ลำปาง - มูลนิธิขาเทียมแห่งประเทศไทยปรับแก้ไขขาเทียมให้ “พังโม่ชะ-พังโม่ตาลา” หลังทั้ง 2 เชือกเติบโตขึ้น ทำให้ขาใหญ่และน้ำหนักมาก
วันนี้ (8 ก.ค.) เจ้าหน้าที่ของมูลนิธิขาเทียมแห่งประเทศไทย ในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ได้เข้าทำการตกแต่งและแก้ไขขาเทียมอันใหม่อีกครั้ง เพื่อสวมใส่ให้กับ พังโม่ชะ ซึ่งครั้งนี้เป็นการปรับแก้เป็นครั้งที่ 7 ในรอบ 3 ปี โดยมีนายสัตวแพทย์ ปรีชา พวงคำ ผอ.ฝ่ายการแพทย์โรงพยาบาลช้างมูลนิธิเพื่อนช้าง คอยดูแลอย่างใกล้ชิด เนื่องจากพังโม่ชะเจริญเติบโตเร็วมาก ทำให้ขาใหญ่ขึ้นพร้อมน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นด้วย ทำให้ต้องมีการปรับเปลี่ยนขนาดและเปลี่ยนแผ่นรองให้หนา เพื่อรับน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นไม่เช่นนั้นสภาพโครงสร้างร่างกายของช้างจะผิดปกติไปด้วย
จากการทดลองสวมใส่ พบว่า พังโม่ชะเดินช้างลงกว่าเดิม ซึ่งอาจจะมีปัจจัยหลายอย่างบวกกับความคุ้นเคยที่ว่างเว้นจากการสวมขาเทียมมากว่า 2 เดือน จึงอาจทำให้ไม่คุ้นเคยประกอบกับบริเวณขามีแผลถลอก อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เดินช้างเนื่องจากขาเทียมที่สวมใส่อาจจะไประคายเคืองแผล ก็เป็นได้ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะได้ทดลองให้พังโม่ชะ สวมบ่อยๆและลองนำเดินให้มากขึ้น
สำหรับช้างพังโม่ชะ ได้เหยียบกับระเบิด ขณะตามแม่ช้างไปชักลากไม้ในป่าฝั่งพม่า เขตตรงข้ามกับ อ.ท่าสองยาง จ.ตาก เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.2549 ขณะที่มีอายุเพียง 7 เดือน และได้เข้ามารักษาที่โรงพยาบาลช้าง เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.2549 ได้รับการตั้งชื่อจากเลขาฯ มูลนิธิเพื่อนช้างว่า “พังโม่ชะ” โดยได้รับการดูและรักษาจนปัจจุบันอาการหายเป็นปกติแล้ว
ส่วนช้างพังโม่ตาลา ซึ่งเป็นช้างที่ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดอาการสาหัส เมื่อวันที่ 15 ส.ค.42 และเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลช้างของมูลนิธิเพื่อนช้าง วันที่ 18 ส.ค.ซึ่งพบว่ามีบาดแผลหลายแห่ง โดยขาหน้าซ้ายขาดรุ่งริ่ง ขาขวามีบาดแผลเช่นกัน ตามลำตัวก็มีบาดแผลจากสะเก็ดระเบิดด้วย สัตวแพทย์มาร่วมในการผ่าตัดขาหน้าซ้ายที่ขาดรุ่งริ่งและดูแลรักษาจนกระทั่งบาดแผลหายสนิท