รวบแก๊งลักรถ จยย.รายใหญ่ในมหาสารคามยึดของกลาง 17 คัน

มหาสารคาม - ตำรวจมหาสารคามบุกรวบแก๊งลักรถจักรยานยนต์รายใหญ่ ได้ของกลาง 17 คัน ผู้ต้องหาเผยขโมยตามใบสั่ง ใช้เวลาขโมยคันละไม่เกิน 2 นาที

เมื่อเวลา เวลา 09.30 น.วันนี้ (28 ก.พ.) พล.ต.ต.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ ผบก.ภ.จว.มหาสารคาม พร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ได้ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายบุญเลิศ หรือหนุ่ม ทองใบ ชาวตำบลกำพี้ อ.บรบือ จ.มหาสารคาม ซึ่งเป็นหนึ่งในแก๊งโจรกรรมรถจักรยานยนต์ ซึ่งก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมเยาวชนอายุ 17 ปีในข้อหาลักรถจักรยานยนต์ ก่อนนำตัวมาขยายผลจับกุมได้ของกลางจำนวน 17 คัน

พล.ต.ต.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามพฤติกรรมคนร้ายมานานกว่า 2 เดือน ซึ่งก่อนหน้าที่มีประชาชนมาแจ้งความว่าถูกโจรกรรมรถไว้จำนวนกว่า 10 คัน จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนออกติดตามคนร้าย

โดยในวันที่สามารถจับกุมเยาวชนวัย 17 ปีได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ซุ่มสังเกตการณ์ อยู่ที่บริเวณ ตลาดไนท์บาซาร์ ถ.ศรีสวัสดิ์ดำเนิน จากนั้นได้มีนางสาววโรชา เวียงจันทร์ และเพื่อนซึ่งเป็นผู้เสียหายขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า สกู๊ปปี้ไอ สีชมพู-ขาว มาจอดและเดินเข้าไปซื้อของภายในตลาดไนท์บาซาร์ จากนั้นไม่นานนายอ้วน เยาวชนอายุ 17 ปี ได้สะพายกระเป๋าเดินมาที่รถคันดังกล่าว นั่งคร่อมบนรถ และใช้อุปกรณ์งัดกุญแจรถ และได้ถอยรถออกจากที่จอดและสตาร์รถเตรียมหลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัวจับกุม ก่อนที่จะขยายผลว่านำรถไปซ่อนไว้ที่ใด ซึ่งผู้ต้องหาได้รับสารภาพว่าเอารถที่โจรกรรมมาได้ไปรวมกันไว้ที่บังกะโลร้างแห่งหนึ่งใน ต.แวงน่าง อ.เมือง จากการเข้าตรวจสอบพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า สกู๊ปปี้ไอ 15 คัน และฮอนด้า คลิกไอ อีก 2 คัน รวม 17 คัน

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดักซุ่มอยู่บริเวณใกล้เคียงเพื่อดักรอแก๊งโจรกรรมรถมาขนย้าย จนเมื่อคืนที่ผ่านมาพบรถปิกอัพคันหนึ่งวิ่งผ่านมา ก่อนที่จะจอดให้นายบุญเลิศลงมาจากรถ ส่วนรถได้ขับเลยไป เมื่อนายบุญเลิศเดินลงมายังบังกะโลร้างหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัวเข้าจับกุม ก่อนนำตัวมาสอบสวนที่สถานีตำรวจ สภ.เมืองมหาสารคาม

ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้ตระเวนลักรถตามใบสั่งเพื่อส่งขายไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ได้ค่าจ้างคันละ 5,000 บาท ซึ่งก่อนที่จะถูกจับได้ มีออเดอร์ให้ขโมยรถฮอนด้า สกู๊ปปี้ไอ จำนวน 20 คัน แต่ก็มาถูกจับเสียก่อน

โดยเจ้าหน้าทีตำรวจได้แจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ ก่อนที่จะติดตามกลุ่มคนร้ายที่เหลือมาดำเนินคดีต่อไป