ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ศูนย์ต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดฯ รับเชียงใหม่ ปลูกฝิ่นมากที่สุด ปีกลายเจอกว่าพันไร่ ขณะที่ปีนี้(2554)คาดตัวเลขไม่หนีปี 53 ขณะที่การลักลอบนำเข้ายานรกคิดเป็น 40%ของพื้นที่ภูมิภาค แถมยอดคนเสพอายุน้อยพุ่ง
นายวิโรจน์ ดวงสุวรรณ หัวหน้าศูนย์ต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดจังหวัดเชียงใหม่ ได้เปิดเผยถึงสถานการณ์และแนวโน้มปัญหายาเสพติดว่า เชียงใหม่ เป็นพื้นที่มีการปลูกฝิ่นมากที่สุดของประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ อ.อมก๋อย จากข้อมูลของสถาบันสำรวจและติดตามการปลูกพืชเสพติด (สพส.) ในปี 2553 มีการปลูกมากกว่า 1,000 ไร่ และประเมินว่าในปี 54 จังหวัดเชียงใหม่ น่าจะมีการลักลอบปลูกใกล้เคียงกับปี 53 เนื่องจากปัจจัยด้านราคา และความต้องการใช้มาก
ด้านการลักลอบนำเข้ายาเสพติด เชียงใหม่มีพื้นที่ติดประเทศเพื่อนบ้าน ประมาณ 227 กม.มีช่องทางนำเข้ามากมาย เอื้อต่อการลักลอบนำเข้ายาเสพติด พื้นที่นำเข้าหลัก คือ อ.แม่อาย ฝาง ไชยปราการ และเชียงดาว พื้นที่นำเข้ารองคือ อ.เวียงแหง คิดเป็นประมาณร้อยละ 40 ของปริมาณการลักลอบนำเข้ายาเสพติดและประเมินว่าในปี 54 สถานการณ์จะยังรุนแรงอย่างต่อเนื่อง
ส่วนด้านการค้ายาเสพติดจากสถิติการจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติด เปรียบเทียบกับคดีอาญาทั่วไป ในปี 51 คิดเป็นร้อยละ 48.25 เพิ่มเป็นร้อยละ 52.14 ในปี 52 และร้อยละ 57.53 ในปี 53 และในปีนี้น่าจะมีแนวโน้มไม่แตกต่างกันนัก
สำหรับปัญหาการแพร่ระบาดยาเสพติดและสถานบริการ นายวิโรจน์ ระบุว่า เชียงใหม่มีอัตราการบำบัดรักษาอยู่ในเกณฑ์สูงทั้งผู้ป่วยรายเก่า และรายใหม่ ซึ่งคิดเป็นประมาณร้อยละ 65 ของทุกระบบ แต่น่ากังวลที่มีแนวโน้มของผู้มีอายุน้อยกว่า 24 ปี และกลุ่มเด็ก-เยาวชน เข้าสู่ระบบการบำบัดสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปี 53 มีถึง 402 ราย จากจำนวนผู้เข้ารับการบำบัดรักษา 4,580 ราย ขณะที่ปี 52 มีเพียง 336 คน จากผู้เข้ารับการบำบัด 4,433 คน
ขณะที่พื้นที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดยาเสพติดของเชียงใหม่ ส่วนใหญ่เป็นที่พักเชิงพาณิชย์ สถานบริการ/สถานบันเทิง ร้านเกม/อินเทอร์เน็ต ซึ่งกระจุกอยู่ในเขตชุมชนเมือง
หัวหน้าศูนย์ต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวอีกว่า สรุปแล้วปีนี้ เชียงใหม่ ยังคงเป็นพื้นที่หลักที่มีการลักลอบนำเข้ายาเสพติดในสัดส่วนไม่น้อยกว่าปี 53 คือ สูงถึงประมาณร้อยละ 40 ของการนำเข้าในพื้นที่ภูมิภาค รวมถึงการปลูกฝิ่นยังคงพบการลักลอบปลูกอยู่ทั่วไป
ทั้งนี้ ด้วยปัญหายาเสพติดที่รุนแรงขึ้นดังกล่าว ศูนย์ปฏิบัติการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดจังหวัดเชียงใหม่ โดยสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดฯ จึงได้จัดทำโครงการนำสื่อมวลชนเชียงใหม่ ศึกษาดูงานการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ณ จุดตรวจผาหงษ์ อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ และด่านถ้ำปลา อ.แม่สาย จ.เชียงราย รวมทั้งศึกษาการปฏิบัติงานรถ X-Ray mobile ณ ด่านศุลกากรแม่สาย ด่านพรมแดนแห่งที่ 2 อ.แม่สาย ที่ใช้ตรวจสอบรถบรรทุกสินค้าผ่านแดนที่อาจมีการลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาในประเทศ ในวันที่ 8 ก.ค.54 ด้วย เพื่อประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารสถานการณ์ยาเสพติดในพื้นที่อำเภอชายเเดนเเก่ประชาชนผ่านสื่อมวลชนที่เดินทางไปศึกษาดูงาน เพิ่มภูมิคุ้มกันด้านการป้องกันยาเสพติดแก่บุตรหลานและชุมชนของตนเองต่อไป
นายวิโรจน์ ดวงสุวรรณ หัวหน้าศูนย์ต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดจังหวัดเชียงใหม่ ได้เปิดเผยถึงสถานการณ์และแนวโน้มปัญหายาเสพติดว่า เชียงใหม่ เป็นพื้นที่มีการปลูกฝิ่นมากที่สุดของประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ อ.อมก๋อย จากข้อมูลของสถาบันสำรวจและติดตามการปลูกพืชเสพติด (สพส.) ในปี 2553 มีการปลูกมากกว่า 1,000 ไร่ และประเมินว่าในปี 54 จังหวัดเชียงใหม่ น่าจะมีการลักลอบปลูกใกล้เคียงกับปี 53 เนื่องจากปัจจัยด้านราคา และความต้องการใช้มาก
ด้านการลักลอบนำเข้ายาเสพติด เชียงใหม่มีพื้นที่ติดประเทศเพื่อนบ้าน ประมาณ 227 กม.มีช่องทางนำเข้ามากมาย เอื้อต่อการลักลอบนำเข้ายาเสพติด พื้นที่นำเข้าหลัก คือ อ.แม่อาย ฝาง ไชยปราการ และเชียงดาว พื้นที่นำเข้ารองคือ อ.เวียงแหง คิดเป็นประมาณร้อยละ 40 ของปริมาณการลักลอบนำเข้ายาเสพติดและประเมินว่าในปี 54 สถานการณ์จะยังรุนแรงอย่างต่อเนื่อง
ส่วนด้านการค้ายาเสพติดจากสถิติการจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติด เปรียบเทียบกับคดีอาญาทั่วไป ในปี 51 คิดเป็นร้อยละ 48.25 เพิ่มเป็นร้อยละ 52.14 ในปี 52 และร้อยละ 57.53 ในปี 53 และในปีนี้น่าจะมีแนวโน้มไม่แตกต่างกันนัก
สำหรับปัญหาการแพร่ระบาดยาเสพติดและสถานบริการ นายวิโรจน์ ระบุว่า เชียงใหม่มีอัตราการบำบัดรักษาอยู่ในเกณฑ์สูงทั้งผู้ป่วยรายเก่า และรายใหม่ ซึ่งคิดเป็นประมาณร้อยละ 65 ของทุกระบบ แต่น่ากังวลที่มีแนวโน้มของผู้มีอายุน้อยกว่า 24 ปี และกลุ่มเด็ก-เยาวชน เข้าสู่ระบบการบำบัดสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปี 53 มีถึง 402 ราย จากจำนวนผู้เข้ารับการบำบัดรักษา 4,580 ราย ขณะที่ปี 52 มีเพียง 336 คน จากผู้เข้ารับการบำบัด 4,433 คน
ขณะที่พื้นที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดยาเสพติดของเชียงใหม่ ส่วนใหญ่เป็นที่พักเชิงพาณิชย์ สถานบริการ/สถานบันเทิง ร้านเกม/อินเทอร์เน็ต ซึ่งกระจุกอยู่ในเขตชุมชนเมือง
หัวหน้าศูนย์ต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวอีกว่า สรุปแล้วปีนี้ เชียงใหม่ ยังคงเป็นพื้นที่หลักที่มีการลักลอบนำเข้ายาเสพติดในสัดส่วนไม่น้อยกว่าปี 53 คือ สูงถึงประมาณร้อยละ 40 ของการนำเข้าในพื้นที่ภูมิภาค รวมถึงการปลูกฝิ่นยังคงพบการลักลอบปลูกอยู่ทั่วไป
ทั้งนี้ ด้วยปัญหายาเสพติดที่รุนแรงขึ้นดังกล่าว ศูนย์ปฏิบัติการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดจังหวัดเชียงใหม่ โดยสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดฯ จึงได้จัดทำโครงการนำสื่อมวลชนเชียงใหม่ ศึกษาดูงานการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ณ จุดตรวจผาหงษ์ อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ และด่านถ้ำปลา อ.แม่สาย จ.เชียงราย รวมทั้งศึกษาการปฏิบัติงานรถ X-Ray mobile ณ ด่านศุลกากรแม่สาย ด่านพรมแดนแห่งที่ 2 อ.แม่สาย ที่ใช้ตรวจสอบรถบรรทุกสินค้าผ่านแดนที่อาจมีการลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาในประเทศ ในวันที่ 8 ก.ค.54 ด้วย เพื่อประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารสถานการณ์ยาเสพติดในพื้นที่อำเภอชายเเดนเเก่ประชาชนผ่านสื่อมวลชนที่เดินทางไปศึกษาดูงาน เพิ่มภูมิคุ้มกันด้านการป้องกันยาเสพติดแก่บุตรหลานและชุมชนของตนเองต่อไป