พะเยา - คนใช้สิทธิโวย สิทธิเลือกตั้งหายไปอยู่ต่างจังหวัด ทั้งที่เลือกตั้งก่อนหน้านี้ก็เคยเดินเข้าคูหากาบัตรในพื้นที่พะเยามาแล้ว ทหารพรานงง! สิทธิค้างนอกพื้นที่ เผย ชาวบ้านหลายหน่วยชี้ กกต.ทำยุ่งยาก และอ่อน ปชส.
วันนี้ (3 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้ง ส.ส.ของจังหวัดพะเยา ตั้งแต่เวลา 08.00 น.เป็นต้นมา พบว่า ในหลายหน่วยเลือกตั้งได้มีประชาชนตื่นตัวไปใช้สิทธิกันอย่างคึกคักท่ามกลางอากาศมืดครึ้ม และมีฝนตกโปรยปราย และนอกจากนี้ พบว่า มีหน่วยเลือกตั้งที่ประชาชนมาใช้สิทธิเลือกตั้ง แต่พบว่าสิทธิของตัวเองไม่มี เพราะถูกให้ไปใช้สิทธิต่างจังหวัด
ณ หน่วยเลือกตั้งหมู่ที่ 2 ต.สบบง อ.ภูซาง จ.พะเยา นายณัฐวุฒิ บุญชัย ข้าราชการครู บ้านเลขที่ 150 หมู่ 2 ต.สบบง อ.ภูซาง จ.พะเยา ได้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง แต่พบว่าตัวเองถูกระบุให้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งที่เชียงราย
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ตนย้ายทะเบียนบ้านมาอยู่ใน ต.สบบง ได้ไม่ต่ำกว่า 5 ปี แล้ว ล่าสุด ก็ยังใช้สิทธิเลือกตั้งท้องถิ่นเมื่อ 2 ปี ที่ผ่านมา และไม่เคยใช้สิทธิเลือกตั้ง ส.ส.นอกพื้นที่เลย มาครั้งนี้ปรากฏว่าสิทธิเลือก ส.ส.ไปอยู่ที่จังหวัดเชียงราย ทำให้ตนเสียโอกาสอย่างมาก ซึ่งไม่เข้าใจว่าความผิดพลาดนี้เกิดขึ้นอย่างไร
ด้าน นายสังวาลย์ วอนอก อายุ 43 ปี บ้านเลขที่ 325 หมู่ 2 ต.สบบง อ.ภูซาง จ.พะเยา กล่าวว่า ตนเป็นอีกรายหนึ่งที่ไม่สามารถใช้สิทธิได้เพราะว่าสิทธิไปอยู่ที่กรุงเทพ ฯ ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยย้ายทะเบียนบ้านไปกรุงเทพฯ หรือใช้สิทธิเลือกตั้งนอกพื้นที่เลย ตั้งใจมาแต่เช้ากลับไม่สามารถใช้สิทธิได้ ไม่รู้ความผิดพลาดเกิดขึ้นจากใคร แต่ตนไม่ทราบว่าจะต้องแจ้งสิทธิในหรือนอกพื้นที่หรือยืนยันการใช้สิทธิแบบใด เพราะไม่ทราบข้อมูลจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เลยว่าจะต้องทำอย่างไรบ้าง
ขณะเดียวกัน นายทหารพรานรายหนึ่ง เคยใช้สิทธิเลือกตั้ง ส.ส.ล่วงครั้งสุดท้ายเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมาในพื้นที่ จ.พะเยา แต่มาครั้งนี้ไม่สามารถใช้สิทธิได้ เพราะสิทธิอยู่ที่ จ.เชียงราย จึงเกิดอาการมึนงงอย่างมาก และเดินออกไปจากหน่วยเลือกตั้งอย่างไม่เข้าใจกับการใช้สิทธิในครั้งนี้
นางสุภัคสร วรรณปลูก ประธานคณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง(กปน.) หมู่ที่ 2 ต.สบบง อ.ภูซาง จ.พะเยา กล่าวว่า ปัญหาประชาชนมาใช้สิทธิแล้วไม่สามารถใช้ได้ เพราะสิทธิอยู่ต่างพื้นที่ เกิดขึ้นกับประชาชน และข้าราชการที่มาใช้สิทธิกันอย่างมาก บางคนมารอตั้งแต่ก่อนเปิดหีบบัตรเลือกตั้ง แต่เมื่อถึงคิวกลับใช้สิทธิไม่ได้
ต้นเหตุของปัญหา คือ 1.กกต.มีขั้นตอนการแจ้งใช้สิทธิในและนอกพื้นที่ยุ่งยากกว่าที่ผ่านมามากขึ้น ทำให้ประชาชนสับสน 2.การประชาสัมพันธ์เรื่องการแจ้งใช้สิทธิทั้งใน และนอกพื้นที่ของประชาชน จาก กกต.น้อยเกินไป และ 3. ความประมาทในการทำข้อมูลของเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบเรื่องทะเบียนของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
วันนี้ (3 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้ง ส.ส.ของจังหวัดพะเยา ตั้งแต่เวลา 08.00 น.เป็นต้นมา พบว่า ในหลายหน่วยเลือกตั้งได้มีประชาชนตื่นตัวไปใช้สิทธิกันอย่างคึกคักท่ามกลางอากาศมืดครึ้ม และมีฝนตกโปรยปราย และนอกจากนี้ พบว่า มีหน่วยเลือกตั้งที่ประชาชนมาใช้สิทธิเลือกตั้ง แต่พบว่าสิทธิของตัวเองไม่มี เพราะถูกให้ไปใช้สิทธิต่างจังหวัด
ณ หน่วยเลือกตั้งหมู่ที่ 2 ต.สบบง อ.ภูซาง จ.พะเยา นายณัฐวุฒิ บุญชัย ข้าราชการครู บ้านเลขที่ 150 หมู่ 2 ต.สบบง อ.ภูซาง จ.พะเยา ได้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง แต่พบว่าตัวเองถูกระบุให้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งที่เชียงราย
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ตนย้ายทะเบียนบ้านมาอยู่ใน ต.สบบง ได้ไม่ต่ำกว่า 5 ปี แล้ว ล่าสุด ก็ยังใช้สิทธิเลือกตั้งท้องถิ่นเมื่อ 2 ปี ที่ผ่านมา และไม่เคยใช้สิทธิเลือกตั้ง ส.ส.นอกพื้นที่เลย มาครั้งนี้ปรากฏว่าสิทธิเลือก ส.ส.ไปอยู่ที่จังหวัดเชียงราย ทำให้ตนเสียโอกาสอย่างมาก ซึ่งไม่เข้าใจว่าความผิดพลาดนี้เกิดขึ้นอย่างไร
ด้าน นายสังวาลย์ วอนอก อายุ 43 ปี บ้านเลขที่ 325 หมู่ 2 ต.สบบง อ.ภูซาง จ.พะเยา กล่าวว่า ตนเป็นอีกรายหนึ่งที่ไม่สามารถใช้สิทธิได้เพราะว่าสิทธิไปอยู่ที่กรุงเทพ ฯ ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยย้ายทะเบียนบ้านไปกรุงเทพฯ หรือใช้สิทธิเลือกตั้งนอกพื้นที่เลย ตั้งใจมาแต่เช้ากลับไม่สามารถใช้สิทธิได้ ไม่รู้ความผิดพลาดเกิดขึ้นจากใคร แต่ตนไม่ทราบว่าจะต้องแจ้งสิทธิในหรือนอกพื้นที่หรือยืนยันการใช้สิทธิแบบใด เพราะไม่ทราบข้อมูลจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เลยว่าจะต้องทำอย่างไรบ้าง
ขณะเดียวกัน นายทหารพรานรายหนึ่ง เคยใช้สิทธิเลือกตั้ง ส.ส.ล่วงครั้งสุดท้ายเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมาในพื้นที่ จ.พะเยา แต่มาครั้งนี้ไม่สามารถใช้สิทธิได้ เพราะสิทธิอยู่ที่ จ.เชียงราย จึงเกิดอาการมึนงงอย่างมาก และเดินออกไปจากหน่วยเลือกตั้งอย่างไม่เข้าใจกับการใช้สิทธิในครั้งนี้
นางสุภัคสร วรรณปลูก ประธานคณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง(กปน.) หมู่ที่ 2 ต.สบบง อ.ภูซาง จ.พะเยา กล่าวว่า ปัญหาประชาชนมาใช้สิทธิแล้วไม่สามารถใช้ได้ เพราะสิทธิอยู่ต่างพื้นที่ เกิดขึ้นกับประชาชน และข้าราชการที่มาใช้สิทธิกันอย่างมาก บางคนมารอตั้งแต่ก่อนเปิดหีบบัตรเลือกตั้ง แต่เมื่อถึงคิวกลับใช้สิทธิไม่ได้
ต้นเหตุของปัญหา คือ 1.กกต.มีขั้นตอนการแจ้งใช้สิทธิในและนอกพื้นที่ยุ่งยากกว่าที่ผ่านมามากขึ้น ทำให้ประชาชนสับสน 2.การประชาสัมพันธ์เรื่องการแจ้งใช้สิทธิทั้งใน และนอกพื้นที่ของประชาชน จาก กกต.น้อยเกินไป และ 3. ความประมาทในการทำข้อมูลของเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบเรื่องทะเบียนของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง