ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ตำรวจสืบสวนภาค 5 เชิญเจ้าของบริษัท รปภ.มาสอบ หลังสายข่าวรายงานอาจมีเอี่ยวเครือข่ายมือปืน บุกตรวจค้นบ้านในพื้นที่ อ.สันกำแพง พบรถ-ปืน แถมท่าทางน่าสงสัยหลังระบุที่มาไม่ชัดเจน จึงอายัดกลับมาตรวจสอบ ล่าสุดยังไม่ตั้งข้อหาหลังเจ้าตัวแสดงหลักฐานอนุญาตให้ครอบครองปืนได้
วันนี้ (5 ก.ค.) ที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 5 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัวนายสุเมธ ศรุติรัตน์วรกุล อยู่บ้านเลขที่ 134/84 หมู่บ้านจรรยาลักษณ์ ม.4 ต.ต้นเปา อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ เจ้าของบริษัท มารีน เซอร์วิส กรุ๊ป จำกัด มหาให้ปากคำต่อเจ้าหน้าที่ ภายหลังทำการตรวจค้นภายในบ้านพักของนายสุเมธ และค้นพบอาวุธปืน และรถยนต์ที่ต้องสงสัยว่าอาจถูกใช้ในการกระทำผิดกฎหมาย
การเชิญตัว นายสุเมธ มาให้ปากคำในครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เวลาประมาณ 08.30 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าทำการตรวจค้นบ้านพักของ นายสุเมธ ตามหมายศาลจังหวัดเชียงใหม่ ที่ ค.3651/2554 ลงวันที่ 4 ก.ค.2554 ภายหลังได้รับรายงานว่าภายนายสุเมธ อาจมีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มหรือเครือข่ายมือปืนในจังหวัดเชียงใหม่
จากการตรวจสอบภายในบ้านพัก พบรถยนต์ฮอนด้า แอคคอร์ด สีดำ เลขทะเบียน ษฐ-6988 กทม., รถยนต์โตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์เงิน เลขทะเบียน ขข-1023 ชม.ปืนออโตเมติก ขนาด 11 มม. ยี่ห้อโคลท์ สีดำ หมายเลขทะเบียน ชม 4/12551, ปืนออโตเมติก ขนาด .38 ซูเปอร์ ยี่ห้อโคลท์ สีขาว หมายเลขทะเบียน กท.182476, กระสุนขนาด 11 มม. 14 นัด พร้อมซองบรรจุกระสุน 2 ซอง และกระสุนขนาด .38 ซูเปอร์ 7 นัด พร้อมซองบรรจุกระสุน 1 ซอง
จึงได้อายัดสิ่งของทั้งหมดและนำมาตรวจสอบ ที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 5 พร้อมทั้งเชิญตัวนายสุเมธมาให้ปากคำต่อเจ้าหน้าที่ด้วย
พ.ต.อ.วีรชน บุญทวี ผกก.สส.3 บก.สส.ภ.5 เปิดเผยถึงการนำตัวนายสุเมธมาให้ปากคำ พร้อมทั้งการนำสิ่งของที่พบจากที่พักของนายสุเมธมาตรวจสอบว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการตามนโยบายของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ในการติดตามสอดส่องและปราบปรามกลุ่มมือปืนในพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงก่อนและหลังการเลือกตั้ง
กรณีของ นายสุเมธ เจ้าหน้าที่ได้รับรายงานจากสายข่าวว่า นายสุเมธซึ่งประกอบอาชีพเป็นเจ้าของบริษัทรักษาความปลอดภัยและถือเป็นผู้กว้างขวางในพื้นที่ อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับเครือข่ายมือปืนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามอยู่ จึงได้ขอหมายศาลเพื่อเข้าทำการตรวจค้น
จากการเข้าตรวจค้นพบว่า รถทั้งสองคันที่พบ นายสุเมธ ไม่ได้เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์และเป็นผู้ครอบครอง ส่วนอาวุธปืนทั้ง 2 กระบอก นายสุเมธ ไม่สามารถแสดงเอกสสารการครอบครองต่อเจ้าหน้าที่ได้ อีกทั้งปืนขนาด .38 มีร่องรอยการขูดขีดที่หมายเลขทะเบียน จึงได้อายัดสิ่งของทั้งหมดมาตรวจสอบซ้ำ พร้อมทั้งเชิญนายสุเมธมาพูดคุยเพื่อสอบถามรายละเอียด โดยในเบื้องต้นนายสุเมธสามารถนำเอกสารอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนดังกล่าวมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ได้ จึงยังไม่มีการตั้งข้อหากับนายสุเมธแต่อย่างใด