จนท.รวบหนุ่มวาวี ขนยาบ้าเข้ากรุงคาสนามบินเชียงราย

เชียงราย – รวบหนุ่มวาวี ขนยาบ้าขึ้นเครื่องเข้ากรุง แต่แสดงอาการพิรุธ เจอ จนท.จับค้นคาสนามบิน ได้ของกลางยานรก 6 พันเม็ด เงินสดอีก 9 พัน อ้างรับจ้างนายทุนขนยาบ้าส่งลูกค้าที่กรุงเทพฯ ขณะที่ ตร.เชียงราย ฝึกเข้ม อส.ตร.เสริมสร้างความเข้มแข็งชุมชน

วันนี้ (13 ก.ค.) พ.ต.ท.สมพร เชยบาล สารวัตรสืบสวน สภ.เมือง จ.เชียงราย และเจ้าหน้าที่ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงเชียงราย ต.บ้านดู่ อ.เมือง จับกุม นายอนุภาพ อ่วยยือ บ้านเลขที่ 778 ม.3 ต.วาวี อ.แม่สรวย พร้อมตั้งข้อหาค้ายาเสพติด

โดยก่อนหน้านี้ ทางเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจกระเป๋าเดินทางก่อนขึ้นเครื่อง ใช้เครื่องเอกซเรย์ตรวจหาสิ่งของผิดกฎหมายตามปกติ จนมาพบผู้ต้องหารายดังกล่าวแสดงท่าทางมีพิรุธก่อนที่จะนำกระเป๋าเข้าเครื่องตรวจเอกซเรย์ เจ้าหน้าที่จึงทำการควบคุมตัวผู้ต้องหาไว้ก่อน
ซึ่งจากการตรวจค้นกระเป๋าเดินทางที่ผู้ต้องหานำติดตัวมาด้วย พบยาบ้าถูกบรรจุอยู่ในถุงสีฟ้าจำนวน 30 ถุง รวมทั้งหมด 6,000 เม็ด เงินสดอีกจำนวน 9,000 บาท พร้อมพาสปอร์ตอีกจำนวน 1 เล่ม สอบสวน นายอนุภาพ สารภาพว่า รับการว่าจ้างจากนายทุนในพื้นที่ อ.เมือง ให้นำยาบ้าทั้งหมดเดินทางไปทางเครื่องบินเพื่อไปส่งกรุงเทพฯ

วันเดียวกัน พล.ต.ต.ทรงธรรม อัลภาชน์ ผบก.ภ.เชียงราย สั่งการให้ พ.ต.อ.วิรัช สุมนาพันธุ์ รองผบก.ภ.เชียงราย เป็นประธานเปิดการฝึกอบรมอาสาสมัครตำรวจบ้าน (อส.ตร.) ตามแผนพัฒนาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2550-2554 ด้านงานป้องกันอาชญากรรม เน้นการป้องกันมิให้เกิดอาชญากรรมเกิดขึ้น โดยให้ทุกหน่วยงานแสวงหาความร่วมมือจากประชาชนในพื้นที่มาเสริมการปฏิบัติงานด้านการป้องกันอาชญากรรมและบริการของเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลอย่างยั่งยืน รวมทั้งเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน ณ ห้องประชุมโรงเรียนแม่สรวยวิทยาคม อ.แม่สรวย โดยมีประชาชนผู้เข้ารับการอบรมจำนวน 200 คน

พ.ต.อ.วิรัช กล่าวว่า การจัดอบรมดังกล่าวมีจุดมุ่งหมายสูงสุดสำคัญ คือ การรักษาความสงบเรียบร้อย ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในส่วนรวม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการป้องกันอาชญากรรมและปราบปรามยาเสพติดเบื้องต้น เพราะลำพังเพียงแค่การปราบปรามของเจ้าหน้าที่คงไม่เพียงพอและยังไม่ได้รับความสำเร็จเท่าที่ควร หากไม่ได้รับความร่วมมือกับประชาชนในพื้นที่

ดังนั้น การฝึกอบรมอาสาสมัครตำรวจบ้าน จึงเกิดขึ้นเพื่อทุกฝ่ายโดยเฉพาะประชาชนในพื้นที่ที่ได้มีส่วนร่วมที่ป้องกันอาชญากรรมและยาเสพติด โดยยึดหลักการ “ตำรวจคือประชาชน ประชาชนคือตำรวจ” ซึ่งโครงการนี้จะเป็นการสร้างงานชุมชนและมวลชนสัมพันธ์ สร้างความเข้าใจอันดีระหว่างตำรวจกับประชาชนซึ่งจะส่งผลดีหลายด้านโดยเฉพาะความสงบเรียบร้อยในหมู่บ้านและชุมชน และความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินต่อไป