ตำรวจปราบปรามยาเสพติด จับโปรแกรมเมอร์ พร้อมพวกรวม 5 คน ค้ายาบ้า ได้ของกลางรวม 32,000 เม็ด เงินสดอีก 1.5 ล้านบาท สมุดบัญชีเงินฝาก มีเงินหมุนเวียนกว่า 24 ล้านบาท รับสารภาพเป็นโปรแกรมเมอร์รายได้ไม่ดีพอ จึงหันมาค้ายาบ้า ส่วนบัญชีเงินฝากที่มีเงินหมุนเวียนจำนวนมากนั้นแก๊งค้ายานำมาฟอก เพราะเห็นว่ามีอาชีพน่าเชื่อถือ
วันนี้ (25 พ.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น.ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) พล.ต.ท.อติเทพ ปัญจมานนท์ ผบช.ปส. พ.ต.อ.ธนายุทธ์ วุฒิจรัสธำรง รอง ผบก.ปส.3 พร้อมเจ้าหน้าที่ บก.ปส.3 แถลงการจับกุมตัวผู้ต้องหาค้ายาเสพติดจำนวน 5 ราย ประกอบด้วย 1.นายสุรพล หรือเคน งามสิริวัฒนา อายุ 22 ปี 2.นายเฉลิมพล หรือหยุยส์ แซ่โซ้ง อายุ 22 ปี 3.นายหัสดิน พรชัยสุนทร อายุ 29 ปี 4.นายคมสัน แซ่โซ้ง อายุ 19 ปี และ 5.นายรณชัย เลิศชัยสหกุล อายุ 26 ปี พร้อมของกลาง ยาบ้า 32,000 เม็ด รถยนต์กระบะ 1 คัน รถยนต์เก๋ง 1 คัน เงินสด 1.5 ล้านบาท และสมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร 3 เล่ม โดยจับกุมได้ที่บริเวณลานจอดรถยนต์ห้างสรรพสินค้าเทสโก้โลตัส ต่อเนื่องลานจอดรถยนต์ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี นวนคร ต่อเนื่องร้านอาหารถึงพริกถึงขิง ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี
พ.ต.อ.ธนายุทธ์กล่าวว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากสายลับว่า นายเคน ผู้ต้องหาที่ 1 กับพวก ซึ่งเป็นเครือข่ายยาเสพติดชาวเขาเผ่าม้ง อ.เชียงคำ จ.เชียงราย มีพฤติการณ์ลักลอบจำหน่ายยาเสพติดที่ กทม.และปริมณฑล จึงได้วางแผนให้เจ้าหน้าที่ติดต่อล่อซื้อยาบ้าจำนวน 10,000 เม็ด ราคา 950,000 บาท โดยนัดส่งมอบยาที่ห้างสรรพสินค้าเทสโก้โลตัส นวนคร ต่อมาพบผู้ต้องหาทั้ง 5 คนนำยาบ้ามาส่งมอบให้จึงทำการจับกุมตัว และขยายผลตรวจค้นรถยนต์ของนายหัสดิน พบยาบ้าอีก 22,000 เม็ด จากนั้นขยายผลตรวจค้นบ้านของนายหัสดิน พบเงินสด 1.5 ล้านบาท พร้อมยึดสมุดบัญชีธนาคารและทรัพย์สินอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าในสมุดบัญชีธนาคารมีเงินหมุนเวียนกว่า 24 ล้านบาท เบื้องต้นจึงได้อายัดบัญชีดังกล่าวไว้พร้อมเร่งขยายผลจับกุมเจ้าบัญชีต่อไป
จากการสอบสวนนายหัสดินให้การรับสารภาพว่า มีอาชีพเป็นโปรแกรมเมอร์ แต่รายได้ไม่พอใช้จึงหารายได้เสริมโดยการรับยาบ้ามาจากทางภาคเหนือ อ.เชียงคำ จ.เชียงราย เพื่อมาขายยัง กทม.และปริมณฑล จ.พระนครศรีอยุธยา และปทุมธานี ทำมาแล้วประมาณ 1 ปี เคยส่งยามาแล้ว 4 ครั้ง ได้ค่าจ้างมัดละ 5,000 บาท ส่วนเงิน 24 ล้านบาทในบัญชีนั้นจะมีคนซึ่งทราบชื่อเพียงนายเอก และนางมัลลิกา จะเป็นผู้โอนเงินเข้ามาเพื่อให้นำไปซื้อยาบ้าและฟอกเงินเพราะมีอาชีพการงานที่น่าเชื่อถือ
เบื้องต้นแจ้งข้อหา ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า หรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวน บช.ปส.ดำเนินคดีต่อไป
วันนี้ (25 พ.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น.ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) พล.ต.ท.อติเทพ ปัญจมานนท์ ผบช.ปส. พ.ต.อ.ธนายุทธ์ วุฒิจรัสธำรง รอง ผบก.ปส.3 พร้อมเจ้าหน้าที่ บก.ปส.3 แถลงการจับกุมตัวผู้ต้องหาค้ายาเสพติดจำนวน 5 ราย ประกอบด้วย 1.นายสุรพล หรือเคน งามสิริวัฒนา อายุ 22 ปี 2.นายเฉลิมพล หรือหยุยส์ แซ่โซ้ง อายุ 22 ปี 3.นายหัสดิน พรชัยสุนทร อายุ 29 ปี 4.นายคมสัน แซ่โซ้ง อายุ 19 ปี และ 5.นายรณชัย เลิศชัยสหกุล อายุ 26 ปี พร้อมของกลาง ยาบ้า 32,000 เม็ด รถยนต์กระบะ 1 คัน รถยนต์เก๋ง 1 คัน เงินสด 1.5 ล้านบาท และสมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร 3 เล่ม โดยจับกุมได้ที่บริเวณลานจอดรถยนต์ห้างสรรพสินค้าเทสโก้โลตัส ต่อเนื่องลานจอดรถยนต์ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี นวนคร ต่อเนื่องร้านอาหารถึงพริกถึงขิง ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี
พ.ต.อ.ธนายุทธ์กล่าวว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากสายลับว่า นายเคน ผู้ต้องหาที่ 1 กับพวก ซึ่งเป็นเครือข่ายยาเสพติดชาวเขาเผ่าม้ง อ.เชียงคำ จ.เชียงราย มีพฤติการณ์ลักลอบจำหน่ายยาเสพติดที่ กทม.และปริมณฑล จึงได้วางแผนให้เจ้าหน้าที่ติดต่อล่อซื้อยาบ้าจำนวน 10,000 เม็ด ราคา 950,000 บาท โดยนัดส่งมอบยาที่ห้างสรรพสินค้าเทสโก้โลตัส นวนคร ต่อมาพบผู้ต้องหาทั้ง 5 คนนำยาบ้ามาส่งมอบให้จึงทำการจับกุมตัว และขยายผลตรวจค้นรถยนต์ของนายหัสดิน พบยาบ้าอีก 22,000 เม็ด จากนั้นขยายผลตรวจค้นบ้านของนายหัสดิน พบเงินสด 1.5 ล้านบาท พร้อมยึดสมุดบัญชีธนาคารและทรัพย์สินอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าในสมุดบัญชีธนาคารมีเงินหมุนเวียนกว่า 24 ล้านบาท เบื้องต้นจึงได้อายัดบัญชีดังกล่าวไว้พร้อมเร่งขยายผลจับกุมเจ้าบัญชีต่อไป
จากการสอบสวนนายหัสดินให้การรับสารภาพว่า มีอาชีพเป็นโปรแกรมเมอร์ แต่รายได้ไม่พอใช้จึงหารายได้เสริมโดยการรับยาบ้ามาจากทางภาคเหนือ อ.เชียงคำ จ.เชียงราย เพื่อมาขายยัง กทม.และปริมณฑล จ.พระนครศรีอยุธยา และปทุมธานี ทำมาแล้วประมาณ 1 ปี เคยส่งยามาแล้ว 4 ครั้ง ได้ค่าจ้างมัดละ 5,000 บาท ส่วนเงิน 24 ล้านบาทในบัญชีนั้นจะมีคนซึ่งทราบชื่อเพียงนายเอก และนางมัลลิกา จะเป็นผู้โอนเงินเข้ามาเพื่อให้นำไปซื้อยาบ้าและฟอกเงินเพราะมีอาชีพการงานที่น่าเชื่อถือ
เบื้องต้นแจ้งข้อหา ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า หรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวน บช.ปส.ดำเนินคดีต่อไป
