อุบลราชธานี - จังหวัดอุบลราชธานี พร้อมอพยพประชาชนตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา หากเกิดการสู้รบ หลังศาลโลกมีคำพิพากษาให้ทหารทั้งสองฝ่ายถอนกำลังออกจากพื้นที่พิพาท แต่เชื่อไม่น่าเกิดความรุนแรงตามชายแดนด้านนี้ เพราะมีพื้นที่ห่างไกลจากเขตพิพาท
นายสุรพล สายพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกล่าวถึงสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอำเภอน้ำยืนและอำเภอน้ำขุ่น ซึ่งอยู่ใกล้กับปราสาทพระวิหารที่มีข้อพิพาทเรื่องดินแดนระหว่างไทย-กัมพูชา หลังศาลโลกมีคำพิพากษาให้ทหารทั้งสองฝ่ายถอนกำลังออกมาว่า ได้ตั้งศูนย์อำนวยการระดับจังหวัดและอำเภอชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อติดตามสถานการณ์หลังศาลมีคำพิพากษา โดยมีการเตรียมอาหาร ยาเวชภัณฑ์ สถานรักษาพยาบาล หากเกิดการสู้รบจังหวัดมีความพร้อมอพยพประชาชนที่อยู่ตามแนวชายแดนออกมาอยู่ที่ปลอดภัยได้ทันที แต่นายสุรพลเชื่อว่า มิตรภาพระหว่างไทย-กัมพูชา ยังดีอยู่ไม่น่าเกิดการสู้รบขึ้น
สำหรับการเคลื่อนไหวของทหารกัมพูชาตามแนวชายแดนด้านจังหวัดอุบลราชธานี นายสุรพลระบุว่า พบการเคลื่อนไหว แต่ทหารของไทยก็ได้เตรียมพร้อมไว้หมดแล้ว ส่วนการเคลื่อนไหวของกลุ่มมวลชนไทยที่อาจออกมาประท้วง จังหวัดอุบลราชธานี เป็นจุดห่างไกลความขัดแย้ง จึงไม่น่ามีเกิดขึ้น
บรรยากาศที่ช่องอานม้า ต.สีวิเชียร อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี กองร้อยทหารพรานที่ 926 กรมทหารพรานที่ 23 ยังคงตั้งฐานปฏิบัติการดูแลในพื้นที่ตามปกติ โดยยังไม่มีคำสั่งใดๆ จากหน่วยเหนือลงมา ส่วนการเคลื่อนไหวของฝั่งประเทศกัมพูชา ก็ยังไม่มีการปรับกำลังหรือเสริมกำลังพลที่ผิดปกติ
ด้าน อ.น้ำขุ่น ซึ่งมีเขตแดนติด อ.กันทรลักษ์ นายประเสริฐ ตรกสังข์ สจ.ประจำอำเภอระบุว่า ชาวบ้านยังคงออกไปทำไร่ และเชื่อว่าจะไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้น เพราะไม่ใช่พื้นที่สู้รบ แต่ได้มีการประชาสัมพันธ์ เตือนประชาชนไม่ให้ขึ้นไปเก็บของป่าบนเทือกเขาพนมดงรักที่เป็นเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชาในช่วงนี้ไปก่อน
