กาฬสินธุ์ -ชุดปราบปรามยาเสพติด สภ.เมืองกาฬสินธุ์ สังกัดตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ นำกำลังเข้าจับกุมแก๊งจำหน่ายยาบ้าในพื้นที่รายใหญ่ ได้ของกลางเป็นยาบ้ากว่า 7,200 เม็ด เงินสด 50,000 บาท พร้อมทรัพย์สินมีค่าที่อายัดไว้รวมมูลค่าเกือบ 3 ล้านบาท
วันนี้ (8 ก.ค.) ที่บ้านเลขที่ 10 หมู่ที่ 5 บ้านสระบัว ต.กมลาไสย อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ พ.ต.ท.ทูล เครือสิงห์ รองผกก.ป.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติดกว่า 20 นาย จู่โจมเข้าจับกุมและทลายเครือข่ายยาเสพติดในพื้นที่ อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจพบของกลางถูกซุกซ่อนไว้ในเล้าหมู ภายในรถยนต์ส่วนตัว และในบ้านพักทั้งหมด 7,200 เม็ด
พร้อมทั้งทรัพย์สินมีค่าอีกหลายรายการ ที่มีทั้งรถเก๋ง 3 คัน เงินสด ทองคำ และสมุดบัญชีเงินฝาก ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ทำการอายัดไว้ทั้งหมดและนำตัวมาสอบปากคำที่ สภ.เมืองกาฬสินธุ์
ของกลางที่เจ้าหน้าที่ยึดได้ มียาบ้าที่บรรจุไว้ในถุงพลาสติกสีน้ำเงิน 34 ถุง ซุกซ่อนในเล้าหมู และพบอีก 2 ถุงในรถยนต์ส่วนตัว อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ พร้อมเครื่องกระสุนขนาดเบอร์ 12 ซึ่งในการจับกุมครั้งนี้ได้ทำการอายัดทรัพย์มีค่าของเครือข่ายทั้งหมดไว้หลายรายการ ทั้งรถยนต์เก๋ง 3 คัน เป็นรถยนต์ฮอนด้าซีวิค สีดำ หมายเลขทะเบียน ศณ 6235 กทม. รถเก๋งโตโยต้า ยารีส สีขาว ทะเบียน กง 192 กาฬสินธุ์ และรถเก๋งนิสสัน สมาร์ท สีเขียวอีก 1 คัน นอกจากนี้ยังมีเงินสดอีก 52,900 บาท สร้อยทองคำหนัก 4 บาท แหวนทองคำ หนัก 1.50 บาท และสร้อยข้อมือหนัก 2 บาท อีก 2 เส้น
นอกจากนี้ ยังได้ยึดบัญชีเงินฝากทั้งธนาคารออมสินและธนาคารกรุงไทยไว้ โดยพบว่ามีเงินหมุนเวียนมากถึงวันละ 1-2 แสนบาท ตั้งแต่ช่วงเลือกตั้งเป็นต้นมา
ทั้งนี้ พล.ต.ต.คณิสร น้อยนารถ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ พ.ต.อ.วิเชียร พินดวง รอง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ พ.ต.อ.รณภพ หริ่มสืบ ผู้กำกับการชุดเฉพาะกิจปราบปรามยาเสพติด ตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ และพ.ต.ท.ทูล เครือสิงห์ รองผู้กำกับการ สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ได้ทำการการสอบปากคำผู้ต้องหาคดียาเสพติดจำนวน 5 ราย
ประกอบด้วย นายมรกต หรือ กต บุตรสี อายุ 26 ปี นางสาวอุลัยรัตน์ หรือแจง ศรีหามาตย์ อายุ 25 ปี นายมนตรี หรือ ก้อย บุตรสี อายุ 30 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านที่พบเจอยาบ้า และยังมีนายอนุชิต หรือน๊อต ไพรินทร์ อายุ 30 ปี และนายธงชัย หรือเก่ง สิงห์ดงเมือง อายุ 24 ปี ซึ่งเป็นชาวอ.กมลาไสยทั้งหมด โดยผู้ต้องหายังไม่ซัดทอดไปถึงเอเยนต์รายใหญ่ แต่รับว่าเพิ่งจะมาขายยาบ้า เพื่อต้องการนำเงินไปตั้งตัวและใช้หนี้เงินกู้ข้าราชการครูให้กับพ่อ
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวส่งไปยังพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีกับเอเยนต์ยาบ้าทั้ง 5 คน ในข้อหา ร่วมกันจำหน่ายและมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และทางชุดสืบสวนจะเสนอคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นเอเยนต์รายใหญ่อีกทั้งยังเป็นเครือญาติข้าราชการมีชื่อในจังหวัดด้วย
ด้าน พล.ต.ต.คณิสร น้อยนารถ ผบก.ตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ถึงแม้ว่าตอนนี้จะยังไม่มีการจัดตั้งรัฐบาลเป็นที่เรียบร้อย แต่การปฏิบัติการเพื่อปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดยังคงเข้มข้น ซึ่งได้กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายต้องปราบปรามให้หมดและให้เอาจริงเอาจัง ไม่ต้องหวั่นเกรง ไม่ว่าจะเป็นลูกข้าราชการหรือคนมีชื่อเสียง เพราะการแพร่ระบาดของยาเสพติดในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ สร้างความกังวลให้กับพ่อแม่ผู้ปกครองมากในทุกวันนี้
วันนี้ (8 ก.ค.) ที่บ้านเลขที่ 10 หมู่ที่ 5 บ้านสระบัว ต.กมลาไสย อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ พ.ต.ท.ทูล เครือสิงห์ รองผกก.ป.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติดกว่า 20 นาย จู่โจมเข้าจับกุมและทลายเครือข่ายยาเสพติดในพื้นที่ อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจพบของกลางถูกซุกซ่อนไว้ในเล้าหมู ภายในรถยนต์ส่วนตัว และในบ้านพักทั้งหมด 7,200 เม็ด
พร้อมทั้งทรัพย์สินมีค่าอีกหลายรายการ ที่มีทั้งรถเก๋ง 3 คัน เงินสด ทองคำ และสมุดบัญชีเงินฝาก ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ทำการอายัดไว้ทั้งหมดและนำตัวมาสอบปากคำที่ สภ.เมืองกาฬสินธุ์
ของกลางที่เจ้าหน้าที่ยึดได้ มียาบ้าที่บรรจุไว้ในถุงพลาสติกสีน้ำเงิน 34 ถุง ซุกซ่อนในเล้าหมู และพบอีก 2 ถุงในรถยนต์ส่วนตัว อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ พร้อมเครื่องกระสุนขนาดเบอร์ 12 ซึ่งในการจับกุมครั้งนี้ได้ทำการอายัดทรัพย์มีค่าของเครือข่ายทั้งหมดไว้หลายรายการ ทั้งรถยนต์เก๋ง 3 คัน เป็นรถยนต์ฮอนด้าซีวิค สีดำ หมายเลขทะเบียน ศณ 6235 กทม. รถเก๋งโตโยต้า ยารีส สีขาว ทะเบียน กง 192 กาฬสินธุ์ และรถเก๋งนิสสัน สมาร์ท สีเขียวอีก 1 คัน นอกจากนี้ยังมีเงินสดอีก 52,900 บาท สร้อยทองคำหนัก 4 บาท แหวนทองคำ หนัก 1.50 บาท และสร้อยข้อมือหนัก 2 บาท อีก 2 เส้น
นอกจากนี้ ยังได้ยึดบัญชีเงินฝากทั้งธนาคารออมสินและธนาคารกรุงไทยไว้ โดยพบว่ามีเงินหมุนเวียนมากถึงวันละ 1-2 แสนบาท ตั้งแต่ช่วงเลือกตั้งเป็นต้นมา
ทั้งนี้ พล.ต.ต.คณิสร น้อยนารถ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ พ.ต.อ.วิเชียร พินดวง รอง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ พ.ต.อ.รณภพ หริ่มสืบ ผู้กำกับการชุดเฉพาะกิจปราบปรามยาเสพติด ตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ และพ.ต.ท.ทูล เครือสิงห์ รองผู้กำกับการ สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ได้ทำการการสอบปากคำผู้ต้องหาคดียาเสพติดจำนวน 5 ราย
ประกอบด้วย นายมรกต หรือ กต บุตรสี อายุ 26 ปี นางสาวอุลัยรัตน์ หรือแจง ศรีหามาตย์ อายุ 25 ปี นายมนตรี หรือ ก้อย บุตรสี อายุ 30 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านที่พบเจอยาบ้า และยังมีนายอนุชิต หรือน๊อต ไพรินทร์ อายุ 30 ปี และนายธงชัย หรือเก่ง สิงห์ดงเมือง อายุ 24 ปี ซึ่งเป็นชาวอ.กมลาไสยทั้งหมด โดยผู้ต้องหายังไม่ซัดทอดไปถึงเอเยนต์รายใหญ่ แต่รับว่าเพิ่งจะมาขายยาบ้า เพื่อต้องการนำเงินไปตั้งตัวและใช้หนี้เงินกู้ข้าราชการครูให้กับพ่อ
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวส่งไปยังพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีกับเอเยนต์ยาบ้าทั้ง 5 คน ในข้อหา ร่วมกันจำหน่ายและมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และทางชุดสืบสวนจะเสนอคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นเอเยนต์รายใหญ่อีกทั้งยังเป็นเครือญาติข้าราชการมีชื่อในจังหวัดด้วย
ด้าน พล.ต.ต.คณิสร น้อยนารถ ผบก.ตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ถึงแม้ว่าตอนนี้จะยังไม่มีการจัดตั้งรัฐบาลเป็นที่เรียบร้อย แต่การปฏิบัติการเพื่อปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดยังคงเข้มข้น ซึ่งได้กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายต้องปราบปรามให้หมดและให้เอาจริงเอาจัง ไม่ต้องหวั่นเกรง ไม่ว่าจะเป็นลูกข้าราชการหรือคนมีชื่อเสียง เพราะการแพร่ระบาดของยาเสพติดในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ สร้างความกังวลให้กับพ่อแม่ผู้ปกครองมากในทุกวันนี้