ศูนย์ข่าวศรีราชา - ตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษกองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปราม บุกเข้าจับกุมเจ้าของร้านขายยาในเมืองพัทยา หลังได้รับร้องเรียนว่ามีการขายยาปลุกเซ็กส์ให้กับนักท่องเที่ยว ขณะที่ตำรวจเมืองพัทยา จับดีเจผับในกรุงเทพฯ หลังนำแหวนทองปลอมสับเปลี่ยนแหวนจริงในร้านทอง ทองสุขเยาวราช อ้างต้องการหาเงินพาภรรยาไปฝากครรภ์
วันนี้ ( 30 ก.ค.) พ.ต.ท.ขวัญพิชัย มะโนเจริญทรัพย์ รองผู้กำกับการชุดปฏิบัติการพิเศษกองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปราม ได้นำกำลังเข้าตรวจสอบที่ร้านไลด์ ฟาร์มาซี ตั้งอยู่เลขที่ 336/9 พัทยาใต้ หมู่ 10 ตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี หลังรับรายงานว่ามีการลักลอบจำหน่ายยากระตุ้นอารมณ์ทางเพศโดยผิดกฎหมาย จึงได้ทำการวางแผนส่งสายนำเงินสดจำนวน 1,000 บาท ติดต่อล่อซื้อยาคามากร้า ออรัล เจลลี่ จำนวน 10 ซอง กระทั่งเจ้าของร้านทราบชื่อภายหลังคือ นายวิสุทธิ์ พงษ์ศิริรัชกุล อายุ 49 ปี นำยามาส่งให้ กำลังตำรวจที่ซุ่มอยู่ใกล้เคียงจึงแสดงตัวเข้าจับกุม
จากการตรวจค้นพบของกลางเพิ่มเติมเป็นยาคามากร้าชนิดเม็ด และชนิดเจลอย่างละ 1 กล่อง จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน และจากการสอบปากคำนายวิสุทธิ์ ให้การรับสารภาพว่า ลักลอบนำยาดังกล่าวมาจำหน่ายให้กับนักท่องเที่ยวนานแล้ว หลังสอบสวนจึงแจ้งข้อหาจำหน่ายยาเพิ่มสมรรถภาพทางเพศในกลุ่มยาคามากร้า ซึ่งเป็นยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยาโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา ดำเนินคดีตามกฎหมาย
นอกจากนั้น ในวันเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ยังรุดไปตรวจสอบเหตุคนร้ายนำแหวนทองคำปลอมมาสับเปลี่ยนกับแหวนจริง เหตุเกิดภายในร้านทองทองสุข เยาวราช ถนนพัทยากลาง โดยคนร้ายได้วิ่งหลบหนีและถูกพลเมืองดีช่วยกันจับกุมไว้ได้ที่หน้าธนาคารกสิกรไทย สาขาพัทยากลาง
ทราบชื่อผู้ก่อเหตุคือนายชัชวาลย์ อริยะกุล อายุ 31 ปี พร้อมของกลางเป็นแหวนทองฝังเพชร 1 วง น้ำหนักประมาณ 0.85 กะรัต มูลค่ากว่า 184,000 บาท แหวนทองปลอมอีกจำนวน 8 วง และอุปกรณ์การเสพยาไอซ์
จากการสอบปากคำนายชัชวาลย์ ให้การรับสารภาพว่า มีอาชีพเป็นดีเจอยู่ที่ผับชื่อดังแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร และก่อนหน้านี้ได้เดินทางมาหาเพื่อนที่เมืองพัทยา เพื่อขอยืมเงินแต่เพื่อนไม่มีให้ จึงทำทีไปซื้อแหวนทองฝังเพชรที่ร้านดังกล่าว ก่อนอาศัยจังหวะพนักงานเผลอ แอบนำแหวนทองปลอมมาสับเปลี่ยนและวิ่งหนี แต่ก็ไปไม่รอดถูกจับกุมได้ ส่วนสาเหตุที่ทำไปอ้างว่า เพราะต้องการนำเงินพาภรรยาซึ่งตั้งครรภ์ได้ประมาณ 3 เดือนไปฝากท้อง
ด้านนายประวิทย์ พาเจริญ พนักงานของร้าน ให้การว่าขณะให้บริการลูกค้าอยู่นั้น นายชัชวาลย์ ได้เข้ามาเลือกซื้อแหวนทองฝังเพชรโดยอ้างว่าจะซื้อไปให้ภรรยา ซึ่งตนเห็นว่าการแต่งกายและรูปร่างหน้าตาน่าไว้ใจจึงนำแหวนออกมาให้เลือก แต่เมื่อเผลอนายชัชวาลย์ กลับนำแหวนทองปลอมมาเปลี่ยนแล้ววิ่งหนี ตนจึงวิ่งตามและตะโกนให้คนช่วยจนพลเมืองดีช่วยกันจับกุมไว้ได้ดังกล่าว
วันนี้ ( 30 ก.ค.) พ.ต.ท.ขวัญพิชัย มะโนเจริญทรัพย์ รองผู้กำกับการชุดปฏิบัติการพิเศษกองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปราม ได้นำกำลังเข้าตรวจสอบที่ร้านไลด์ ฟาร์มาซี ตั้งอยู่เลขที่ 336/9 พัทยาใต้ หมู่ 10 ตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี หลังรับรายงานว่ามีการลักลอบจำหน่ายยากระตุ้นอารมณ์ทางเพศโดยผิดกฎหมาย จึงได้ทำการวางแผนส่งสายนำเงินสดจำนวน 1,000 บาท ติดต่อล่อซื้อยาคามากร้า ออรัล เจลลี่ จำนวน 10 ซอง กระทั่งเจ้าของร้านทราบชื่อภายหลังคือ นายวิสุทธิ์ พงษ์ศิริรัชกุล อายุ 49 ปี นำยามาส่งให้ กำลังตำรวจที่ซุ่มอยู่ใกล้เคียงจึงแสดงตัวเข้าจับกุม
จากการตรวจค้นพบของกลางเพิ่มเติมเป็นยาคามากร้าชนิดเม็ด และชนิดเจลอย่างละ 1 กล่อง จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน และจากการสอบปากคำนายวิสุทธิ์ ให้การรับสารภาพว่า ลักลอบนำยาดังกล่าวมาจำหน่ายให้กับนักท่องเที่ยวนานแล้ว หลังสอบสวนจึงแจ้งข้อหาจำหน่ายยาเพิ่มสมรรถภาพทางเพศในกลุ่มยาคามากร้า ซึ่งเป็นยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยาโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา ดำเนินคดีตามกฎหมาย
นอกจากนั้น ในวันเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ยังรุดไปตรวจสอบเหตุคนร้ายนำแหวนทองคำปลอมมาสับเปลี่ยนกับแหวนจริง เหตุเกิดภายในร้านทองทองสุข เยาวราช ถนนพัทยากลาง โดยคนร้ายได้วิ่งหลบหนีและถูกพลเมืองดีช่วยกันจับกุมไว้ได้ที่หน้าธนาคารกสิกรไทย สาขาพัทยากลาง
ทราบชื่อผู้ก่อเหตุคือนายชัชวาลย์ อริยะกุล อายุ 31 ปี พร้อมของกลางเป็นแหวนทองฝังเพชร 1 วง น้ำหนักประมาณ 0.85 กะรัต มูลค่ากว่า 184,000 บาท แหวนทองปลอมอีกจำนวน 8 วง และอุปกรณ์การเสพยาไอซ์
จากการสอบปากคำนายชัชวาลย์ ให้การรับสารภาพว่า มีอาชีพเป็นดีเจอยู่ที่ผับชื่อดังแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร และก่อนหน้านี้ได้เดินทางมาหาเพื่อนที่เมืองพัทยา เพื่อขอยืมเงินแต่เพื่อนไม่มีให้ จึงทำทีไปซื้อแหวนทองฝังเพชรที่ร้านดังกล่าว ก่อนอาศัยจังหวะพนักงานเผลอ แอบนำแหวนทองปลอมมาสับเปลี่ยนและวิ่งหนี แต่ก็ไปไม่รอดถูกจับกุมได้ ส่วนสาเหตุที่ทำไปอ้างว่า เพราะต้องการนำเงินพาภรรยาซึ่งตั้งครรภ์ได้ประมาณ 3 เดือนไปฝากท้อง
ด้านนายประวิทย์ พาเจริญ พนักงานของร้าน ให้การว่าขณะให้บริการลูกค้าอยู่นั้น นายชัชวาลย์ ได้เข้ามาเลือกซื้อแหวนทองฝังเพชรโดยอ้างว่าจะซื้อไปให้ภรรยา ซึ่งตนเห็นว่าการแต่งกายและรูปร่างหน้าตาน่าไว้ใจจึงนำแหวนออกมาให้เลือก แต่เมื่อเผลอนายชัชวาลย์ กลับนำแหวนทองปลอมมาเปลี่ยนแล้ววิ่งหนี ตนจึงวิ่งตามและตะโกนให้คนช่วยจนพลเมืองดีช่วยกันจับกุมไว้ได้ดังกล่าว
