ช้างน้อยดานเต้ซนหนัก-ชนควาญช้างซี่โครงหัก

ศูนย์ข่าวภาคเหนือ - ช้างน้อยดานเต้ ซนหนัก วิ่งชนควาญช้างซี่โครงหัก แถมกระดูกสันหลังอาจเคลื่อนตัว แต่โชคดีไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต ผอ.โรงพยาบาลช้าง เผยจำเป็นต้องฝึกช้างให้เชื่อง โต้ข้อหาทารุณช้าง

วันนี้ (16 มิ.ย.) เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลช้างของมูลนิธิเพื่อนช้าง อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง ได้รุดนำตัว นายสงวน อนันต์ อายุ 50 ปี ควาญช้างประจำโรงพยาบาลช้าง เข้าทำการรักษาตัวอย่างเร่งด่วนที่โรงพยาบาลห้างฉัตร หลังจากเกิดอุบัติเหตุถูกช้างน้อยดานเต้ เพศผู้ อายุ 1 ปี ช้างท่องเที่ยว ใน อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ ชนเข้าอย่างแรง ซึ่งแม้อาการไม่สาหัส แต่ก็น่าเป็นห่วงทำให้ทางโรงพยาบาลห้างฉัตร ได้ส่งตัวไปตรวจรักษาที่โรงพยาบาลศูนย์ลำปาง เนื่องจากคาดว่าซี่โครงซ้ายจะหัก รวมถึงบริเวณกระดูกสันหลัง อาจจะเกิดเคลื่อนตัว ซึ่งเสี่ยงเป็นอันตรายต่อร่างกายอย่างมาก

สำหรับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น นายสัตวแพทย์ ปรีชา พวงคำ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลช้างของมูลนิธิเพื่อนช้างจังหวัดลำปาง กล่าวว่า ควาญช้างได้เข้าไปในโรงเรือนของช้างน้อยดานเต้ ที่อยู่กับแม่ช้างพังคำน้อย อายุ 20 ปี ซึ่งช้างน้อยที่มีอารมณ์ดี ซุกซน และมักจะชอบวิ่งเล่นปกติ เหมือนกับเด็กเล็กทั่วไป เมื่อเห็นควาญช้าง จึงได้วิ่งเล่นเข้าใส่แรงกระแทก ทำให้ควาญช้างล้มลงกับพื้น ทำให้ควาญช้างที่เห็นเหตุการณ์ ได้เข้าช่วยออกจากโรงเรือนพยาบาลช้าง แล้วนำตัวส่งโรงพยาบาลทันที

สำหรับช้างน้อยเชือกนี้ เข้ารับการรักษาเมื่อปี 2553 ที่ผ่านมา เนื่องจากร่างกายเล็กผิดปกติกว่าช้างทั่วไปมาก รวมถึงร่างกายยังเกิดอ่อนแอมาก จึงให้กินนมแพะวันละ 8 ลิตร สลับกับกินกล้วยสุก และกินหัวปลี จนร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ แต่ขนาดของช้างก็ยังคงผิดปกติ อ้วน และเตี้ย

อย่างไรก็ตาม โชคดีที่ควาญช้างไม่เป็นอันตรายถึงขั้นกับชีวิต ซึ่งกรณีที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นอุทาหรณ์ ว่า ช้างจะต้องได้รับการฝึกให้เชื่อง และเชื่อฟังควาญช้าง เพื่อควบคุมช้างไม่ให้ทำอันตรายคน แต่มีหลายองค์กรที่ได้ออกมาต่อต้านการนำช้างเข้าฝึก โดยให้เหตุผลว่าเป็นการทารุนช้าง เหมือนกับการผ่าจ้าน ที่เป็นการแยกแม่กับลูกช้างออกจากกัน

ผู้อำนวยการโรงพยาบาลช้างของมูลนิธิเพื่อนช้างจังหวัดลำปาง ยังกล่าวอีกว่า หากไม่ฝึกช้าง ตนเห็นว่าก็จะไม่สามารถดูแลช้างได้ รวมถึงการต่อต้านไม่ให้มัด ช้างก็จะเดินไปเรื่อยๆ และไปกินผลผลิตทางการเกษตรของประชาชนตามที่เป็นข่าวเกิดขึ้น

และล่าสุดนี้ ได้มีองค์กรหนึ่ง ที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย ที่ชื่อ The Scavenger ได้เผยแพร่เกี่ยวกับการทารุนช้างไทยในหัวข้อ Wildlife tourism in Thailand :Cruel and exploitative? ผ่านทางเว็บไซต์ www.thescavenger.net ว่า ขอให้นักท่องเที่ยวทั่วโลก ไม่ควรที่จะเข้ามานั่งช้างท่องเที่ยวในประเทศไทย เพราะช้างถูกฝึกมาอย่างทารุน และอาจจะเป็นอันตรายได้ ถือว่าเป็นเรื่องที่เข้าใจผิด เพราะการฝึกจะส่งผลดีกับช้าง และไม่ทำให้ช้างดุร้าย ดังนั้น ข้อความดังกล่าว ถือว่าได้สร้างความเสียหายแก่ปางช้างทั่วประเทศ

จึงอยากเรียกร้องผ่านสื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ และเอกชน โดยเฉพาะการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ให้สนใจในเรื่องนี้ด้วย เพราะจะกระทบต่อการท่องเที่ยวโดยตรง ซึ่งขณะนี้ใกล้จะถึงฤดูกาลท่องเที่ยวแล้ว และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติส่วนใหญ่ มักจะนิยมไปเที่ยวดูช้าง และนั่งช้างชมธรรมชาติ หากมีการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารไปในทางที่ผิด จะทำให้นักท่องเที่ยวเกิดความเข้าใจผิด และไม่เข้ามาเที่ยวชมช้างไทย สิ่งที่จะตามมา เจ้าของช้าง และช้างก็จะว่างงาน และต้องหางานทำ ช้างก็จะเดินเร่ร่อนมากยิ่งขึ้น หรือเจ้าของช้าง ก็อาจจะนำช้างเข้าไปทำงานชักลากไม้มากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะตามแนวชายแดน ซึ่งจะเสี่ยงต่อชีวิตช้าง ที่จะเหยียบกับระเบิด