แกนนำจี้ปลดคณบดีคณะ วจก.ม.ราชภัฏแปดริ้ว เข้ารับทราบข้อกล่าวหา หลังถูกแจ้งหมิ่น

ฉะเชิงเทรา - แกนนำจี้ปลดคณบดีคณะวิทยาการจัดการ ถูกแจ้งข้อหาหมิ่นประมาทก่อน เข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา โดยมีคณาจารย์ร่วมคณะแห่ให้กำลังใจแน่น ขณะแนวร่วมหลายราย เผยเตรียมพร้อมเดินหน้าต่อสู้อย่างหนักยิ่งขึ้น

วันนี้ (16 ส.ค.) ที่ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา นางวริศรา เชนะโยธิน อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 253 ถ.ประชาสรรค์ ต.หน้าเมืองอ.เมืองฉะเชิงเทรา ประธานสาขาวิชา วิทยาการจัดการมหาวิทยาลัยราชภัฎราชนครินทร์ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทราพร้อมคณาจารย์ร่วมคณะที่เดินทางมาให้กำลังใจกว่า 10 คน ได้เข้าพบ ร.ต.อ.บุญสฤษดิ์ ช่วยชู พนักงานสอบสวน สบ1 ร้อยเวรผู้รับผิดชอบคดีอาญาที่ 996/2554 ในกรณี ผศ.ดร.พรพิมล วิริยะกุลย์ คณบดีคณะวิทยาการจัดการมหาวิทยาลัยราชภัฎราชนครินทร์ ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ ในข้อหา

“หมิ่นประมาท ด้วยการโฆษณา” หลังจากถูกร้องเรียนเรื่องการบริหารงานภายในคณะด้วยความไม่โปร่งใสและขาดหลักธรรมาภิบาล ตั้งแต่เมื่อวันที่ 11 ก.ค.54 ที่ผ่านมา

ร.ต.อ.บุญสฤษดิ์ พนักงานสอบสวน ได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ฝ่ายผู้ตกเป็นจำเลยในคดีได้รับทราบว่าถูกแจ้งความให้ดำเนินคดีในข้อหา “หมิ่นประมาท ด้วยการโฆษณา” ในกรณีส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ หรือ อีเมล 2 ฉบับ แฉพฤติกรรมการบริหารงาน ไปยังสื่อต่างๆ หลังจากจำเลยเห็นว่าฝ่ายโจทก์ใช้อำนาจในการบริหารงานอย่างไม่เป็นธรรม ขาดหลักธรรมาภิบาล ผิดวินัย และเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ซึ่งข้อความบนหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมดนั้น เป็นการกล่าวหาให้ได้รับความเสียหายต่อชื่อเสียงหากมีผู้อ่านข้อความจะถูกดูหมิ่นเกลียดชัง จึงได้แจ้งความดำเนินคดีในข้อหาดังกล่าวในครั้งนี้

หลังจากนั้น พนักงานสอบสวนได้ให้ฝ่ายจำเลยลงชื่อรับทราบข้อกล่าวหาพร้อมพิมพ์ลายนิ้วมือไว้เป็นหลักฐานก่อนปล่อยตัวให้เดินทางกลับไปในที่สุด

ด้าน นางวริศรา ได้ปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา พร้อมจะขอไปให้การ และแสดงหลักฐานในการต่อสู้คดีเกี่ยวกับความไม่โปร่งใสในการบริหารงานภายในคณะ ของฝ่ายโจทย์ในชั้นศาลเองพร้อมระบุว่า ได้เตรียมหลักฐานชิ้นสำคัญต่างๆ ไว้ต่อสู้คดีอย่างครบถ้วนเรียบร้อยแล้ว ว่าข้อความที่ถูกเผยแพร่ออกไปนั้น คือข้อเท็จจริงที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อองค์กรของรัฐและนักศึกษาผู้เรียนและเป็นผลที่เกิดขึ้นจากการบริหารงานภายในคณะดังกล่าว

ส่วน ดร.กิตติวงศ์ สาสวด อายุ 40 ปี อาจารย์ผู้สอนประจำคณะและประธานสาขาวิชาเศรษฐศาสตร์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาหลังจากคณาจารย์ภายในคณะได้ร้องเรียนไปยังผู้บริหารระดับสูงของมหาวิทยาลัยแล้ว ตั้งแต่เมื่อช่วงต้นเดือน ก.ค.54 ที่ผ่านมา ได้รอเวลาเพื่อปล่อยให้เป็นไปตามขั้นตอน กระบวนการของการบริหารงานภายในเป็นเวลานานกว่า 1 เดือนเต็มแล้ว แต่ก็ยังไม่มีการดำเนินแก้ไขปัญหาที่ชัดเจนใดๆ เกิดขึ้นจากผู้บริหารของมหาวิทยาลัย แต่อย่างใด

หลังจากนี้ ทางคณาจารย์ที่เข้าร่วมเคลื่อนไหวในครั้งนี้ ทั้งหมดมากในคณะวิทยาการจัดการ ใน 7 สาขาวิชา จากทั้งหมด 8 สาขาวิชา จะเริ่มดำเนินการในขั้นตอนที่หนักหน่วงขึ้นตามแนวทางการต่อสู้ที่ได้เตรียมการไว้ เพื่อให้เกิดความถูกต้องเป็นธรรมขึ้นในหน่วยงาน และคณะวิทยาการการจัดการ หลังจากที่ปล่อยให้ฝ่ายบริหาร ได้ทำการแก้ไขปัญหาแล้วแต่ยังไม่มีผลความคืบหน้าใดๆ เกิดขึ้น