xs
xsm
sm
md
lg

กมธ.ท่องเที่ยวฯ เผยท่องเที่ยวเมืองพัทยาเริ่มถอยหลัง-ชายหาดไม่มีสิ่งดึงดูด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวศรีราชา -กมธ.ท่องเที่ยว วุฒิสภา เผยการท่องเที่ยวเมืองพัทยาเริ่มถอยหลัง ระบุสภาพชายหาดไม่เหลือจุดดึงดูด เพราะหมักหมมเรื่องความไม่เป็นระเบียบ และปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม ชี้แม้รัฐหนุนโครงการยักษ์ก็ไม่เกิดประโยชน์หากท้องถิ่นไม่ร่วมแก้ไขสภาพ พร้อมอัด กท.ท่องเที่ยวที่ผ่านมาผลงานไม่เข้าตา เพราะผู้นำไร้วิสัยทัศน์ ขณะที่ผู้ประกอบการในพื้นที่ชี้ปัญหาพัทยาเกิดจากการบริหารจัดการ และการบังคับใช้กฎหมายที่ไม่มีประสิทธิภาพ

เมื่อเร็วๆนี้ ที่โรงแรมดุสิตธานีพัทยา จังหวัด ชลบุรี คณะกรรมาธิการการท่องเที่ยววุฒิสภา นำโดยนางธันยรัศม์ อัจฉริยะฉาย ประธานคณะกรรมาธิการฯ เดินทางมาศึกษาและรับฟังสภาพปัญหาด้านการท่อง เที่ยวของเมืองพัทยา จากตัวแทนขององค์กรภาคธุรกิจท่องเที่ยวและการโรงแรม ประกอบด้วยสมาคมโรง แรมไทยภาคตะวันออก สมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา ชมรมแหล่งท่องเที่ยวเมืองพัทยา และภาคส่วนต่างๆ ทั้งนี้ เพื่อดูความคืบหน้าและปัญหาด้านการท่องเที่ยวที่เกิดขึ้น รวมทั้งความต้องการของท้องถิ่นในการพัฒนาการท่องเที่ยวไปสู่ความเป็นสากล

นายวิวัฒน์ พัฒนสิน นายกสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา กล่าวว่าสำหรับเมืองพัทยาต้องยอมรับว่า ที่ผ่านมามีปัญหามากพอสมควร โดยเฉพาะเรื่องของระบบสาธารณูปโภค เรื่องของขนส่งมวลชน ปัญหาการจราจร สิ่งแวดล้อม และความเป็นระเบียบ รวมไปถึงเรื่องของการจัดโซนนิ่งแหล่งท่องเที่ยว โดยเฉพาะเรื่องของการจราจรนั้นพบว่านับวันจะรุนแรงมากยิ่งขึ้น

ด้าน น.ส.อลิสา พนธุศักดิ์ ที่ปรึกษาสมาคมโรงแรมไทยภาคตะวันออก กล่าวว่าปัญหาหลักของเมืองพัทยาคือเรื่องของการบริหารจัดการ ที่พบว่าที่ผ่านมาไม่สามารถแก้ไขปัญหาท้องถิ่นบางอย่างได้ ทั้งนี้คงเป็นเพราะเรื่องของการเมืองเป็นหลักจึงทำให้ห่วงในเรื่องของฐานเสียง ฐานคะแนน หรือพวก Voter การแก้ไขบางอย่างจึงไม่บรรลุผล ขณะที่การจัดระเบียบนั้นหากเวลาใดมีข้าราชการระดับสูงที่มีความมุ่งมั่นเข้ามาทำงาน และอยากจะปรับเปลี่ยนเมืองพัทยาไปในทิศทางที่ดีขึ้น

เช่น การจัดระเบียบชายหาดซึ่งพบว่ามีสภาพเสื่อมโทรม มีการนำเอาที่สาธารณะมาครอบครองทำกิน จนคนพัทยาไม่มีสิทธิในการใช้แล้ว เมื่อจะลงไปดำเนินการก็มักจะโดนอำนาจบางอย่างเข้ามาไกล่เกลี่ย การแก้ไขปัญหาก็ไม่มีประสิทธิภาพเช่นเดิม ซึ่งเรื่องนี้อยากร้องเรียนไปยังคณะกรรมาธิการ เพื่อให้ดำเนินการจัดหาผู้ตรวจสอบเข้ามาแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นด้วย

นอกจากนี้ ยังมีปัญหาเรื่องของการบังคับใช้กฎหมายที่ไม่จริงจัง ปล่อยปละละเลย จนมีสิ่งที่ผิดกฎหมายมากมาย โดยเฉพาะเรื่องของที่สาธารณะ การจราจร และอื่นๆ

ขณะที่นางธันรัศม์ อัจฉริยะฉาย ประธานกรรมาธิการฯ กล่าวว่า เมืองพัทยาถือว่าเป็นเมืองท่อง เที่ยวที่มีพื้นที่ได้เปรียบแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ อย่างมาก เนื่องจากอยู่ใกล้ กรุงเทพฯ และสนามบินสุวรรณภูมิ ที่สำคัญมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายและหลากหลาย นอกจากนี้ในอดีตยังถือว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมอย่างมากในสากล

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันพบว่าสภาพของเมืองพัทยาเปลี่ยนไป ซึ่งนอกจากจะมีปัญหาในเรื่องของการจราจร การขนส่งมวลชน การจัดระเบียบและอื่นๆแล้ว สภาพสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะเรื่องของชายหาดซึ่งถือว่าเป็นจุดขายสำคัญมีสภาพเสื่อมโทรมลงอย่างมาก ทั้งเรื่องของความสกปรก เรื่องของน้ำทะเลที่ไม่ค่อยสะอาด และการขาดระเบียบของผู้ประกอบการร่มเตียงชายหาด

ประกอบกับ ยังมีภาพของความเป็นเมืองเซ็กซ์ซิตี้ จึงทำให้นักท่องเที่ยวคุณภาพอย่างกลุ่มสแกนดิเนเวียหายไป ขณะที่นักท่องเที่ยวอื่นๆแม้จะเดินทางเข้ามาเมืองพัทยา แต่อัตราการเข้าพักก็เฉลี่ยที่ 2-3 คืนเท่านั้น ซึ่งถือว่าผิดวิสัยของนักท่องเที่ยวจากยุโรปและอเมริกาที่ปกติการท่องเที่ยวชายทะเลจะมีระยะเวลาการพักผ่อนนานหลายวัน

ขณะที่ผู้ประกอบการในเมืองพัทยาเอง ก็ต้องปรับมาตรฐานตามไปด้วย โดยเฉพาะอัตราเข้าพักที่ปรับลดกันมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสวนกับสภาพกระแสทางเศรษฐกิจอย่างสิ้นเชิง ปัญหาที่เกิดขึ้นคงต้องถามไปที่ผู้ประกอบการและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ว่าควรจะดำเนินการอย่างไร เพราะแม้จะให้ส่วนกลางผลักดันโครงการต่างๆให้ ทั้งเรื่องของถนน และความเจริญต่างๆ แต่เมื่อนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามา และพบกับปัญหาก็คงไม่ทำให้การท่องเที่ยวดีขึ้น

ดังนั้น เมืองพัทยาควรเป็นเมนหลักในการดำเนินการในการแก้ไข และหากพบว่ามีปัญหาที่ไม่สามารถดำเนินการในระดับท้องถิ่นได้ก็ส่งต่อให้ภาครัฐต่อไป

นางธันรัศม์ กล่าวต่อไปว่า อย่างไรก็ตาม สำหรับเมืองพัทยาและเมืองท่องเที่ยวหลักทั้งเชียงใหม่ ภูเก็ต สมุย ปัจจุบันถือเป็นเมืองเอกทางการท่องเที่ยวของประเทศ สร้างรายได้ให้กับประเทศด้านการท่องเที่ยวปีละเป็นจำนวนมหาศาล และถือว่าการท่องเที่ยวก็เป็นพื้นฐานสำคัญในการแก้ไขปัญหาของประเทศในช่วงวิกฤตการณ์ต่างๆ

ขณะที่ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬานั้นกลับไม่ค่อยให้ความสนใจ และมีบทบาทในการส่งเสริมหรือพัฒนามากนัก โดยเฉพาะตัวของผู้นำ ที่พบว่าขาดวิสัยทัศน์ และไม่มีแผนการดำเนินงานที่ชัดเจน เน้นแต่เพียงการตัดริบบิ้นเปิดงาน ไม่เคยเข้าประชุมร่วมกับผู้ประกอบการหรือมีแนวคิดอะไรที่เกิดประโยชน์ต่อการท่องเที่ยวเลย ซึ่งถือว่าน่าผิดหวัง ดังนั้น ในโอกาสที่มีการปรับเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ จึงมีความมุ่งหวังที่จะมีการปรับเปลี่ยนผู้บริหารของกระทรวงใหม่ด้วยเพื่อให้การพัฒนาเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม
กำลังโหลดความคิดเห็น