กาฬสินธุ์- แชร์ลอตเตอรี่สหกรณ์ครูเมืองน้ำดำพ่นพิษ นายทะเบียนสหกรณ์จังหวัด ขู่ฟันหากทำผิดข้อบังคับฯ ชี้ เงิน 820 ล้าน เสี่ยงมากนำไปค้าสลากกินแบ่งกับนายหน้า ขณะที่การถอดถอน คณะกรรมการ-ผู้จัดการ สมาชิกสามารถเข้าชื่อถอดถอนได้ ด้านผู้บริหารสหกรณ์ออมทรัพย์ครูกาฬสินธุ์ ยันการจัดซื้อสลากไม่ใช่ระบบแชร์ลูกโซ่ แต่เป็นระบบการจัดซื้อเพื่อปันผลกำไรให้กับสมาชิก ท้าให้ตรวจสอบทุกกรณี
เช้าวันนี้ (19 ก.ค.) ที่สหกรณ์จังหวัดกาฬสินธุ์ นายวชิระ พลตื้อ ประธานชมรมพิทักษ์สิทธิครู นายมีชัย ไชแสง ผู้แทนสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูฯ พร้อมด้วยเพื่อนสมาชิก เข้ายื่นหนังสือต่อ นายสุพจน์ วัฒนวิเชียร สหกรณ์จังหวัด เพื่อให้พิจารณาสั่งการให้คณะกรรมการฝ่ายปฏิบัติการ ของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูกาฬสินธุ์ จำกัด ประกอบด้วย ผู้จัดการและรองผู้จัดการ หยุดการปฏิบัติหน้าที่เป็นการชั่วคราว และให้พิจารณาสั่งการให้คณะกรรมการพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ ก่อนที่จะทำการตรวจสอบปัญหาการใช้เงินสหกรณ์ฯจำนวน 820 ล้านบาท ในการทำสัญญาซื้อลอตเตอรี่กับบริษัท จัมโบ้-ซับพลายแอนเซอร์วิส จำกัด ที่ส่อไปในทางทุจริต เนื่องจากผิดข้อบังคับของสหกรณ์ฯ
นายวชิระ กล่าวว่า ตนยังได้เรียกร้องให้ สหกรณ์จังหวัดกาฬสินธุ์ แจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่ทำให้สหกรณ์ออมทรัพย์ครูกาฬสินธุ์ จำกัด ได้รับความเสียหายและทำให้เงินของเพื่อนสมาชิกตกอยู่บนความเสี่ยง และยังต้องการให้มีการเปิดประชุมใหญ่วิสามัญโดยสมาชิกภายใน 30 วัน เพื่อชี้แจงรายละเอียดทั้งหมดให้กับสมาชิกได้รับทราบ กับการพิจารณายกเลิกสัญญากับบริษัทเอกชนและเรียกเงินมัดจำที่เหลือคืนให้กับสหกรณ์
ด้าน นายสุพจน์ วัฒนวิเชียร สหกรณ์จังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า สหกรณ์จังหวัดยืนยันที่จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยในวันนี้ได้ส่งผู้ตรวจการสหกรณ์เข้าตรวจสอบ ซึ่งจะสามารถรู้ผลได้ภายใน 30 วัน
ทั้งนี้ เบื้องต้นจากปัญหาการทำสัญญาครั้งนี้ สหกรณ์ออมทรัพย์ครูฯ อาจทำผิดข้อบังคับและหากผลการตรวจสอบพบว่ามีความเสียหาย คณะกรรมการและผู้บริหารจะต้องรับผิดชอบ แต่ในส่วนการเรียกร้องนั้น เนื่องจากเป็นระบบสหกรณ์ การถอดถอนคณะกรรมการ ผู้จัดการสหกรณ์ จะต้องขึ้นอยู่กับมวลสมาชิกที่ต้องการถอดถอนด้วยการเข้าชื่อแล้วทำการเปิดประชุม
“ทั้งนี้ ยอมรับว่า การจัดซื้อลอตเตอรี่ดังกล่าวอยู่บนความเสี่ยง เนื่องจากเป็นการกระทำที่ไม่ตรงวัตถุประสงค์ของการตั้งสหกรณ์ ซึ่งก็คงขึ้นอยู่กับเจตนาของผู้บริหาร และขึ้นอยู่กับความต้องการของสมาชิกว่าต้องการอย่างไร เพราะที่แน่ๆ ทราบว่า มีการทำสัญญากับบริษัทนายหน้าเอาไว้การตัดสินใจก็คงจะต้องขึ้นอยู่กับสมาชิกทั้งหมด ที่จะต้องหาวิธีเอาเงินกลับคืนมาได้อย่างครบถ้วนโดยไม่เสียผลประโยชน์ ส่วนจะออกมาในรูปแบบไหนก็จะต้องขึ้นอยู่กับกระบวนการตรวจสอบต่อไป” นายสุพจน์ กล่าว
ขณะเดียวกัน ที่ สหกรณ์ออมทรัพย์ครูกาฬสินธุ์ จำกัด พบว่า มีสมาชิกผู้ฝากเงินสหกรณ์ฯ ได้ทยอยเดินทางมาสอบถามเกี่ยวกับปัญหาการจัดซื้อลอตเตอรี่ บางส่วนก็มีการทยอยถอนเงินฝากออกไปเนื่องจากเกรงว่าเงินที่ฝากไว้จะไม่ปลอดภัย
ต่อมาวันเดียวกัน นายวิระ รักษามิตร์ ประธานกรรมการ นายมงคล ทฤษฎี ผู้จัดการสหกรณ์ พร้อมคณะ ได้ออกมาชี้แจงกรณีดังกล่าว โดยยืนยันว่า การจัดซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล เกิดขึ้นด้วยความโปร่งใส ไม่ใช่ระบบแชร์ลูกโซ่ แต่เป็นระบบการปันผลจากบริษัทนายหน้าเพื่อกินเงินส่วนต่าง ที่ยืนยันว่าทุกอย่างเกิดขึ้นไปตามระเบียบและข้อบังคับที่ชัดเจนของสหกรณ์ พร้อมกับยืนยันที่จะให้มีการตรวจสอบ
นายวิระ รักษามิตร์ ประธานกรรมการ กล่าวว่า การดำเนินการจัดซื้อดังกล่าวเกิดขึ้นก่อนที่จะมีหนังสือสั่งการจาก อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ฯ เนื่องจากสหกรณ์ออมทรัพย์ครูฯ ได้ทำการเซ็นสัญญาจัดซื้อกับบริษัทนายหน้าไปแล้ว รวม 48 งวด เป็นเงิน 820,800,000 บาท โดยในหนังสือระบุว่าหากมีการเซ็นสัญญาไปแล้ว ก็ให้ดำเนินการไปจนสิ้นสุดสัญญาเพื่อป้องกันปัญหาการยกเลิกสัญญาที่จะทำให้ สหกรณ์ฯได้รับความเสียหาย
อีกทั้งผลการดำเนินการมาถึงขณะนี้เป็นงวดที่ 18 ก็มีเงินต้นรวมถึงเงินปันผลจ่ายคืนมาแล้วจำนวน 309 ล้านบาท และเหลืออีกประมาณ 510 ล้านบาท ตามรายงานที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกเดือน ในส่วนที่จะมีการทำผิดข้อบังคับหรือไม่ จึงขอให้ขึ้นอยู่กับผลการตรวจสอบ เพราะหากมีการสั่งระงับโครงการนี้จริง สหกรณ์ออมทรัพย์ครูก็อาจจะมีปัญหากับบริษัทนายหน้า ที่เกี่ยวพันถึงการยกเลิกสัญญา และจะทำให้สหกรณ์ได้รับความเสียหายทันที
นอกจากนี้ มีรายงานว่า สำหรับการบริหารจัดการในโครงการจัดซื้อลอตเตอรี่ครั้งนี้ ถึงแม้ทาง ผู้บริหารสหกรณ์และผู้จัดการสหกรณ์ทำการชี้แจงมาแล้ว ก็ยังสร้างความกังขาให้กับสมาชิก เนื่องจากส่วนใหญ่ ยืนยันว่า ไม่รู้ว่าสหกรณ์จัดซื้อลอตเตอรี่ และเชื่อว่า เป็นการกระทำที่ผิดข้อบังคับสหกรณ์ และต้องการที่จะรับทราบข้อเท็จจริง ซึ่งภายใน 30 วันนี้ ทางสหกรณ์จะทำการเรียกประชุมวิสามัญเพื่อทำการชี้แจงให้กับเพื่อนสมาชิก รวมทั้งเปิดโอกาสให้ ผู้ตรวจการและผู้ตรวจสอบบัญชีทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างละเอียดอีกครั้ง
ทั้งนี้ ในการบริหารจัดการนั้น ล่าสุด สหกรณ์ออมทรัพย์ครูกาฬสินธุ์ จำกัด เพิ่งจะได้รับรางวัลพระราชทานสหกรณ์ดีเด่นแห่งชาติ ประเภทสหกรณ์ออมทรัพย์ ประจำปี 2553 ซึ่งเป็นรางวัลสูงสุดในขบวนการสหกรณ์ จากผลการบริหารจัดการที่มีเงินหมุนเวียนมากถึง 1 หมื่นล้านบาทต่อปี