ตร.เชื่อขัดแย้งธุรกิจมืดปมฆ่า ปธ.สภาฯ-สท.ดับริมน้ำโขงเวียงแก่น

เชียงราย - ตำรวจยังตามรอยมือปืนยิงถล่มประธานสภา-สท.เทศบาลตำนลม่วงยาย ดับคาริมน้ำโขงเขตเวียงแก่น ไม่พบ แต่ล่าสุดพุ่งเป้าปมขัดแย้งธุรกิจนอกกฎหมาย ต้นเหตุหลัก พบญาติผู้ตายเอี่ยวคดียาเสพติด

รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่ากรณีคนร้ายก่อเหตุใช้อาวุธปืนสงครามอาก้าและเอ็ม 16 ถล่มยิงนายมนตรี อมตะชีวานนท์ อายุ 57 ปี ประธานสภาเทศบาล ต.ม่วงยาย และนายธวัชชัย พงษ์เพชราภรณ์ อายุ 45 ปี สมาชิกสภาเทศบาล (สท.) เทศบาล ต.ม่วงยาย จนพรุนทั้งร่าง เมื่อเย็นวันที่ 21 ก.ค.ที่ผ่านมานั้น ล่าสุดวันนี้(22 ก.ค.54) เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย เนื่องจากพื้นที่เกิดเหตุเป็นทางเปลี่ยวห่างไกลชุมชน จึงไม่มีผู้คนพบเห็นเหตุการณ์

พ.ต.ท.ยุทธรัฐ รัตนไพบูลย์เจริญ สารวัตร สภ.เวียงแก่น เจ้าของคดี กล่าวยอมรับว่า หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนก็ได้พยายามออกสอบถามชาวบ้าน ที่พอจะเห็นเหตุการณ์บ้างแล้ว ปรากฏว่าช่วงเกิดเหตุไม่มีคนเห็นเหตุการณ์เลย แต่ก็พอจะสันนิฐานว่าคนร้ายคงจะมีการวางแผนเพื่อสังหารทั้งคู่มาเป็นอย่างดี จึงเลือกทำเลที่ห่างไกล

ส่วนสถานที่เกิดเหตุก็ยากจะติดตามหาบุคคลต้องสงสัย เพราะเป็นถนนเลียบแม่น้ำโขง ฝั่งหนึ่งเป็นแม่น้ำโขง ที่คนร้ายอาจจะใช้หลบหนีข้ามฝั่งไปยังประเทศเพื่อนบ้านไปแล้ว ส่วนอีกฝั่งของถนนเป็นภูเขาและป่าสลับซับซ้อนด้วย

สำหรับสาเหตุ เบื้องต้นนั้นสันนิฐานจากการตรวจสอบประวัติของผู้ตาย คาดว่า น่าจะมาจากเรื่องความขัดแย้งในธุรกิจที่ไม่เปิดเผย โดยได้มีความขัดแย้งกันเกิดขึ้น แต่เมื่อไม่สามารถตกลงกันได้ จึงทำให้คู่กรณีได้วางแผนการฆ่าผู้ตายเสีย ซึ่งแม้การติดตามจะยุ่งยากแต่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่ลดละ โดยกำลังพยายามหาเบาะแสเพื่อติดตามหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า สำหรับพื้นที่ อ.เวียงแก่น มีปัญหาเรื่องการลักลอบนำเข้ายาเสพติดมานาน เนื่องจากมีพรมแดนทั้งแม่น้ำโขงและป่าเขาถัดจากแก่งผาได ต.ม่วงยาย ขึ้นไป ทำให้ขบวนการค้ายาเสพติดมีช่องทางหลบหลีกหลายครั้ง รวมทั้งเคยอาศัยชัยภูมิดังกล่าวซุ่มยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยเฉพาะตำรวจปราบปรามยาเสพติด (ปส.) ที่เข้าไปล่อซื้อยาบ้าจนเป็นเหตุให้มีตำรวจ ปส.เสียชีวิตแล้วหลายนาย รายล่าสุดพึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมา บนถนนสายเดียวกันพื้นที่หมู่บ้านดอน หมู่ 3 ต.ปอ อ.เวียงแก่น เป็นเหตุให้ตำรวจ ปส.เสียชีวิต 1 นายและบาดเจ็บสาหัส 1 นาย

รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ก่อนหน้านี้มีญาติผู้ตายที่ใกล้ชิดคนหนึ่งเพิ่งถูกจับกุมคดียาเสพติดประเภทยาบ้าพร้อมของกลางหลายหมื่นเม็ด ซุกซ่อนในเครื่องเสียง ท้องที่ อ.เชียงของ ไปเมื่อหลายเดือนก่อน ขณะที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงหลายฝ่ายได้เฝ้าติดตามพฤติกรรมของญาติที่เหลืออย่างใกล้ชิด รวมทั้งสงสัยว่ามีความเกี่ยวพันกับกรณียิงตำรวจ ปส.เสียชีวิต เมื่อวันที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมาด้วย

ดังนั้นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมุ่งปมไปยังเรื่องเกี่ยวกับยาเสพติด มากกว่าเรื่องการเมือง ที่พึ่งมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ไปเมื่อเร็วๆ นี้นั่นเอง