มหาสารคาม - ตำรวจ สภ.บรบือ จับกุมผู้ต้องค้ายาบ้ากว่า 1,640 เม็ด พร้อมของกลางเงินสดและรถยนต์กระบะ สารภาพรับจ้างส่งยา 10 ถุง เอเยนต์ให้กินเปล่า 2 ถุง เผยเพิ่งพ้นคุกมาไม่ถึง 1 ปี
วันนี้ (27 ก.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น.ที่สถานีตำรวจภูธรบรบือ นายสุทธินันท์ บุญมี รองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม พร้อมด้วย พ.ต.อ.ไวยยวุฒิ รัตนวิโรจน์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบรบือ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม แถลงข่าวจับกุมนายพนม ศรีระยศ อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 114 หมู่ที่ 8 บ้านอุ่มเม่า ต.เมืองทอง อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด
พร้อมด้วยของกลางยาบ้า 1,640 เม็ด เงินสด 19,620 บาท รถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน บน 2192 ร้อยเอ็ด โดยเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหา มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย
พ.ต.อ.ไวยยวุฒิ รัตนวิโรจน์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบรบือ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้รับแจ้งจากสายลับ ว่า จะมีผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ นำยาบ้าจาก จ.ร้อยเอ็ด เข้ามาจำหน่ายในพื้นที่ อ.บรบือ และใกล้เคียงโดยใช้รถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน เป็นพาหนะ จึงสั่งการให้ ร.ต.ท.ฤทธิกร ทองนุช รองสว.จร.สภ.บรบือ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร ไปตั้งจุดตรวจจุดสกัดที่ถนนสายบรบือ-มหาสารคาม บริเวณหน้าวัดป่าขวัญเมืองระบือธรรม
ต่อมาตามวันเวลาที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรที่เป็นชุดสังเกตการณ์ล่วงหน้า ซึ่งเฝ้าสังเกตอยู่ก่อนที่จะถึงจุดตรวจจุดสกัดประมาณ 1 กิโล เมตร ได้พบรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนด์ หมายเลขทะเบียน บน 2192 ร้อยเอ็ด มีหลังคาแครี่บอย ลักษณะตรงตามที่ได้รับแจ้ง แล่นผ่านมาจากทาง จ.มหาสารคาม และมีพิรุธ
โดยรถยนต์คันดังกล่าวเมื่อเห็นจุดตรวจจุดสกัด ได้เหยียบห้ามล้ออย่างกะทันหันแล้วเลี้ยวหลบเข้าไปในซอยตัน ก่อนที่จะถึงจุดตรวจจุดสกัดประมาณ 200 เมตร จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามรถคันดังกล่าวไป จนสามารถเข้าตรวจค้นได้ ผลการตรวจค้นพบยาบ้าและของกลางอื่นอีกหลายรายการ จึงได้นำตัวผู้ต้องหามาสอบสวนต่อที่ สภ.เมืองมหาสารคาม
โดยผู้ต้องหารับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้ได้ข้อมูลว่า ได้รับยาบ้ามาจากนายทุน เพื่อที่จะนำยาบ้ามาส่งที่ อ.กุดรัง จ.มหาสารคาม โดยรับยาบ้ามาทั้งหมด 10 ถุง 2,000 เม็ด และจะได้ยาบ้าเป็นค่าเหนื่อย 2 ถุง คือ 400 เม็ด โดยจะนำยาบ้าไปวางไว้บริเวณที่นายทุนแจ้ง ซึ่งไม่ทราบว่าคนรับเป็นใคร โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบมาว่ายังมีเครือข่ายที่ร่วมกระทำผิดอีกหลายคน ซึ่งจะได้สืบสวยและติดตามจับกุมมาดำเนินคดีต่อไป