ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - จนท.อุทยานฯทับลาน เครียด กลุ่มมือปืนเหิมหนักขับรถบุกที่ทำการ คาด ชี้เป้า เชื่อ ผู้บงการอยู่ในเขต อ.นาดี ปราจีนบุรี เป็นกลุ่มนายทุนใหญ่ และ ขรก.ท้องถิ่น เสียผลประโยชน์มหาศาลจากการปราบบุกรุกป่า เผย ขอปืน “M16” จาก นอภ.2 กระบอกยังไม่ตอบรับ ขณะ ตร.โคราช สนธิกำลังปราจีน ส่งกำลังคุ้มครองเข้มกว่า 10 นาย ยันไม่หวั่นติดป้ายสั่งรื้อรีสอร์ตแล้ว 46 แห่ง ด้าน ส.ป.ก.ลุยตรวจสอบที่ดิน อ.วังน้ำเขียว ล่าสุด กว่า 2,000 ราย ผิดอื้อ พบสร้างโรงแรมรีสอร์ต อีก 99 แห่ง
วันนี้ (22 ส.ค.) นายนุวรรต ลีลาพตะ ผู้ช่วยอุทยานแห่งชาติทับลาน เปิดเผยถึงการดำเนินการติดป้ายประกาศอุทยานฯ ตามอำนาจมาตรา 22 พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ 2504 สั่งให้ผู้บุกรุกรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกจากเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน ว่า ล่าสุด ในวันนี้ เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการติดป้ายประกาศ เพิ่มเติมอีก 8 แห่ง ใน ต.บุพราหมณ์ และ ต.ทุ่งโพธิ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี รวมติดป้ายประกาศ สั่งรื้อถอนไปทั้งสิ้นแล้ว 46 แห่ง จากทั้งหมด 55 แห่ง ส่วนที่เหลืออีก 9 แห่ง มีบางรายที่ไม่ต้องติดป้ายประกาศ เนื่องจากมีการดำเนินคดีถึงที่สุดแล้วและศาลมีคำสั่งให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างพร้อมบริวารออกจากพื้นที่
นอกจากนี้ ยังมีรีสอร์ตหรู อีก 2 ราย ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของกรมอุทยานฯ คือ รีสอร์ตทะเลหมอก พื้นที่ 62 ไร่ 2 งาน และ เมืองในหมอก พื้นที่ 12 ไร่ 2 งาน ซึ่งเจ้าของได้ส่งมอบพื้นที่คืนให้กับกรมอุทยานฯ และมีการประกาศขึ้นทะเบียนเป็นที่ราชพัสดุ ผู้ประกอบการทั้ง 2 ราย จึงทำเรื่องเช่าพื้นที่ดินจากกรมอุทยานฯ แต่ทางกรมฯ ไม่มั่นใจว่า ให้เช่าได้หรือไม่ จึงส่งเรื่องให้กฤษฎีกาตีความ และล่าสุด กฤษฎีกาตีความออกมาแล้วว่าไม่ได้ จึงอยู่ระหว่างการพิจารณาของกรมฯ ซึ่งคดีทางอาญาศาลตัดสินแล้วทั้ง 2 แห่ง โดยสั่งปรับเจ้าของรีสอร์ตทะเลหมอก 7.5 หมื่นบาท จำคุก 2 ปี โทษจำคุกรอลงอาญา 2 ปี ส่วนรีสอร์ตเมืองในหมอก สั่งปรับ 1 หมื่นบาท จำคุก 1 ปี โทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี
ส่วนการฟ้องแพ่งเจ้าของรีสอร์ตทั้ง 2 รายนั้น กรณีของรีสอร์ตเมืองในหมอก กรมอุทยานฯ ได้ฟ้องเรียกค่าเสียหาย 2.5 ล้านบาท ศาลมีคำตัดสินให้จ่าย 1.2 ล้านบาท แต่เจ้าของรีสอร์ตยังนิ่งเฉย และยังเปิดดำเนินกิจการต่อเนื่อง กระทั่งวันที่ 1 พ.ค.54 ซึ่ง นายเทวินทร์ มีทรัพย์ หัวหน้าอุทยานฯ คนปัจจุบัน ได้ทำหนังสือถือกรมอุทยานฯ ให้แจ้งศาลบังคับคดี เนื่องจากผู้ประกอบการไม่ได้จ่ายเงินให้แก่อุทยานฯ ส่วนรีสอร์ตทะเลหมอก ฟ้องเรียกค่าเสียหาย 10.8 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการต่อสู้คดี
จนถึงขณะนี้มีผู้ประกอบการบ้านพักรีสอร์ตบุกรุกอุทยานฯ ทับลาน ที่เจ้าหน้าที่เข้าไปติดป้ายประกาศให้รื้อถอน ได้ยื่นอุทธรณ์เข้ามาประมาณ 30 ราย ส่วนใหญ่เป็นเจ้าของบ้านพักรีสอร์ตขนาดใหญ่ จากนี้ไปจะเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย ส่วนรีสอร์ตบ้านพักบุกรุกอุทยานฯ ทับลาน ที่เหลืออีกประมาณ 3-4 แห่ง ที่ต้องดำเนินการติดป้ายประกาศสั่งรื้อถอนให้ครบ นั้น อยู่ใน อ.เสิงสาง, อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา คาดว่า จะแล้วเสร็จภายภายสัปดาห์นี้ ส่วนกลุ่มผู้บุกรุกที่ไม่มีสิ่งปลูกสร้างอีก 59 แห่ง จะทยอยดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือนนี้เช่นกัน
อุทยานฯทับลานเครียด กลุ่มมือปืนเหิมบุกชี้เป้า
นายนุวรรต กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีพบการเคลื่อนไหวของกลุ่มมือปืนในพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลานนั้น ล่าสุด หลังมีข่าวดังกล่าวเกิดขึ้น เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ทับลาน มีความเครียดกันมาก ซึ่งจากข่าวในเชิงลึก พบว่า มีการจ้างซุ้มมือปืนมาจากหลายทาง ทั้ง จ.สระบุรี และ จ.ปราจีนบุรี จากการวิเคราะห์เชื่อว่า ผู้ที่บงการไม่น่าจะอยู่ใน อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา เพราะผู้ที่เข้ามาทำบ้านพักรีสอร์ตในเขต อ.วังน้ำเขียว ส่วนใหญ่มักเป็นคนรักความสงบอยู่แล้ว แต่ผู้บงการน่าจะอยู่ทางฝั่งด้าน ต.ทุ่งโพธิ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี มากกว่า เพราะเป็นกลุ่มนายทุนรายใหญ่ และกลุ่มข้าราชการนักการเมืองในท้องที่ ที่มีการบุกรุกที่ดินอุทยานฯทับลานจำนวนมาก ทั้งการสร้างบ้านพัก รีสอร์ต การจัดสรรให้เช่าที่ดินต่อและทำการเกษตรขนาดใหญ่ ทำให้กลุ่มคนเหล่านี้เสียผลประโยชน์มหาศาล และข้อมูลในทางลับของเจ้าหน้าที่ตำรวจก็พบว่าคนกลุ่มนี้มีการเคลื่อนไหวมีการเก็บเงินลงขันกันจริง อีกทั้งคนในวงการซุ้มมือปืน ซึ่งคนของเราก็พอรู้จักบ้างให้ข้อมูลตรงกันว่า มีกลุ่มมือปืนเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่จริง
ล่าสุด เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมามีรถยนต์ต้องสงสัย ซึ่งคนขับเป็นคนสนิทของข้าราชการท้องถิ่นคนหนึ่งใน ต.ทุ่งโพธิ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ขับเข้ามาวนเวียนในบริเวณที่ทำการอุทยานฯทับลานอย่างมีพิรุธ คือ ขับช้าๆ แต่ไม่ยอมลงจากรถมาพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ แตกต่างจากประชาชนนักท่องเที่ยวทั่วไปที่จะเข้ามาสอบถามข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ คิดว่า อาจเข้ามาสอดแนม หรือมาชี้เป้าหรือก็เป็นได้ ขณะนี้กำลังตรวจสอบว่าเจ้าหน้าที่ได้จดทะเบียนรถยนต์ไว้หรือไม่ เพราะในช่วงกลางวันสถานที่ราชการเป็นสถานที่เปิดมักมีนักท่องเที่ยวและประชาชนเดินทางเข้า-ออก อยู่ตลอดเวลา รถยนต์บางคันก็ไม่ได้จดหมายเลขทะเบียนไว้
นายนุวรรต กล่าวต่อว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่เราต้องเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้นหลายเท่าตัว เพราะคนจ้องกับคนระวังตัวไม่เหมือนกัน ในส่วนของตำรวจ สภ.วังขอนแดง อ.นาดี และ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปราจีนบุรี รวมทั้งศูนย์สืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 3 และ หน่วยปฏิบัติการพิเศษตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา ได้ส่งกำลังตำรวจเข้ามาดูแลความปลอดภัยรวมกว่า 10 นาย ซึ่งบางส่วนได้ประจำอยู่กับเจ้าหน้าที่อุทยานฯ บริเวณด่านตรวจประตูทางเข้าที่ทำการอุทยานฯทับลาน และอีกส่วนหนึ่งลงหาข่าวในพื้นที่ นอกจากนี้ ยังมีการตั้งตู้แดง ไว้หน้าที่ทำการอุทยานฯ เพื่อเจ้าหน้าที่สายตรวจจะได้มาตรวจตราถี่และเข้มงวดมากขึ้น
ส่วนการขอสนับสนุนอาวุธปืนนั้น เมื่อสัปดาห์ที่แล้วทางอุทยานฯทับลาน ได้ทำหนังสือขอสนับสนุนอาวุธปืนไปยังนายอำเภอนาดี จำนวน 2 กระบอก เป็นอาวุธปืนชนิด M 16 เนื่องจากอาวุธปืนที่มีอยู่ไม่เพียงพอและสภาพไม่พร้อมใช้งาน แต่ยังไม่ได้รับการตอบกลับมา ขณะเดียวกันได้ทำเรื่องขอการสนับสนุนไปทางกรมอุทยานฯ ด้วย
ตรวจพบรีสอร์ตรุก ส.ป.ก.วังน้ำเขียวอีก 99 ราย
วันเดียวกันนี้ (22 ส.ค.) นายสถิตพงษ์ สุดชูเกียรติ รองเลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) แถลงความคืบหน้าผลการตรวจสอบการใช้ประโยชน์ที่ดิน ส.ป.ก. อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ว่า ผลการตรวจสอบที่ดินที่ใช้ผิดเงื่อนไขของกฎหมาย ส.ป.ก.ในรอบที่ 2 จำนวน 2,009 ราย 3,461 แปลง พบว่า มีผู้กระทำผิดจำนวนมาก โดยพบว่ามีการสร้างโรงแรมและรีสอร์ตจำนวน 99 แห่ง เป็นโรงแรมขนาดใหญ่ 3 แห่ง รีสอร์ต 63 แห่ง ร้านอาหาร 4 บ้านพักโฮมสเตย์ 24 ปั๊มน้ำมัน 1 แห่ง โรงผสมคอนกรีต 1 แห่ง และร้านค้า 3 แห่ง
เมื่อร่วมกับการตรวจสอบที่ผ่านมา มียอดตรวจสอบแล้วสะสมร่วม 2,735 ราย 3,461 แปลง เชื่อว่าเป้าหมายการตรวจสอบทั้ง 6,412 ราย ใน อ.วังน้ำเขียว รวมกว่า 2.4 แสนไร่ จะแล้วเสร็จประมาณ 20 ก.ย.นี้ เร็วกว่ากำหนดเดิมที่ตั้งไว้ 30 ก.ย.และผลจากที่ได้ทั้งหมดจะนำมาจัดกลุ่มความผิดเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายซึ่งจะมีโทษหนักเบาต่างกันตามความผิด แต่กรณีที่ไม่ใช่เกษตรกรจะต้องออกจากพื้นที่และรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกไปภายใน 30 วัน
นายสถิตพงษ์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ เมื่อมาแยกดูการตรวจสอบเป็นรายตำบล จะพบว่า ต.ไทยสามัคคี เกษตรกรจำนวน 522 ราย 649 แปลง พบทำถูกระเบียบ 342 ราย 460 แปลง และทำผิดระเบียบ 180 ราย 189 แปลง หรือ คิดเป็น 34.48 เปอร์เซ็นต์ ส่วน ต.วังน้ำเขียว ต.อุดมทรัพย์และ ต.วังหมี เกษตรกรจำนวน 1,624 ราย 2,044 แปลง 41,379 ไร่ ถูกระเบียบ 978 ราย เนื้อที่ 25,562 ไร่ ผิดระเบียบ 649 ราย เนื้อที่ 15,817 ไร่ หรือ 39.77 เปอร์เซ็นต์ เช่น สร้างรีสอร์ต ขาย ให้เช่า ทิ้งร้าง ให้ทำประโยชน์ฟรีและขายบางส่วน
สรุปแล้วผลการตรวจสอบพื้นที่สร้างโรงแรมรีสอร์ต ร้านอาหาร ที่พักตากอากาศ โฮมสเตย์ ที่พักเพื่อการท่องเที่ยวอื่นๆ ทั้งพื้นที่ ส.ป.ก.ที่จัดสรรแล้ว และพื้นที่ยังไม่จัดสรรให้เกษตรกร ใน อ.วังน้ำเขียว ตั้งแต่วันที่ 15-22 สิงหาคม พบผิดวัตถุประสงค์จำนวนทั้งสิ้น 120 แห่ง โดยแยกเป็นพื้นที่เป้าหมายตรวจสอบไว้เดิม 21 แห่ง พบทำผิดระเบียบใหม่ 99 แห่ง
“นอกจากการตรวจสอบกรณีการใช้ที่ดิน ส.ป.ก.ผิดวัตถุประสงค์ใน อ.วังน้ำเขียว แล้วจะได้ประสานให้มีการตรวจสอบการครอบครองที่ดิน ส.ป.ก.ใน จ.สระบุรี และ จ.กาญจนบุรี ซึ่งมีปัญหาการบุกรุก เปลี่ยนมือ และใช้ผิดวัถตุประสงค์จำนวนมากเช่นกัน” นายสถิตพงษ์ กล่าว