เชียงราย - สะพัดเฮโรอีนล็อตมหึมาจ่อทะลักข้ามน้ำโขงเข้าไทย หลัง จนท.จับได้ถี่ยิบทั้งยาบ้า-ไอซ์-เฮโรอีน ขณะที่ สปป.ลาว คุมเข้มวางกำลังตลอดแนวตั้งแต่ฝั่งตรงข้ามเชียงแสน ยันริมโขงด้านเวียงแก่น
รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า สถานการณ์การลักลอบนำเข้ายาเสพติดตามแนวชายแดนด้าน จ.เชียงราย ยังคงถูกจับตามองจากหน่วยงานความมั่นคงต่างๆ อย่างเข้มงวด เนื่องจากช่วงนี้มีการจับกุมผู้ต้องหาและสามารถยึดของกลางได้ครั้งละจำนวนมากผิดปกติ โดยวันที่ 11 มิ.ย.54 ตำรวจ สภ.แม่สาย ร่วมกับทหาร ฉก.ม.2 ยึดของกลางเป็นยาบ้าได้จำนวน 2,000,000 เม็ด เฮโรอีนอัดแท่งจำนวน 60 แท่ง น้ำหนักประมาณ 21,600 กรัม หลังมีการนำซุกซ่อนกับรถขนฟักทองมาจาก อ.แม่สาย และถูกเจ้าหน้าที่ตามมาสกัดได้ทันในท้องที่ อ.แม่จัน
ก่อนหน้านั้นวันที่ 6 มิ.ย.54 จับกุมผู้ต้องหาได้ 8 คน พร้อมของกลางยาบ้า 58,000 เม็ด ยาไอซ์ 1,030 กรัม ซุกซ่อนในลำโพงของรถยนต์และไปถูกสกัดจับได้ท้องที่ อ.พาน รวมถึงช่วงต้นเดือนราววันที่ 1 มิ.ย.ทหาร ฉก.ม.2 กองกำลังผาเมือง ได้ยึดยาบ้าที่พยายามขนข้ามลำน้ำสายชายแดนไทย-พม่า มาได้กว่า 900,000 เม็ด ยาไอซ์อีกจำนวน 20 มัดรวมทั้งหมด 25 กิโลกรัม ขณะที่การจับกุมรายย่อยอื่นๆ พบว่ามีจำนวนมากขึ้นตั้งแต่หลายพันเม็ดจนนับหมื่นเม็ด
ล่าสุด มีรายงานจากชายแดนด้านสามเหลี่ยมทองคำ อ.เชียงแสน ว่า ขบวนการค้ายาเสพติดได้ลักลอบขนเฮโรอีนน้ำหนักรวมกันกว่า 800 กิโลกรัม มูลค่านับ 1,000 ล้านบาท ข้ามแม่น้ำโขงจากเมืองพงไปยังฝั่งประเทศเพื่อนบ้านที่อยู่ตรงกันข้าม อ.เชียงแสน แล้ว รวมทั้งยังมีกระแสเรื่องความพยายามลักลอบนำเข้ายาบ้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยมีการซื้อขายกันในหมู่นักค้ายาเสพติดคิดเป็นมัดๆ ละ 85,000 บาท โดยแต่ละมัดมีขนาดเท่ามือกำได้ห่อด้วยพลาสติกและกระดาษสีขาวหรือน้ำตาลอ่อน ภายในมียาบ้าจำนวน 10 ซอง แต่ละซองบรรจุยาบ้าเอาไว้จำนวน 200 เม็ด
ทั้งนี้ หลังจากตรวจสอบการเคลื่อนไหวของกลุ่มขบวนการอย่างต่อเนื่อง นอกจากจะทำให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยทุกฝ่ายเฝ้าระวังโดยเฉพาะกลุ่มขบวนการอาจจะอาศัยช่วงที่มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) วันที่ 3 ก.ค.54 นี้ ในการลักลอบนำเข้า เพราะคิดว่าเจ้าหน้าที่จะต้องจัดกำลังไปดูแลการเลือกตั้งเป็นจำนวนมากแล้ว พบว่าในฝั่ง สปป.ลาว มีการจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยปราบปรามยาเสพติดไปดูแลประจำหลายจุดตลอดแนวริมฝั่งแม่น้ำโขงตั้งแต่ชายแดนเมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว ตรงกันข้าม อ.เชียงแสน ไปจนถึงตรงกันข้าม อ.เวียงแก่น สุดชายแดนที่มีแม่น้ำโขงเป็นเขตกั้นพรมแดน
โดยแต่ละจุดจะมีการวางกำลังอย่างน้อย 5-6 นายเพื่อตรวจดูเรือและรถทุกคันที่แล่นผ่านไปมาและบางครั้งมีการตรวจค้นอย่างละเอียด เช่น บริเวณปากทางเกาะดอนซาว บ้านพงโฮม บ้านห้วยปูนตรงกันข้ามหาดบ้าย น้ำเกิ๋นเก่าโรงเลื่อยน้ำยอน ปากหงาว
ขณะที่บริเวณชายแดนด้านหมู่บ้านแจ่มป๋อง ต.หล่ายงาว อ.เวียงแก่น ซึ่งมีถนนทอดยาวขนานไปกับแม่น้ำโขงในฝั่งไทย ถูกเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายเฝ้าจับตามองเป็นพิเศษเพราะชัยภูมิห่างไกลชุมชนและง่ายต่อการเข้าออกชายแดนและขนส่ง