จันทบุรี - ชาวบ้านในพื้นที่อำเภอมะขาม จันทบุรี ร้องทุกข์กลุ่มมิจฉาชีพระบาด อาศัยผ้าเหลืองบังหน้าถือกระป๋องออกเรี่ยไรขอเงินร่วมทำบุญกองผ้าป่า ขณะสำนักพุทธฯเตือนแจ้งสายตรง หากพบเป็นพระปลอม แจ้งความจับได้ทันที
เวลา 07.40 น.วันนี้ (27 ก.ค.54) ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านทัพนคร ต.ปัถวี อ.มะขาม จ.จันทบุรี ว่าพบเห็นสามเณร จำนวน 1 รูป พร้อมด้วยฆารวาสชาย หญิงอีก 5 คน เดินถือกระป๋องออกเรี่ยไรเงินประชาชน พ่อค้า แม่ค้า บริเวณตลาดกลางหมู่บ้าน ทั้งที่ในช่วงนี้ เป็นช่วงเข้าพรรษา ซึ่งพระสงฆ์ต้องอยู่จำวัด ประกอบกิจทางพระพุทธศาสนา แสดงให้เห็นภาพที่ไม่เหมาะสม จึงคาดว่าจะเป็นกลุ่มมิจฉาชีพใช้ผ้าเหลืองบังหน้าออกมาหลอกเงินชาวบ้าน
หลังได้รับแจ้งผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบ พบเห็นสามเณร จำนวน 1 รูป และ ฆารวาส อีก 5 คน ใช้รถยนต์กระบะนิสัน สีขาว หมายเลขทะเบียน น.4404 จ.สระแก้ว เป็นพาหนะ ซึ่งตรงกับข้อมูลที่ได้รับแจ้ง จากการสังเกตพฤติกรรม สามเณร 1 รูป จะนำฆารวาส อีก 2 คนแยกย้ายกันออกเรี่ยไร ขอเงินจากประชาชนพร้อมกัน ทั้งสองฝั่งถนน
โดยจะมีหญิงวัยกลางคนนั่งอยู่ด้านหลังกระบะ คอยระวังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทันทีที่กลุ่มมิจฉาชีพพบว่า ถูกผู้สื่อข่าว ติดตามบันทึกภาพ ได้ส่งสัญญาณเรียกสามเณร และเพื่อร่วมขบวนการรีบขึ้นรถทันที จากพฤติกรรมที่ร้อนรนส่งผลทำให้ความลับแตก สามเณร 1 รูป รีบกระโดดเข้าไปในรถ นั่งติดกับสีกาวัยรุ่นที่นั่งอยู่ด้านหน้าติดกับคนขับ ก่อนรีบขับรถหลบหนีไปทันที
จากการสอบถามชาวบ้านที่ถูกเรี่ยไรเงิน บอกว่า กลุ่มมิจฉาชีพได้อ้างตัวว่ามาจากวัดแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.สระแก้ว โดยขอเรี่ยไรเงินจากผู้มีจิตศรัทธาร่วมทำบุญทอดผ้าป่าสามัคคี หารายได้สร้างอุโบสถให้แล้วเสร็จ ส่วนสาเหตุที่ไม่มีพระสงฆ์มาด้วยเนื่องจากต้องแยกย้ายเดินสายไปขอบริจาคเงินที่อำเภออื่นๆ
นางนัทธมน จินดาโชติ นักวิชาการศาสนาชำนาญการพิเศษ รักษาราชการผู้อำนวยการ สำนักงานพระพุทธศาสนา จ.จันทบุรี เปิดเผยว่า การกระทำดังกล่าว ถือว่าผิดกฎของมหาเถรสามคม ที่ได้มีการประกาศไว้อย่างชัดเจน ในมาตรา 18 แห่งพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. 2505 มหาเถรสมาคม เรื่องควบคุมการเรี่ยไร พ.ศ.2527 ห้ามมิให้วัดหรือพระภิกษุสามเณรทำการเรี่ยไร หรือมอบหมายหรือยินยอมให้ผู้อื่นทำการเรี่ยไรเพื่อประโยชน์แก่วัดหรือพระศาสนา ในกรณีได้รับอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมการเรี่ยไรแล้ว ห้ามพระภิกษุสามเณรออกทำการเรี่ยไรด้วยตนเอง และต้องปฏิบัติให้ชอบด้วยวิธีการตามที่กำหนดไว้ในกฎหมาย ซึ่งประชาชนทั่วไปสามารถแจ้งความร้องทุกข์ กับทางสำนักงานพระพุทธศาสนาได้ และหากได้รับความเดือดร้อน จากการกระทำดังกล่าวซึ่งอยู่ในข่ายของการหลอกลวง ก็สามารถแจ้งความดำเนินคดีกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทันที
เวลา 07.40 น.วันนี้ (27 ก.ค.54) ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านทัพนคร ต.ปัถวี อ.มะขาม จ.จันทบุรี ว่าพบเห็นสามเณร จำนวน 1 รูป พร้อมด้วยฆารวาสชาย หญิงอีก 5 คน เดินถือกระป๋องออกเรี่ยไรเงินประชาชน พ่อค้า แม่ค้า บริเวณตลาดกลางหมู่บ้าน ทั้งที่ในช่วงนี้ เป็นช่วงเข้าพรรษา ซึ่งพระสงฆ์ต้องอยู่จำวัด ประกอบกิจทางพระพุทธศาสนา แสดงให้เห็นภาพที่ไม่เหมาะสม จึงคาดว่าจะเป็นกลุ่มมิจฉาชีพใช้ผ้าเหลืองบังหน้าออกมาหลอกเงินชาวบ้าน
หลังได้รับแจ้งผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบ พบเห็นสามเณร จำนวน 1 รูป และ ฆารวาส อีก 5 คน ใช้รถยนต์กระบะนิสัน สีขาว หมายเลขทะเบียน น.4404 จ.สระแก้ว เป็นพาหนะ ซึ่งตรงกับข้อมูลที่ได้รับแจ้ง จากการสังเกตพฤติกรรม สามเณร 1 รูป จะนำฆารวาส อีก 2 คนแยกย้ายกันออกเรี่ยไร ขอเงินจากประชาชนพร้อมกัน ทั้งสองฝั่งถนน
โดยจะมีหญิงวัยกลางคนนั่งอยู่ด้านหลังกระบะ คอยระวังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทันทีที่กลุ่มมิจฉาชีพพบว่า ถูกผู้สื่อข่าว ติดตามบันทึกภาพ ได้ส่งสัญญาณเรียกสามเณร และเพื่อร่วมขบวนการรีบขึ้นรถทันที จากพฤติกรรมที่ร้อนรนส่งผลทำให้ความลับแตก สามเณร 1 รูป รีบกระโดดเข้าไปในรถ นั่งติดกับสีกาวัยรุ่นที่นั่งอยู่ด้านหน้าติดกับคนขับ ก่อนรีบขับรถหลบหนีไปทันที
จากการสอบถามชาวบ้านที่ถูกเรี่ยไรเงิน บอกว่า กลุ่มมิจฉาชีพได้อ้างตัวว่ามาจากวัดแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.สระแก้ว โดยขอเรี่ยไรเงินจากผู้มีจิตศรัทธาร่วมทำบุญทอดผ้าป่าสามัคคี หารายได้สร้างอุโบสถให้แล้วเสร็จ ส่วนสาเหตุที่ไม่มีพระสงฆ์มาด้วยเนื่องจากต้องแยกย้ายเดินสายไปขอบริจาคเงินที่อำเภออื่นๆ
นางนัทธมน จินดาโชติ นักวิชาการศาสนาชำนาญการพิเศษ รักษาราชการผู้อำนวยการ สำนักงานพระพุทธศาสนา จ.จันทบุรี เปิดเผยว่า การกระทำดังกล่าว ถือว่าผิดกฎของมหาเถรสามคม ที่ได้มีการประกาศไว้อย่างชัดเจน ในมาตรา 18 แห่งพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. 2505 มหาเถรสมาคม เรื่องควบคุมการเรี่ยไร พ.ศ.2527 ห้ามมิให้วัดหรือพระภิกษุสามเณรทำการเรี่ยไร หรือมอบหมายหรือยินยอมให้ผู้อื่นทำการเรี่ยไรเพื่อประโยชน์แก่วัดหรือพระศาสนา ในกรณีได้รับอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมการเรี่ยไรแล้ว ห้ามพระภิกษุสามเณรออกทำการเรี่ยไรด้วยตนเอง และต้องปฏิบัติให้ชอบด้วยวิธีการตามที่กำหนดไว้ในกฎหมาย ซึ่งประชาชนทั่วไปสามารถแจ้งความร้องทุกข์ กับทางสำนักงานพระพุทธศาสนาได้ และหากได้รับความเดือดร้อน จากการกระทำดังกล่าวซึ่งอยู่ในข่ายของการหลอกลวง ก็สามารถแจ้งความดำเนินคดีกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทันที