กาฬสินธุ์-สองปู่่-ย่า ชาวกาฬสินธุ์ร้องสื่อหลานสาววัย 14 ปี หายออกจากบ้านนานกว่า 5 วัน คาดหนุ่มใหญ่ในหมู่บ้านใกล้เคียงอุ้มตัวไป หลังติดต่อทางโทรศัพท์พร้อมส่งรูปหน้าหล่อหลอกเหยื่อ จนหลงเชื่อ เกรงว่าหลานสาวจะถูกหลอกเหตุอายุยังน้อย
วันนี้( 22 ก.ค.)นายอุบล อายุ 62 ปี และนางบุญล้ำ ฆารประเดิม อายุ 58 ปี สองสามีภรรยา อยู่บ้านเลขที่ 78 หมู่ 12 บ้านโคกคอน ต.ลำพาน อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ เข้าร้องเรียนผ่านสื่อมวลชนให้ช่วยเสนอข่าวตามหาน้องเบนซ์ หรือ ด.ญ.ช่อวลักษณ์ ฆารประเดิม อายุ 14 ปี หลานสาว ซึ่งเป็นลูกของนายอภิชาติและนางภิญดา ฆารประเดิม บุตรชาย-สะใภ้ ที่มาฝากเลี้ยงตั้งแต่แบเบาะ ได้หายตัวไปจากบ้านตั้งแต่คืนวันอาทิตย์17 กรกฎาคม ที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้ยังไม่ทราบชะตากรรม
ทั้งนี้ เชื่อว่ามีคนลักพาตัวไป และยังสงสัยว่านายแสนสนุก ฆารประเดิม อายุ 42 ปี ซึ่งเป็นญาติห่างๆกันและอาศัยอยู่ในหมู่บ้านใกล้กันเป็นคนลักพาตัวไป เนื่องนายแสนสนุก ได้ติดต่อโทรศัพท์และมาหาน้องเบนซ์บ่อยครั้ง
นายอุบล กล่าวว่า น้องเบนซ์ เป็นเด็กดี นิสัยเรียบร้อย ขยันเรียน มีพรสวรรค์ด้านการวาดภาพ ซึ่งขณะนี้กำลังเรียนชั้นอยู่ชั้น ม.3 โรงเรียนอนุกูลนารี โดยคบเพื่อนก็แต่ในกลุ่มเด็กเรียนเท่านั้น แต่อยากได้โทรศัพท์มือถือ ตนก็เลยซื้อให้ เพื่อเอาไว้ติดต่อกับพ่อแม่ที่ทำงานอยู่กรุงเทพ และโทรพูดคุยกับเพื่อนๆ
แต่ไม่คาดคิดว่าโทรศัพท์มือถือจะเป็นสื่อร้ายภัยใกล้ตัว ที่มาพรากหลานสาวไปจากอกในครั้งนี้ เนื่องจากระยะหลังเห็นน้องเบนซ์คุยโทรศัพท์บ่อยๆและเป็นเวลานาน กระทั่งทราบว่าได้ติดต่อกับชายหนุ่มวัยรุ่นหน้าตาดีคนหนึ่ง ซึ่งส่งข้อความภาพถ่ายมาให้ดูทางโทรศัพท์ และยังส่งสิ่งของเครื่องใช้มาให้น้องเบ๊นซ์ทางไปรษณีย์อยู่บ่อยครั้ง แต่ยังไม่รู้ว่าเป็นใคร
นายอุบล กล่าวต่อว่า ตนพยายามห้ามปรามไม่ให้ติดต่อกันเพราะยังเด็ก และกลัวจะเสียการเรียน แต่ช่วงหลังตนกับภรรยากำลังยุ่งอยู่กับการทำนา ทราบจากเพื่อนบ้านว่ามีชายหนุ่มขี่รถจักรยานยนต์มาหาน้องเบนซ์ถึงบ้าน โดยการมาทุกครั้งจะสวมหมวกไหมพรมเป็นไอ้โม่งปิดบังใบหน้าตลอดเวลา แม้กระทั่งขณะคุยกัน โดยอ้างว่าหน้าถูกแดดเดี๋ยวจะไม่หล่อ
ตนจึงสืบจนทราบว่าชายคนดังกล่าวคือนายแสนสนุก ฆารประเดิม อายุ 42 ปี เป็นคนในหมู่บ้านใกล้เคียง และยังเป็นญาติห่างๆกันอีกด้วย ไม่ใช่คนในภาพถ่ายในโทรศัพท์มือถือของน้องเบนซ์ เชื่อว่าเป็นเพียงภาพถ่ายที่ส่งมาหลอกให้น้องเบนซ์หลงเชื่อ ว่าเป็นคนที่น่าตาดีเท่านั้น พฤติกรรมดังกล่าวไม่น่าไว้ใจ เพราะนายแสนสนุกทั้งเล่น กิน เที่ยว เคยมีเมียหลายคนแล้ว
นายอุบล กล่าวอีกว่า กระทั่งเย็นวันที่ 17 กรกฎาคม เห็นน้องเบนซ์คุยโทรศัพท์ พอช่วงกลางคืนน้องเบ๊นซ์ก็ได้หายตัวไปจากบ้าน โดยไม่สามารถติดต่อได้ ตนและภรรยาจึงออกตามหา พร้อมทั้งสอบถามไปยังเพื่อนที่เรียนด้วยกันแต่ก็ไม่มีใครพบ
หลังเกิดเหตุไปสอบถามพ่อ แม่ของนายแสนสนุก แต่ก็ปฏิเสธไม่รู้ไม่เห็นกับการกระทำใดๆทั้งสิ้น พร้อมกับบอกว่าให้ตนติดตามหาหลานสาวเอง
ดังนั้น จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองกาฬสินธุ์ เพื่อติดตามตัวหลานสาวและให้ดำเนินคดีกับนายแสนสนุก เพราะน้องเบนซ์ยังเด็ก เกรงว่าจะถูกล่อลวงหลอกไปขายบริการ หรือถูกกระทำมิดีมิร้าย และยังเชื่อว่านายแสนสนุกน่าจะพาน้องเบนซ์ไปกรุงเทพฯ หรือไม่ก็ไปที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งนายแสนสนุกเคยไปทำงานที่นั่น
พร้อมกันนี้อยากร้องทุกข์ผ่านสื่อมวลชน ให้ช่วยเหลืออีกทางหนึ่ง ซึ่งหากใครพบเห็นเบาะแสที่คนร้ายพาน้องเบนซ์ไปที่เบอร์ 088-5395399 ตนจะมีรางวัลให้ตามสมควร
ด้านพ.ต.ท.สุเทพ ภูกัณหา พนักงานสอบสวน(สบ.3) สภ.เมืองกาฬสินธุ์ กล่าวว่า เบื้องต้นได้รับแจ้งและลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน พร้อมกับประสานไปยังชุดสืบสวนลงพื้นที่หาเบาะแสของผู้ต้องสงสัย จนกระทั่งทราบจากพยานคนหนึ่ง ซึ่งอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเดียวกันกับน้องเบนซ์ โดยยืนยันว่าในคืนวันเกิดเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์ไปส่งทั้งสองคน ที่บขส.กาฬสินธุ์แต่ไม่ทราบว่าทั้งสองคนเดินทางไปไหน
อย่างไรก็ตามได้ประสานไปยังท้องที่ที่คาดว่าผู้ต้องสงสัยจะนำพาน้องเบนซ์ไปอยู่ เพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อหาพรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดา มารดาหรือผู้ปกครอง ผู้ดูแล แม้เด็กยินยอมหรือไม่ก็ตาม
