ตำรวจนนท์รวบหนุ่มหุ้นส่วนร้านคาราโอเกะ เปิดร้านบังหน้า แอบค้ายาบ้าให้ลูกค้าและนักเสพ ก่อน ตร.ขยายผลจากการจับผู้ต้องหาคดียาบ้า 2 เม็ด พร้อมยึดของกลางยาบ้า 2 หมื่นเม็ด และยาไอซ์ 440.6 กรัม สารภาพนำยาบ้าไปซุกฝังดินไว้ใต้โอ่งเพื่อป้องกัน ตร.-คนนอกมาเห็น
วันนี้ (27 ก.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น. ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี พล.ต.ต.สุรชัย สืบสุข ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พร้อมด้วย พ.ต.อ.สมศักดิ์ชัย อมรส่งเจริญ ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี พ.ต.ท.ณธีพัฒน์ จิรัฐวรโชติ รอง ผกก.ป. และ พ.ต.ท.พล พื้นพรม สวป.เมืองนนทบุรี ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมตัวนายนรินทร์ หรือริน ขาวจันทร์ อายุ 35 ปี พร้อมของกลางเป็นยาเสพติดประเภทยาบ้า จำนวน 2 หมื่นเม็ด ยาไอซ์อีกจำนวน 440.6 กรัม อาวุธปืนแบบรีวอลเวอร์ ขนาด.38 จำนวน 1 กระบอกพร้อมกระสุนปืนจำนวน 12 นัด โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง และรถกระบะนิสสัน สีขาว หมายเลขทะเบียน บฉ 6938 อ่างทอง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวผุ้ต้องหาพร้อมของกลางยาเสพติดจำนวนดังกล่าวได้ที่ร้านเพ็ญ หรือสามเกลอคาราโอเกะ หมู่ 3 ต.คลองพระอุดม อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด สภ.เมืองนนทบุรี สามารถจับกุมผู้ต้องคดียาเสพติดรายหนึ่งได้พร้อมของกลางเป็นยาบ้าจำนวน 2 เม็ด จากการตั้งด่านสกัดตรวจค้นหายาเสพติด จากนั้นจึงขยายผลการจับกุมไปจนทำให้ทราบว่าผู้ต้องหาคดียาบ้า 2 เม็ดได้ไปซื้อยาบ้ามาจากนายนรินทร์ที่ร้ายคาราโอเกะแถวตำบลคลองข่อย จึงขออนุมัติหมายศาลเลขที่ 1285/2554 ลงวันที่ 26 กรกฎาคม 54 เข้าทำการตรวจค้นในร้านคาราโอเกะและห้องพักภายในร้าน จนกระทั่งไปพบร่องรอยดินในโอ่งน้ำมีรอยถูกขุด จึงทำการขุดดินตรวจสอบก็พบยาบ้าและยาไอซ์ถูกฝังอยู่ในดินคนละหลุมกัน จึงตรวจยึดของกลางทั้งหมดและนำนายนรินทร์มาสอบสวนต่อ
จากการสอบสวนนายนรินทร์ ผู้ต้องหาให้การว่า ได้หุ้นกับนายประวิทย์ หรือต้น สุวรรณรัตน์ เปิดร้านคาราโอเกะดังกล่าวบังหน้าเพื่อแอบนำยาเสพติดมาซุกซ่อนและจำหน่ายต่อให้กับลูกค้าที่มาเที่ยวและผู้เสพยาในละแวกดังกล่าว โดยมีนายใหญ่ไม่ทราบนามสกุลเป็นผู้นำยาเสพติดมาส่งให้ที่ร้าน ซึ่งหลังจากได้ยาเสพติดมาจากนายใหญ่แล้วจะนำไปซุกซ่อนฝังดินไว้ที่ใต้โอ่งน้ำเพื่อป้องกันไม่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจหรือคนภายนอกที่ต้องสงสัยมาเห็น จากนั้นเมื่อมีการนัดหมายซื้อขายยาก็จะไปขุดนำยาเสพติดออกมาขายต่อไป ก่อนจะมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้ในที่สุด
พล.ต.ต.สุรชัยกล่าวว่า ทางกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรียังคงเดินหน้าปราบปรามยาเสพติดในเชิงรุกอยู่ตลอดเวลา อย่างผู้ต้องหาในคดีนี้เป็นต้น ที่มาจากการตั้งด่านสกัดจับยาเสพติดจนสามารถจับกุมผู้เสพรายย่อยและขยายผลจนนำไปสู่การจับกุมผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ได้ ซึ่งผุ้ต้องหาได้แอบขายยาเสพติดมาแล้วประมาณ 3 ปี โดยเปิดร้านคาราโอเกะบังหน้าเพื่อตบตาไม่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่รู้ก็ตาม แต่สุดท้ายก็หลบเลี่ยงเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่พ้นอยู่ดี และหากผู้ต้องหารายนี้ยังไม่ถูกจับกุมและจำหน่ายยาเสพติดได้ทั้งหมด จะมีมูลค่าถึง 4.5 ล้านบาททีเดียว ส่วนผู้ต้องหาที่ร่วมกันคือนายใหญ่ ไม่ทราบนามสกุล คนนำยามาส่ง กับนายประวิทย์ หุ้นส่วนร้านคาราโอเกะอีกคนนั้น ได้สั่งการเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีแล้ว ส่วนนายนรินทร์ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาในคดียาเสพติดได้ตั้งข้อหาร่วมกันมีและจำหน่ายยาเสพติดให้โทษดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป