พิษณุโลก - แม่ทัพภาคที่ 3 ยันเลือกตั้งรอบนี้ ยังไม่ถึงขั้นต้องตั้งวอร์รูม มีแต่ส่งหน่วยข่าวลงพื้นที่เกาะติดทั่ว 17 จังหวัดภาคเหนือ พร้อมประเมินสถานการณ์วันต่อวัน ย้ำทหารวางตัวเป็นกลาง พร้อมเดินสายปลุกนักศึกษาวิชาทหารรับมือการเปลี่ยนแปลงสังคมไทย
วันนี้ (1 มิ.ย.) ที่มหาวิทยาลัยราชภัฎพิบูลสงครามพิษณุโลก พล.ท.วรรณทิพย์ ว่องไว แม่ทัพภาคที่ 3 และผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 พร้อมเจ้าหน้าที่จากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งและสำนักงาน ป.ป.ส.ได้เปิดพิธีและร่วมชี้แจงสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับเลือกตั้ง ส.ส. แก่นักศึกษาวิชาทหาร (รด.) จำนวน 93 สถาบันในจังหวัดพิษณุโลกและสุโขทัยจำนวน 2,833 นาย และหลังจากนี้แม่ทัพภาคที่ 3 ก็จะเดินสายชี้แจงทั่วทั้ง 17 จังหวัด
หลังพิธีเปิดงานดังกล่าว แม่ทัพภาคที่ 3 ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า มาวันนี้ก็เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับสถานการณ์ภัยคุกคามที่มีผลต่อความมั่นคงของชาติ ทั้งยาเสพติด การปกป้องเทิดทูนและส่งเสริมความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ให้แก่นักศึกษาวิชาทหารในจังหวัดพิษณุโลก และสุโขทัย เนื่องจากเป็นกลุ่มที่ใหม่ ยังไม่ทราบการเปลี่ยนแปลงทางสังคมโลก โดยเฉพาะเรื่องการเลือกตั้ง จึงต้องชี้แจงร่วมกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)
ส่วนข้อซักถามที่ว่า พรรคเพื่อไทย กับพรรคประชาธิปัตย์ ใครจะชนะการเลือกตั้งนั้น มทภ.3 บอกว่า ทหารคงไม่ไปยุ่ง คิดว่า ทหารก็ทำหน้าที่ให้ส่วนของทหาร ก็ขอให้ทุกคนออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งให้มากเท่านั้น
ทั้งนี้ หากพรรคเพื่อไทยผิดหวัง หรือพ่ายแพ้การเลือกตั้ง จะเกิดความรุนแรงในภาคเหนือหรือไม่นั้น แม่ทัพภาคที่ 3 บอกว่า ระยะเวลาที่เหลืออีกกว่า 30 วัน ประเมินอะไรแน่ชัดไม่ได้ ทหารก็คงต้องทำหน้าที่ของตน แต่กองทัพภาคที่ 3 ยังไม่ถึงขั้นต้องตั้งวอร์รูมเลือกตั้ง เพียงแต่มีหน่วยข่าวสายทหารอยู่ในทุกพื้นที่ กองทัพจะประเมินข่าวเลือกตั้งวันต่อวันเท่านั้น
แม่ทัพภาคที่ 3 กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ก็ไม่ได้สั่งอะไรเป็นพิเศษแก่กำลังพล ทำตามนโยบาย ผบ.ทบ. คือ ทหารวางตัวเป็นกลาง ส่วนการของกำลังทหารคุ้มครองผู้สมัครนั้นยังไม่มีเข้ามา คิดว่าคงใกล้ๆวันเลือกตั้งก่อน เช่นเดียวกับการขอเฮลิคอปเตอร์ขนหีบบัตรเลือกตั้ง ก็ยังไม่มี อาจยังไม่ถึงเวลา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนั้นแม่ทัพภาคที่ 3 ได้เดินทางต่อไปที่มหาวิทยาลัยราชภัฎอุตรดิตถ์ เพื่อพบกับผู้บริหารสถานศึกษาและนักศึกษาวิชาทหารอีกประมาณ 2,000 นาย
