ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ภาคเอกชนเชียงใหม่ให้ความเห็นหลังได้ผลเลือกตั้ง-รัฐบาลใหม่เริ่มฟอร์มทีม ประธานสภาอุตสาหกรรมฯ ชี้ ต้องระวังไม่ให้การเมืองสร้างผลกระทบเกินไป เพราะภาคเศรษฐกิจยืนได้ด้วยตัวเองอยู่แล้ว หวั่นนโยบายเพิ่มค่าแรงเพื่อไทยกระทบผู้ประกอบการขนาดเล็ก-SMEs ด้านนายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวเชื่อโครงการใหญ่จะเข้าเชียงใหม่มากขึ้นหลังเป็นฐานเสียงสำคัญ พร้อมฝากรัฐบาลใหม่เดินหน้ารถไฟความเร็วสูง
นายองอาจ กิตติคุณชัย ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงผลการเลือกตั้งและการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ภายหลังการเลือกตั้ง ว่า เดิมภาคธุรกิจมีความห่วงใยว่าประชาชนบางส่วนจะไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง แต่หลังจากผลการเลือกตั้งออกมาเช่นนี้ ก็เชื่อว่า ทุกฝ่ายน่าจะยอมรับได้
ในส่วนของภาคธุรกิจนั้น แม้ตามปกติจะยืนอยู่ได้ด้วยตนเอง และไม่ได้มองว่าการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองมีผลอะไรมากนัก แต่ต้องยอมรับว่าที่ผ่านมาปัญหาจากภาคการเมืองนั้นส่งผลกระทบต่อส่วนอื่นๆ ในสังคมค่อนข้างมาก จึงจำเป็นที่จะต้องระมัดระวังไม่ให้ภาคการเมืองมีบทบาทต่อภาคส่วนอื่นๆ มากเกินไป เพราะจริงๆ แล้วภาคธุรกิจสามารถยืนอยู่ได้ด้วยตนเอง โดยไม่ได้คาดหวังจากภาครัฐมากนักอยู่แล้ว หากการเมืองจะมีการเปลี่ยนแปลงก็ไม่ได้ส่งผลกระทบมากนัก แต่หากภาคการเมืองไม่มีปัญหาที่ส่งผลกระทบมาถึงส่วนอื่นๆ ในสังคมก็จะช่วยให้ภาคธุรกิจทำงานง่ายขึ้น
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าสนใจก็คือ เมื่อรัฐบาลใหม่ที่กำลังจะเข้ามาบริหารประเทศมีนยาบายที่แตกต่างจากรัฐบาลชุดที่ผ่านมาค่อนข้างมาก อาจส่งผลให้การทำงานร่วมกับภาคธุรกิจและองค์กรต่างๆ มีข้อติดขัดเกิดขึ้นบ้างในระยะแรก และคงจะต้องอาศัยเวลาในการปรับตัวให้เข้ากันทั้งสองฝ่าย
สำหรับในส่วนของสภาอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงใหม่นั้น สิ่งที่ได้ให้ความสนใจเป็นพิเศษ คือนโยบายเรื่องค่าแรง เนื่องจากที่ผ่านมาถือว่าได้มีการปรับค่าแรงขึ้นมามากแล้ว หากพรรคเพื่อไทยจะดำเนินนโยบายเรื่องอัตราค่าแรงตามที่ได้หาเสียงไว้ ในกลุ่มผู้ประกอบการขนาดใหญ่น่าจะยังสามารถรองรับนโยบายดังกล่าวได้ แต่นโยบายดังกล่าวน่าจะส่งผลต่อกลุ่มผู้ประกอบการขนาดเล็กและ SMEs ที่จะได้รับผลกระทบจากการเพิ่มขึ้นของอัตราค่าแรงค่อนข้างมาก อย่างไรก็ตามคงต้องติดตามดูว่ารัฐบาลใหม่จะมีนโยบายหรือมาตรการที่เข้ามาช่วยบรรเทาปัญหาในส่วนนี้อย่างไร
ด้าน นายสราวุฒิ แซ่เตี๋ยว นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงผลการเลือกตั้งของจังหวัดเชียงใหม่ ว่า ถือเป็นการแสดงออกถึงความต้องการของชาวเชียงใหม่วอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตามเชื่อว่ารัฐบาลชุดใหม่จะไม่ได้เน้นหนักการพัฒนามาที่เชียงใหม่เพียงที่เดียวอย่างที่หลายคนคาด เพราะพรรคของมีนโยบายหลายส่วนที่จะต้องดำเนินการเพื่อประโยชน์ของคนทั้งประเทศ แต่การที่เชียงใหม่เป็นฐานเสียงที่สำคัญแห่งหนึ่งก็น่าจะมีส่วนช่วยให้โครงการเมกะโปรเจ็กต์ของภาครัฐซึ่งถูกตัดหรือขาดงบประมาณในหลายปีที่ผ่านมาสามารถดำเนินงานได้ เนื่องจากต้องยอมรับว่าการที่โครงการใหญ่ๆ หลายโครงการไม่ได้ลงมือทำหรือเริ่มต้นล่าช้า ส่งผลให้จังหวัดเชียงใหม่สูญเสียโอกาสทางเศรษฐกิจไปมาก
ส่วนเรื่องที่ภาคธุรกิจโดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวอยากให้รัฐบาลชุดใหม่เร่งดำเนินการ ได้แก่การเดินหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูงและการสนับสนุนด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ โดยเรื่องรถไฟความเร็วสูงนั้นเชื่อว่าเป็นสิ่งที่รัฐบาลใหม่จะดำเนินการอย่างแน่นอน เพราะเป็นหนึ่งในนโยบายที่ได้หาเสียงไว้ ซึ่งหากสามารถผลักดันให้เกิดระบบรถไฟความเร็วสูงมาสู่จังหวัดเชียงใหม่ได้แล้วจะสร้างประโยชน์ให้กับการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่เป็นอย่างมาก
นายองอาจ กิตติคุณชัย ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงผลการเลือกตั้งและการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ภายหลังการเลือกตั้ง ว่า เดิมภาคธุรกิจมีความห่วงใยว่าประชาชนบางส่วนจะไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง แต่หลังจากผลการเลือกตั้งออกมาเช่นนี้ ก็เชื่อว่า ทุกฝ่ายน่าจะยอมรับได้
ในส่วนของภาคธุรกิจนั้น แม้ตามปกติจะยืนอยู่ได้ด้วยตนเอง และไม่ได้มองว่าการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองมีผลอะไรมากนัก แต่ต้องยอมรับว่าที่ผ่านมาปัญหาจากภาคการเมืองนั้นส่งผลกระทบต่อส่วนอื่นๆ ในสังคมค่อนข้างมาก จึงจำเป็นที่จะต้องระมัดระวังไม่ให้ภาคการเมืองมีบทบาทต่อภาคส่วนอื่นๆ มากเกินไป เพราะจริงๆ แล้วภาคธุรกิจสามารถยืนอยู่ได้ด้วยตนเอง โดยไม่ได้คาดหวังจากภาครัฐมากนักอยู่แล้ว หากการเมืองจะมีการเปลี่ยนแปลงก็ไม่ได้ส่งผลกระทบมากนัก แต่หากภาคการเมืองไม่มีปัญหาที่ส่งผลกระทบมาถึงส่วนอื่นๆ ในสังคมก็จะช่วยให้ภาคธุรกิจทำงานง่ายขึ้น
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าสนใจก็คือ เมื่อรัฐบาลใหม่ที่กำลังจะเข้ามาบริหารประเทศมีนยาบายที่แตกต่างจากรัฐบาลชุดที่ผ่านมาค่อนข้างมาก อาจส่งผลให้การทำงานร่วมกับภาคธุรกิจและองค์กรต่างๆ มีข้อติดขัดเกิดขึ้นบ้างในระยะแรก และคงจะต้องอาศัยเวลาในการปรับตัวให้เข้ากันทั้งสองฝ่าย
สำหรับในส่วนของสภาอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงใหม่นั้น สิ่งที่ได้ให้ความสนใจเป็นพิเศษ คือนโยบายเรื่องค่าแรง เนื่องจากที่ผ่านมาถือว่าได้มีการปรับค่าแรงขึ้นมามากแล้ว หากพรรคเพื่อไทยจะดำเนินนโยบายเรื่องอัตราค่าแรงตามที่ได้หาเสียงไว้ ในกลุ่มผู้ประกอบการขนาดใหญ่น่าจะยังสามารถรองรับนโยบายดังกล่าวได้ แต่นโยบายดังกล่าวน่าจะส่งผลต่อกลุ่มผู้ประกอบการขนาดเล็กและ SMEs ที่จะได้รับผลกระทบจากการเพิ่มขึ้นของอัตราค่าแรงค่อนข้างมาก อย่างไรก็ตามคงต้องติดตามดูว่ารัฐบาลใหม่จะมีนโยบายหรือมาตรการที่เข้ามาช่วยบรรเทาปัญหาในส่วนนี้อย่างไร
ด้าน นายสราวุฒิ แซ่เตี๋ยว นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงผลการเลือกตั้งของจังหวัดเชียงใหม่ ว่า ถือเป็นการแสดงออกถึงความต้องการของชาวเชียงใหม่วอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตามเชื่อว่ารัฐบาลชุดใหม่จะไม่ได้เน้นหนักการพัฒนามาที่เชียงใหม่เพียงที่เดียวอย่างที่หลายคนคาด เพราะพรรคของมีนโยบายหลายส่วนที่จะต้องดำเนินการเพื่อประโยชน์ของคนทั้งประเทศ แต่การที่เชียงใหม่เป็นฐานเสียงที่สำคัญแห่งหนึ่งก็น่าจะมีส่วนช่วยให้โครงการเมกะโปรเจ็กต์ของภาครัฐซึ่งถูกตัดหรือขาดงบประมาณในหลายปีที่ผ่านมาสามารถดำเนินงานได้ เนื่องจากต้องยอมรับว่าการที่โครงการใหญ่ๆ หลายโครงการไม่ได้ลงมือทำหรือเริ่มต้นล่าช้า ส่งผลให้จังหวัดเชียงใหม่สูญเสียโอกาสทางเศรษฐกิจไปมาก
ส่วนเรื่องที่ภาคธุรกิจโดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวอยากให้รัฐบาลชุดใหม่เร่งดำเนินการ ได้แก่การเดินหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูงและการสนับสนุนด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ โดยเรื่องรถไฟความเร็วสูงนั้นเชื่อว่าเป็นสิ่งที่รัฐบาลใหม่จะดำเนินการอย่างแน่นอน เพราะเป็นหนึ่งในนโยบายที่ได้หาเสียงไว้ ซึ่งหากสามารถผลักดันให้เกิดระบบรถไฟความเร็วสูงมาสู่จังหวัดเชียงใหม่ได้แล้วจะสร้างประโยชน์ให้กับการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่เป็นอย่างมาก
