xs
xsm
sm
md
lg

ตร.โคราชรวบเจ้าของ ร.ร.กวดวิชา ฉ้อโกงเด็ก นร.อื้อ 14 จว.ทั่วประเทศ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.ต.ต. สมพงษ์ ทองวีระประเสริฐ รองผบช.ภ.3 และคณะพร้อมผู้เสียหาย  แถลงการจับกุม เจ้าของโรงเรียนกวดวิชา ดิ ไอดอล สาขา นครราชสีมา อื้อฉาว ผู้ต้องหาคดีฉ้อโกง วันนี้  ( 22 ก.ค.
ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- ตร.โคราชรวบเจ้าของ ร.ร.กวดวิชาอื้อฉาวชื่อดัง หลังตระเวนฉ้อโกงเด็กนักเรียนมา 14 จังหวัดทั่วประเทศ พบมีหมายจับ 37 หมาย เปลี่ยนชื่อกว่า 30 ชื่อ โดยใช้ชื่อคนตายเช่าอาคารเปิดโรงเรียนกวดวิชาจ้างนักศึกษามาเป็นครูสอนอ้างเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยดัง เผยเฉพาะโคราชแจ้งจับแล้ว 17 ราย คาดมีผู้เสียหายกว่า 300 ราย แนะเหยื่อรีบเข้าแจ้งความเพิ่มเติม

วันนี้ (22 ก.ค.) ที่ห้องประชุม 1 ชั้น 2 กองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 3 อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ต.ต. สมพงษ์ ทองวีระประเสริฐ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (รองผบช.ภ.3) รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) นครราชสีมา พร้อมชุดสืบสวนสอบสวน สภ.เมืองนครราชสี่มา ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุม นายจงสุฑธามนสฐ์ พุทธานุภาเวนะ หรือ นายกิตติภูมิ วัฒนศิริ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3274/133 ถ.ลาดพร้าว แขวงคลองจั่น เขตบางกระปิ กรุงเทพฯ ผู้ต้องหาคดีฉ้อโกงด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชน และจัดตั้งโรงเรียนนอกระบบโดยไม่ได้รับใบอนุญาต ตามหมายจับของศาลจังหวัดนครราชสีมา ที่174/2554 ลงวันที่ 21 มิ.ย. 2554

ทั้งนี้ สามารถจับกุมได้ที่โรงเรียนกวดวิชา ดิไอดอล (THE IDOL) สาขานครราชสีมา ถ.ราชดำเนิน อ.เมือง จ.นครราชสีมา และขณะนี้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา ได้นำตัวส่งฝากขังกับศาลจังหวัดนครราชสีมาที่เรือนจำจังหวัดนครราชสีมา จึงไม่ได้นำผู้ต้องหามาแสดงตัวประกอบการแถลงข่าวกับสื่อมวลชน มีเพียงผู้เสียหายเดินทางมาชี้รูปผู้ต้องหาเท่านั้น

พล.ต.ต.สมพงษ์ ทองวีระประเสริฐ รอง ผบช.ภ.3 รักษาราชการแทน ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา เปิดเผยถึง พฤติกรรมของผู้ต้องหารายนี้ว่า ได้เปิดโรงเรียนกวดวิชาที่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา ในชื่อโรงเรียนดิไอดอล สาขานครราชสีมา โดยใช้ชื่อและเอกสารของบุคคลอื่นที่เสียชีวิตแล้วมาเป็นผู้เช่าอาคารแล้วเปิดเป็นโรงเรียนกวดวิชา โดยโฆษณาว่าโรงเรียนได้ว่าจ้างครู อาจารย์จากมหาวิทยาลัยชื่อดังมาสอน

แต่ข้อเท็จจริงใช้วิธีการว่าจ้างนักศึกษามหาวิทยาลัยในพื้นที่ หรือครู อาจารย์ในพื้นที่มาสอน ซึ่งนักศึกษาและครูทุกคนที่มาสอน จะต้องวางเงินมัดจำการจ้างงานไว้ เมื่อเปิดการเรียนการสอนไปได้สักระยะ มีนักเรียนมาสมัครเรียนมากพอแล้ว ก็จะปิดตัวหนีไป พร้อมกับเชิดเงินประกันของพนักงาน และค่าเล่าเรียนของนักเรียนหลบหนีไปด้วย

นอกจากนี้ ที่ผ่านมาเคยก่อเหตุในลักษณะเดียวกัน โดยเปิดโรงเรียนกวดวิชา ดิ เปอร์เฟลชั่นแนล อะคาเดมี สาขาขอนแก่น และสาขาต่างๆ ทั่วประเทศกว่า 14 จังหวัด ซึ่งทุกแห่งจะมีการเปลี่ยนชื่อ-สกุลทุกครั้ง และพบว่ามีการเปลี่ยนชื่อ-สกุลมาแล้วกว่า 30 ชื่อ ถูกแจ้งความดำเนินคดีและมีการออกหมายจับรวม 37 หมาย ทั้งคดีทำร้ายร่างกายผู้อื่น, คดีความผิดเกี่ยวกับเช็ค, ความผิดเกี่ยวกับกฎหมายแรงงาน เป็นต้น

“ในส่วนของ สภ.เมืองนครราชสีมา มีผู้เสียหายมาแจ้งความดำเนินคดีแล้ว 17 ราย คาดว่าจะมีผู้เสียหายอีกเป็นจำนวนมากที่ยังไม่มาแจ้งความ ดังนั้น หากประชาชนท่านใดที่เคยถูกผู้ต้องหารายนี้ฉ้อโกงหลอกลวง ก็ขอให้มาแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติมได้ ที่ สภ.เมืองนครราชสีมา เพื่อที่จะได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป” พล.ต.ต.สมพงษ์กล่าว

ด้าน นางดวงกมล เกิดทะเล อายุ 47 ปี ครูโรงเรียนสุรนารี 2 อ.เมือง จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นมารดาของนักเรียนที่ถูกหลอกลวง และเดินทางมาร่วมชี้รูปผู้ต้องหาในวันนี้กล่าวว่า ลูกสาวของตนกำลังศึกษาอยู่ชั้น ม.6 โรงเรียนแห่งหนึ่งได้มาขอเงินจำนวน 7,000 บาท เพื่อไปสมัครเรียนกวดวิชาที่โรงเรียนกวดวิชาดิไอดอล สาขานครราชสีมา ที่มี นายจุงสุทฑธามนนสฐ์ หรือ นายกิตติภูมิ ผู้ต้องหา เป็นเจ้าของ

ผู้ต้องหาได้โฆษณาชวนเชื่อว่ามีนักเรียนที่มาเรียนกวดวิชากับสถาบันแห่งนี้สอบตรงเข้า คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้มากที่สุด ประกอบกับมีเพื่อนของลูกสาว และนักเรียนในโรงเรียนที่ตนสอนอยู่มาบอกว่าโรงเรียนกวดวิชานี้สอนดี น่าจะเป็นความหวังได้ ซึ่งลูกสาวตนตั้งใจจะสอบเข้าคณะวิชานี้ ตนจึงยอมให้ไปสมัครเรียน โดยเสียค่ากวดวิชาจำนวน 7,000 บาท

“แต่ไปเรียนได้เพียง 3 ครั้ง โรงเรียนก็ปิดกิจการหนี พยายามติดต่อก็ไม่สามารถติดต่อได้ จึงได้มาแจ้งความดำเนินคดีดังกล่าว ซึ่งคาดว่าน่าจะมีเด็กนักเรียน เฉพาะใน จ.นครราชสีมา มาสมัครเรียนกับโรงเรียนกวดวิชาแห่งนี้ไม่น้อยกว่า 300 ราย” นางดวงกมลกล่าว
นายจงสุฑธามนสฐ์  พุทธานุภาเวนะ หรือ นายกิตติภูมิ วัฒนศิริ เจ้าของโรงเรียนกวดวิชา ดิ ไอดอล ผู้ต้องหา



กำลังโหลดความคิดเห็น