ชาวบ้าน อ.วัฒนานคร ร้องสื่อพื้นที่ทำกินถูกบุกรุก

สระแก้ว - ชาวบ้านใน อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว ร้องสื่อ หลังพื้นที่ทำกินถูกบุกรุก และได้แจ้งความให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการ แต่ถูกเมินเฉย

วันนี้ (17 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับร้องเรียนจาก นางศรทิพย์ เงินยัง ชาวบ้าน ต.แซร์ออ อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว ได้ร้องขอความเป็นธรรมผ่านผู้สื่อข่าว ว่า ได้ถูกบุกรุกพื้นที่ดินทำกิน และได้มีการฟ้องร้องเสร็จสิ้น แต่ก็ยังถูกบุกรุกอีกและแจ้งความกับ ตร.หนองหมากฝ้าย แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย

นางศรทิพย์ เงินยัง เจ้าของที่ดิน เปิดเผยว่า ที่ดินแปลงนี้ตนได้ออกเอกสารสิทธิ น.ส.3 และทำกินมาประมาณ 20 ปี และเมื่อปี 2552 นายฉลวย เงินสินธ์ ได้เป็นโจทก์ฟ้องตน เพื่อขับไล่เพิกถอนหนังสือรับรองการทำประโยชน์ เมื่อศาลได้ไต่สวนพยานทั้งสองฝ่ายแล้ว ให้ตนเป็นฝ่ายชนะ ให้ตนเข้าไปทำกินตามปกติ ต่อมา นายฉลวย เงินสินธ์ ได้บุกรุกเข้ามาไถที่นา ตนจึงได้เข้าไปแจ้งความเมื่อวันที 14 ก.ค.54 เวลา 08.30 น.ต่อพนักงานสอบสวนเรื่องก็ยังเงียบ เพื่อให้ดำเนินการกับคู่กรณี

ต่อมาคู่กรณียังเข้ามาไถในที่ดินของตนที่ได้ปลูกข้าวไว้แล้ว โดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย จนท.ตร.อ้างแต่ไม่อำนาจไปห้าม นอกจากมีการทำร้ายร่างกายกัน ก่อนจึงจะไปดำเนินการได้ เมื่อตนถูกคู่กรณีบุกรุกเข้าไปไถในที่ดินของตนที่ปลูกข้าวไว้ แจ้ง ตร.กว่าจะมาดูให้ใช้เวลาเกือบ 2 ชม.จึงได้เดินทางมาถึง พอมาเห็นคู่กรณีไถในที่ดินของตน ตร.กับไม่อะไรเลย จึงได้มาขอความเป็นธรรมกับสื่อ เพื่อให้ช่วยได้รับความเป็นธรรมในครั้งนี้ด้วย

นางละมัย ทองคำ อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 62 หมู่ 1 บ้านโคกแชร์ออ ต.แชร์ออ อ.วัฒนานคร พี่สาวนางศรทิพย์ เปิดเผยว่า ที่น้องสาวมาร้องต่อสื่อ เพื่อความเป็นธรรมนี้เป็นความจริง ตร.หนองหมายฝ้าย ไม่ทำอะไรให้เลย น้องเขาก็เป็นทุกข์ เมื่อน้องเขาไปหา ตร.ให้ช่วย เมื่อคู่กรณีเข้ามาบุกรุก ตร.ก็บ่ายเบี่ยงโยนให้ไปหาคนนั้นคนนี้อยู่ตลาดเวลา

ก่อนหน้านี้ ตนได้ไปช่วยน้องสาวไถหวานข้าว คู่กรณีก็ได้บุกรุกจะเข้าไปทำร้ายร่างกาย แต่มีชาวบ้านมาช่วยเอาไว้ไปแจ้งตำรวจ แต่ถูกตำรวจกล่าวหาว่า เขายังไม่ได้ทำอะไรเลย คงจะให้เขาฆ่าตนตายก่อน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงจะดำเนินการให้ จึงได้มาขอความเป็นธรรมต่อสื่อ เพื่อให้ช่วยน้องสาวตนด้วย เพราะถึงฤดูกาลทำนาแล้ว น้องสาวยังเข้าไปทำนาในที่ดินของตนเองไม่ได้เลย

จากนั้น นายอบ เงินหล่อ อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.แซร์ออ อ.วัฒนานคร กล่าวว่า ตนพร้อมด้วยชาวบ้านข้างเคียงได้ออกไปดูที่ดินทำกินแปลงที่มีปัญหาที่ได้ถูก นายสรวย เงินสินธ์ คู่กรณีได้เข้าไปไถที่ดินของนางศรทิพย์ ที่ปลูกข้าวไถหว่านไว้ในที่ดินดังกล่าว และคู่กรณีได้ประกาศห้ามเจ้าของที่ดินเข้าไปทำกินโดยเด็ดขาด

นายอบ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนเห็นมานานแล้ว ที่แปลงนี้นางศรทิพย์ ได้รับมรดกจากพ่อ แม่ แบ่งให้ทำกินเลี้ยงพ่อแม่มาโดยตลอด ซึ่ง นายสรวย พี่ชาย นางศรทิพย์ คู่กรณีพ่อแม่ก็แบ่งที่ดินให้เท่าๆ กัน ทุกคนแล้ว พอพ่อเสียชีวิตลงพี่ชายคนนี้ก็จะมาบุกรุกที่ดินจากน้องสาวอีก เรื่องทั้งหมดอยู่ที่ตำรวจไม่ดำเนินการอะไรเลยให้เขา เมื่อเขาไปแจ้งความ ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจก็บ่ายเบี่ยงไปต่างๆ นานา เรื่องมันจึงบานปลายอยู่แบบนี้

พ.ต.อ.บุญยก ไชยวงศ์ ผกก.สภ.หนองหมากฝ่าย เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นก่อนหน้าตนเข้ามารับตำแหน่งอีก เรื่องนี้ก็ได้บันทึกไว้เป็นหลักฐาน ในกรณีที่นายฉลวย เข้าไปบุกรุกที่ดินของนางศรทิพย์ ซึ่งในที่ดินแปลงดังกล่าว ได้ดูที่เจ้าหน้าที่ตำรวจบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน ถ้านายฉลวย ยังเข้ามาบุกรุกในที่ดินแปลงนี้ ก็จะถูกข้อหาในคดีอาญาดังกล่าวต่อไป

ทั้งนี้ ตนได้กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีหน้าที่เข้าไปห้ามไม่ให้คู่กรณีของนางศรทิพย์ เข้าไปบุกรุกได้ เจ้าหน้าที่จะเข้าไปดำเนินการได้ก็ต่อเมื่อมีการทำร้ายร่างกายกันก่อน จึงจะไปดำเนินการได้ สำหรับเรื่องที่ผ่านมา ตำรวจทำงานล่าช้านั้น ตนก็จะนำไปแก้ปัญหาต่อไป