ตราด - รองนายกเทศบาลเกาะช้างดันรัฐบาล ยก “อ.เกาะช้าง” เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ รองรับ “รวมเป็นหนึ่งอาเซียน” ในอีก 4 ปีข้างหน้า ดันเกาะช้างศูนย์กลางท่องเที่ยว
นายวินัย กาวิชัย รองนายกเทศบาล ต.เกาะช้าง อ.เกาะช้าง จ.ตราด เปิดเผยว่า จากภาวะเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกตกต่ำ ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าสู่ประเทศชะลอตัวลง ทำให้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาไทย จำนวน 19 ล้านคน ตามที่กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาได้รายงานตัวเลขออกมา โดยในจำนวนนี้มีนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศกว่า 300,000-400,000 คน เดินทางมาที่ อ.เกาะช้าง จ.ตราด
การเติบโตที่ลดลง ทำให้อัตราการเข้าพักอยู่ในระดับต่ำกว่าทุกปี เป็นเรื่องที่เทศบาลเกาะช้าง ผู้ประกอบการ และ จ.ตราด จะต้องเข้ามาผลักดันให้การท่องเที่ยวของ อ.เกาะช้าง เติบโตและยกระดับคุณภาพให้ดีขึ้น เพราะเกาะช้างในปัจจุบันเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ชาวต่างประเทศและชาวไทยรู้จักอย่างแพร่หลายอยู่แล้ว
“จากความเติบโตของธุรกิจท่องเที่ยวใน อ.เกาะช้าง และพื้นที่ใกล้เคียง ทำให้เกาะช้างเป็นแหล่งดอลลาร์โซลในแต่ละปีเกาะช้างมีรายได้มากกว่า 1,000 ล้านบาท/ปี เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษทางการท่องเที่ยวเหมือนแผนที่ อพท.ได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2547 แต่มาหยุดชะงักไปในรัฐบาลชุดต่อๆ มา วันนี้จึงอยากเห็นรัฐบาลใหม่ผลักดันให้ อพท.ดำเนินการผลักดันให้เร็วที่สุด”
นายวินัย กล่าวเพิ่มเติมอีกว่าในอีก 4 ปีข้างหน้า ประเทศไทย และกลุ่มประเทศอาเซียนจะรวมกันเป็น 1 หรือเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน จะส่งผลดีต่อการพัฒนาการท่องเที่ยว ของ อ.เกาะช้าง ซึ่งทำให้ทั้ง 10 ประเทศเป็นเสมือนประเทศเดียว การเดินทางท่องเที่ยวจะสะดวกเพียงใช้พาสปอร์ตเล่มเดียว ไม่ต้องมีวีซ่า อ.เกาะช้าง จ.ตราด สามารถเชื่อมไปสู่กัมพูชา เวียดนาม และประเทศอื่นได้อย่างสะดวกสบาย และจะกลายเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของภูมิภาคในอนาคตด้วย แต่ จ.ตราด และผู้ประกอบการจะต้องปรับตัวให้เร็วที่สุด
การที่ อ.เกาะช้าง มีนักท่องเที่ยวสูงเกิน 1 ล้านคนในแต่ละปี และมีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้น แต่ปัญหาของ อ.เกาะช้าง คือ โครงสร้างพื้นฐานโดยเฉพาะถนนที่ปัจจุบันชำรุดและคับแคบ ไหล่ถนนก็ไม่มี รวมทั้งถนนก็ยังไม่รอบเกาะด้วย เทศบาล ต.เกาะช้าง แม้มีรายได้ 40 ล้านบาท/ปี แต่มีงบพัฒนาแค่ 5-6 ล้านบาท กับความรับผิดชอบ 40 กม.และยังมีโครงการอื่นๆ อีกจะเข้าไปแก้ปัญหาได้อย่างไร ก็งบประมาณมีแค่นี้ ปัจจุบัน เขตรับผิดชอบของเทศบาลเกาะช้าง มีมากถึง 178 ตารางกิโลเมตร ซึ่งมากเกินศักยภาพของเทศบาล ต.เกาะช้าง จะดูแลได้อย่างทั่วถึง
นายวินัย กาวิชัย รองนายกเทศบาล ต.เกาะช้าง อ.เกาะช้าง จ.ตราด เปิดเผยว่า จากภาวะเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกตกต่ำ ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าสู่ประเทศชะลอตัวลง ทำให้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาไทย จำนวน 19 ล้านคน ตามที่กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาได้รายงานตัวเลขออกมา โดยในจำนวนนี้มีนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศกว่า 300,000-400,000 คน เดินทางมาที่ อ.เกาะช้าง จ.ตราด
การเติบโตที่ลดลง ทำให้อัตราการเข้าพักอยู่ในระดับต่ำกว่าทุกปี เป็นเรื่องที่เทศบาลเกาะช้าง ผู้ประกอบการ และ จ.ตราด จะต้องเข้ามาผลักดันให้การท่องเที่ยวของ อ.เกาะช้าง เติบโตและยกระดับคุณภาพให้ดีขึ้น เพราะเกาะช้างในปัจจุบันเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ชาวต่างประเทศและชาวไทยรู้จักอย่างแพร่หลายอยู่แล้ว
“จากความเติบโตของธุรกิจท่องเที่ยวใน อ.เกาะช้าง และพื้นที่ใกล้เคียง ทำให้เกาะช้างเป็นแหล่งดอลลาร์โซลในแต่ละปีเกาะช้างมีรายได้มากกว่า 1,000 ล้านบาท/ปี เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษทางการท่องเที่ยวเหมือนแผนที่ อพท.ได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2547 แต่มาหยุดชะงักไปในรัฐบาลชุดต่อๆ มา วันนี้จึงอยากเห็นรัฐบาลใหม่ผลักดันให้ อพท.ดำเนินการผลักดันให้เร็วที่สุด”
นายวินัย กล่าวเพิ่มเติมอีกว่าในอีก 4 ปีข้างหน้า ประเทศไทย และกลุ่มประเทศอาเซียนจะรวมกันเป็น 1 หรือเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน จะส่งผลดีต่อการพัฒนาการท่องเที่ยว ของ อ.เกาะช้าง ซึ่งทำให้ทั้ง 10 ประเทศเป็นเสมือนประเทศเดียว การเดินทางท่องเที่ยวจะสะดวกเพียงใช้พาสปอร์ตเล่มเดียว ไม่ต้องมีวีซ่า อ.เกาะช้าง จ.ตราด สามารถเชื่อมไปสู่กัมพูชา เวียดนาม และประเทศอื่นได้อย่างสะดวกสบาย และจะกลายเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของภูมิภาคในอนาคตด้วย แต่ จ.ตราด และผู้ประกอบการจะต้องปรับตัวให้เร็วที่สุด
การที่ อ.เกาะช้าง มีนักท่องเที่ยวสูงเกิน 1 ล้านคนในแต่ละปี และมีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้น แต่ปัญหาของ อ.เกาะช้าง คือ โครงสร้างพื้นฐานโดยเฉพาะถนนที่ปัจจุบันชำรุดและคับแคบ ไหล่ถนนก็ไม่มี รวมทั้งถนนก็ยังไม่รอบเกาะด้วย เทศบาล ต.เกาะช้าง แม้มีรายได้ 40 ล้านบาท/ปี แต่มีงบพัฒนาแค่ 5-6 ล้านบาท กับความรับผิดชอบ 40 กม.และยังมีโครงการอื่นๆ อีกจะเข้าไปแก้ปัญหาได้อย่างไร ก็งบประมาณมีแค่นี้ ปัจจุบัน เขตรับผิดชอบของเทศบาลเกาะช้าง มีมากถึง 178 ตารางกิโลเมตร ซึ่งมากเกินศักยภาพของเทศบาล ต.เกาะช้าง จะดูแลได้อย่างทั่วถึง
