจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องและอยู่เบื้องหลัง ซึ่งคอยอำนวยความสะดวกต่างๆ ถือเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงอย่างมาก
ดังนั้น จึงมอบหมายให้นายอำเภอทุกแห่งเข้าไปตรวจสอบข้อมูลเชิงลึก ซึ่งหากพบว่าเจ้าหน้าที่รัฐคนใดมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิด ก็ให้ส่งรายชื่อ ยศ ตำแหน่ง สังกัด และรวบรวมหลักฐานส่งเข้ามาหาตนโดยตรง ซึ่งหากตรวจสอบแล้วพบว่ากระทำผิดจริง จะต้องถูกดำเนินการทางวินัยและอาญาอย่างเด็ดขาดไม่มีการยกเว้น เพราะถือว่าเป็นข้าราชการแต่ทำผิดเสียเอง
นายวิโรจน์ กล่าวอีกว่า จากสถานการณ์ดังกล่าวตนได้ตั้งชุดเฉพาะกิจปราบปรามการลักลอบการทำลายป่าไม้ขึ้นมา 2 ชุดๆ ละ 100 นาย โดยการสนธิกำลังกันทุกฝ่าย ทั้งเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติภูพาน ภูสีฐาน เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ตำรวจ ทหาร เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง กองร้อยอาสารักษาดินแดน และอส.ของอำเภอออกปฏิบัติหน้าที่กวาดล้างขบวนการลักลอบตัดไม้และการลักลอบค้าไม้พะยูงในพื้นที่เสี่ยง
โดยเฉพาะ อ.สมเด็จ อ.คำม่วง อ.สามชัย และ อ.กุฉินารายณ์ ในทุกรูปแบบ ทั้งการออกลาดตระเวน การตั้งด่านสกัด เข้าปูพรมตรวจค้น จับกุม เพื่อยับยั้งการบุกรุกและทำลายทรัพยากรป่าไม้ และสนองพระราชเสาวนีย์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
พร้อมกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ทราบถึงโทษของการตัดไม้ ควบคู่ไปกับการสร้างเครือข่ายการแจ้งข่าว และสร้างเครือข่ายอาสาสมัครเยาวชนพิทักษ์ป่า เพื่อให้ประชาชนที่หลงผิดได้มีความรัก หวงแหนทรัพยากรป่าไม้อีกด้วย
