ศูนย์ข่าวศรีราชา - ตำรวจพัทยาจับกรรมการฟุตบอล อ้างเป็นตำรวจหลอกเก็บเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำนอกระบบ โดยมีสาวใหญ่ 3 รายตกเป็นเหยื่อ แต่ยังไหวตัวทันซ้อนแผนรวบตัวได้ทันควัน
วันนี้ (23 ส.ค.54) กำลังตำรวจพัทยาจำนวนหนึ่ง ร่วมกันจับกุม นายสมชาย น้ำแก้ว อายุ 39 ปี หลังได้รับแจ้งจาก นางอรัญญา ชัยบำรุง อายุ 47 ปี ว่า บุคคลดังกล่าวต้องสงสัยว่าจะหลอกลวงฉ้อโกงทรัพย์ของตัวเองกับพวกไป
นางอรัญญา ผู้เสียหายให้การว่า เมื่อประมาณ 1 สัปดาห์ที่แล้ว ได้เดินทางพร้อมเพื่อน 2 คนไปเที่ยวที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง และได้รู้จักกับนายสมชาย โดยบังเอิญ ซึ่งเจ้าตัวอ้างว่าเป็นตำรวจอยู่ที่ จ.ยะลา แต่ขอลากลับมาเยี่ยมบ้านที่เมืองพัทยา จากนั้น นายสมชาย อ้างว่า มีผู้บังคับบัญชาเป็นนายตำรวจใหญ่ที่มีอาชีพเสริมด้วยการปล่อยเงินกู้นอกระบบ แต่ดอกเบี้ยต่ำประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ และสามารถเจรจาขอกู้ให้ได้ไม่ต่ำกว่า 1 แสนบาท แต่ต้องเสียค่านายหน้า 1 หมื่นบาท จึงหลงเชื่อและขอกู้เงินและรวมเงินกันได้ 3,000 บาท จ่ายให้ไปก่อนและนัดจ่ายอีกครั้งในวันนี้
นางอรัญญา ให้การเพิ่มอีกว่า ต่อมาได้นัดให้นายสมชาย มาเอาเงินส่วนที่เหลืออีก 7,000 บาท ที่ร้านอาหารในซอยเพชรตระกูล กระทั่งเจ้าตัวมาตามนัดจึงแอบโทรศัพท์แจ้งตำรวจ แต่เมื่อออกมากลับพบว่า นายสมชาย ไหวตัวทัน ขับรถ จยย.หลบหนีไป แต่ถูกตำรวจติดตามจับกุมตัวได้ในที่สุด
ด้าน นายสมชาย ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า มีอาชีพเป็นผู้ตัดสินฟุตบอลใน อ.บางละมุง รับจ้างตัดสินฟุตบอลตามงานทั่วไป ซึ่งรู้จักนายตำรวจคนดังกล่าว และสามารถขอกู้เงินได้จริง แต่อาจจะมีอะไรผิดพลาดเล็กน้อย จึงไม่สามารถติดต่อเจ้าของเงินกู้ได้
ภายหลังการสอบสวนเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหาฉ้อโกงทรัพย์ ก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย
วันนี้ (23 ส.ค.54) กำลังตำรวจพัทยาจำนวนหนึ่ง ร่วมกันจับกุม นายสมชาย น้ำแก้ว อายุ 39 ปี หลังได้รับแจ้งจาก นางอรัญญา ชัยบำรุง อายุ 47 ปี ว่า บุคคลดังกล่าวต้องสงสัยว่าจะหลอกลวงฉ้อโกงทรัพย์ของตัวเองกับพวกไป
นางอรัญญา ผู้เสียหายให้การว่า เมื่อประมาณ 1 สัปดาห์ที่แล้ว ได้เดินทางพร้อมเพื่อน 2 คนไปเที่ยวที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง และได้รู้จักกับนายสมชาย โดยบังเอิญ ซึ่งเจ้าตัวอ้างว่าเป็นตำรวจอยู่ที่ จ.ยะลา แต่ขอลากลับมาเยี่ยมบ้านที่เมืองพัทยา จากนั้น นายสมชาย อ้างว่า มีผู้บังคับบัญชาเป็นนายตำรวจใหญ่ที่มีอาชีพเสริมด้วยการปล่อยเงินกู้นอกระบบ แต่ดอกเบี้ยต่ำประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ และสามารถเจรจาขอกู้ให้ได้ไม่ต่ำกว่า 1 แสนบาท แต่ต้องเสียค่านายหน้า 1 หมื่นบาท จึงหลงเชื่อและขอกู้เงินและรวมเงินกันได้ 3,000 บาท จ่ายให้ไปก่อนและนัดจ่ายอีกครั้งในวันนี้
นางอรัญญา ให้การเพิ่มอีกว่า ต่อมาได้นัดให้นายสมชาย มาเอาเงินส่วนที่เหลืออีก 7,000 บาท ที่ร้านอาหารในซอยเพชรตระกูล กระทั่งเจ้าตัวมาตามนัดจึงแอบโทรศัพท์แจ้งตำรวจ แต่เมื่อออกมากลับพบว่า นายสมชาย ไหวตัวทัน ขับรถ จยย.หลบหนีไป แต่ถูกตำรวจติดตามจับกุมตัวได้ในที่สุด
ด้าน นายสมชาย ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า มีอาชีพเป็นผู้ตัดสินฟุตบอลใน อ.บางละมุง รับจ้างตัดสินฟุตบอลตามงานทั่วไป ซึ่งรู้จักนายตำรวจคนดังกล่าว และสามารถขอกู้เงินได้จริง แต่อาจจะมีอะไรผิดพลาดเล็กน้อย จึงไม่สามารถติดต่อเจ้าของเงินกู้ได้
ภายหลังการสอบสวนเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหาฉ้อโกงทรัพย์ ก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย