จันทบุรี - เกิดพายุฝนพัดบ้านเรือนกว่า 100 หลังคาเรือนใน 2 อำเภอ คือ พื้นที่อำเภอขลุง และอำเภอเมือง มีสวนผลไม้กว่า 100 ไร่ ในพื้นที่ตำบลคลองนารายณ์ อำเภอเมืองจันทบุรี เสียหาย ขณะที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดลงพื้นที่ให้การช่วยเหลือ
วันนี้ (2 ส.ค.) ได้เกิดพายุฝนลมแรงพัดบ้านเรือนของชาวบ้านในพื้นที่ตำบลบ่อ ตำบลมาบไพร อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี และตำบลคลองนารายณ์ อำเภอเมือง กว่า 100 หลังคาเรือนเสียหาย โดยเฉพาะบ้านของนางแย้ม จิตจำนงค์ อายุ 78 ปี อยู่บ้านเลขที่ 36/3 หมู่ที่ 4 ตำบลบ่อ อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี ถูกพายุฝนพัดต้นไม้พะยอมล้มทับบ้านพังเสียหายทั้งหลัง
พร้อมกันนี้ได้มีบ้านของนางพิสมัย เหรียญทอง อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 24/6 หมู่ที่ 3 ตำบลบ่อ อำเภอขลุง จังหวัดจันบุรี ถูกพายุฝนพัดฝาผนังบ้านที่ก่อด้วยอิฐบล็อกล้มพังเสียหายเช่นกัน
นอกจากนี้ ในพื้นที่ตำบลมาบไพร อำเภอขลุง และตำบลคลองนารายณ์ อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี มีบ้านเรือนของชาวบ้านกว่า 100 หลังคาเรือน ถูกพายุฝนพัดกระเบื้องหลังคาปลิวหายไป และสวนผลไม้ เช่น ต้นทุเรียน มังคุด และลองกองล้มหักโค่น เสียหายกว่า 100 ไร่
ในเบื้องต้นทางนายอำเภอขลุง และหัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดจันทบุรี รวมถึง นายกเทศบาลตำบลบ่อ และนายกองค์การบริหารส่วนตำบลมาบไพร และนายกองค์การบริหารส่วนตำบลคลองนารายณ์ ได้ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายเกี่ยวกับพายุฝนพัดบ้านเรือนของชาวบ้านในเบื้องต้นแล้ว พร้อมกันนี้ทางป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดจันทบุรีได้มีการแจกจ่ายกระเบื้องหลังคาให้แก่ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนในเบื้องต้นไปบางส่วนแล้ว ส่วนเงินชดเชยทางองค์การบริหารส่วนตำบล และเทศบาลตำบลในท้องที่จะได้มีการสำรวจความเสียหายและจัดงบประมาณให้การช่วยเหลือต่อไป
สำหรับพื้นที่จังหวัดจันทบุรีในช่วงนี้ได้เกิดพายุฝนลมกระโชกแรงบ่อยครั้ง ทั้งนี้ ทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดจันทบุรี ได้ขอฝากให้ชาวบ้านได้เพิ่มความระมัดระวังในการป้องกันหากเกิดลมกระโชกแรง หรือมีพายุลมแรงขอให้ชาวบ้านอยู่ในที่ที่ปลอดภัย และควรสำรวจบ้านของตัวเองว่ามีความคงทนแข็งแรงมากน้อยแค่ไหน นอกจากนี้ขอให้ชาวบ้านได้มีการติดตามข่าวสารการพยากรณ์อากาศในระยะนี้อย่างใกล้ชิดอีกด้วย
วันนี้ (2 ส.ค.) ได้เกิดพายุฝนลมแรงพัดบ้านเรือนของชาวบ้านในพื้นที่ตำบลบ่อ ตำบลมาบไพร อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี และตำบลคลองนารายณ์ อำเภอเมือง กว่า 100 หลังคาเรือนเสียหาย โดยเฉพาะบ้านของนางแย้ม จิตจำนงค์ อายุ 78 ปี อยู่บ้านเลขที่ 36/3 หมู่ที่ 4 ตำบลบ่อ อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี ถูกพายุฝนพัดต้นไม้พะยอมล้มทับบ้านพังเสียหายทั้งหลัง
พร้อมกันนี้ได้มีบ้านของนางพิสมัย เหรียญทอง อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 24/6 หมู่ที่ 3 ตำบลบ่อ อำเภอขลุง จังหวัดจันบุรี ถูกพายุฝนพัดฝาผนังบ้านที่ก่อด้วยอิฐบล็อกล้มพังเสียหายเช่นกัน
นอกจากนี้ ในพื้นที่ตำบลมาบไพร อำเภอขลุง และตำบลคลองนารายณ์ อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี มีบ้านเรือนของชาวบ้านกว่า 100 หลังคาเรือน ถูกพายุฝนพัดกระเบื้องหลังคาปลิวหายไป และสวนผลไม้ เช่น ต้นทุเรียน มังคุด และลองกองล้มหักโค่น เสียหายกว่า 100 ไร่
ในเบื้องต้นทางนายอำเภอขลุง และหัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดจันทบุรี รวมถึง นายกเทศบาลตำบลบ่อ และนายกองค์การบริหารส่วนตำบลมาบไพร และนายกองค์การบริหารส่วนตำบลคลองนารายณ์ ได้ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายเกี่ยวกับพายุฝนพัดบ้านเรือนของชาวบ้านในเบื้องต้นแล้ว พร้อมกันนี้ทางป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดจันทบุรีได้มีการแจกจ่ายกระเบื้องหลังคาให้แก่ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนในเบื้องต้นไปบางส่วนแล้ว ส่วนเงินชดเชยทางองค์การบริหารส่วนตำบล และเทศบาลตำบลในท้องที่จะได้มีการสำรวจความเสียหายและจัดงบประมาณให้การช่วยเหลือต่อไป
สำหรับพื้นที่จังหวัดจันทบุรีในช่วงนี้ได้เกิดพายุฝนลมกระโชกแรงบ่อยครั้ง ทั้งนี้ ทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดจันทบุรี ได้ขอฝากให้ชาวบ้านได้เพิ่มความระมัดระวังในการป้องกันหากเกิดลมกระโชกแรง หรือมีพายุลมแรงขอให้ชาวบ้านอยู่ในที่ที่ปลอดภัย และควรสำรวจบ้านของตัวเองว่ามีความคงทนแข็งแรงมากน้อยแค่ไหน นอกจากนี้ขอให้ชาวบ้านได้มีการติดตามข่าวสารการพยากรณ์อากาศในระยะนี้อย่างใกล้ชิดอีกด้วย
