ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ฉาว! ตร.ชุดเฉพาะกิจป้องกันปราบปรามการทุจริตการเลือกตั้งโคราชบุกบ้านรวบหัวคะแนนผู้สมัคร ส.ส.เขต 9 โคราช ได้เจ้าของบ้านพร้อมหลักฐานโพยรายชื่อและรายการจ่ายค่าน้ำมันรถเดินทางฟังปราศรัย เผยเรียกสอบชาวบ้านในโพยรายชื่อ 4 รายสารภาพรับเงินมาจริงแต่นำไปใช้หมดแล้ว ด้านผอ.กกต.โคราชระบุรับเรื่องไว้แล้ว เตรียมส่งให้ กกต.กลางพิจารณาเชือดต่อไป
วันนี้ (28 มิ.ย.) ที่ สภ.ห้วยแถลง อ.ห้วยแถลง จ.นครราชสีมา พ.ต.อ.วชิรวิชญ์ กฤษณ์ฤทธิศักย์รอง ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา เดินทางไปตรวจสอบการดำเนินการสอบสวนผู้กระทำกฎหมายเลือกตั้งเพิ่มเติม หลังชุดเฉพาะกิจป้องกันและปราบปรามการทุจริตเลือกตั้ง ตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา ได้ทำการจับกุมนางสัมฤทธิ์ (นามสมมติ) ชาวบ้านหมู่ 6 ต.งิ้วอ.ห้วยแถลง จ.นครราชสีมา พร้อมหลักฐานเป็นแผ่นกระดาษระบุรายชื่อชาวบ้านรวม 13 คนพร้อมตัวเลขเงินคนละ 100 บาท และระบุค่าน้ำมัน 200 บาทเชื่อว่าเป็นโพยรายชื่อชาวบ้านที่ไปรับฟังการปราศรัยหาเสียงของผู้สมัครส.ส.รายหนึ่งในพื้นที่เขตเลือกตั้งที่ 9 จ.นครราชสีมา ก่อนควบคุมตัวมาสอบสวนและบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.ห้วยแถลง
ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมาเบื้องต้นได้สอบปากคำชาวบ้านที่มีรายชื่ออยู่ในโพยดังกล่าวแล้ว 3 คน ทุกคนรับสารภาพว่าได้รับเงินคนละ 100 บาท จากนางสัมฤทธิ์ เป็นค่าจ้างให้ไปฟังการปราศรัยหาเสียงของ นายพลพีร์ สุวรรณฉวี ผู้สมัครส.ส. เขต 9 พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน (ชพน.) ที่เปิดเวทีปราศรัยที่วัดบ้านหนองม่วงหวาน ต.งิ้ว อ.ห้วยแถลง เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.แต่เงินจำนวนดังกล่าวได้นำไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวันจนหมดแล้วโดยตำรวจได้บันทึกวิดีโอการสอบปากคำไว้เป็นหลักฐานด้วย
ล่าสุดพนักงานสอบสวน สภ.ห้วยแถลง ได้ติดตามชาวบ้านที่ปรากฏชื่อในกระดาษมาสอบสวนเพิ่มเติมอีก 9 คน แต่ปรากฏว่าทุกคนไม่มาให้ปากคำตามนัด จึงส่งเอกสารเบื้องต้นให้กกต.นครราชสีมา รับทราบ
พ.ต.ท.สันติสุข สุวรรณรัตน์ พนักงานสอบสวน สภ.ห้วยแถลง เจ้าของคดี เปิดเผยว่า เรื่องนี้ทางตำรวจชุดเฉพาะกิจเลือกตั้งของภูธร จังหวัดนครราชสีมาบุกตรวจค้นบ้านเป้าหมายที่มีพฤติกรรมส่อว่าจะทุจริตการเลือกตั้ง ก่อนค้นเจอหลักฐานดังกล่าว จากนั้นได้นำมาบันทึกประจำวันที่ สภ.ห้วยแถลงแล้วทำการสอบสวนผู้กระทำผิด เบื้องต้นสอบสวนไปแล้ว 4 ราย ยังเหลืออีก 9 ราย ซึ่งนัดมาสอบปากคำในวันนี้ แต่ทุกคนอ้างว่าต้องไปทำไร่ทำนาจึงไม่มาตามนัด ส่วนการสอบในเบื้องต้นได้ส่งบันทึกปากคำเป็นลายลักษณ์อักษรไปให้ กกต.จังหวัดแล้ว ตอนนี้ถือว่าตำรวจได้รับเรื่องนี้เป็นคดีอาญาแล้วและทำตามอำนาจหน้าที่ของตำรวจเท่านั้น
ด้าน พ.ต.ท.แดนไพร แก้วเวหล หัวหน้าชุดเฉพาะกิจป้องกันและปราบปรามการทุจริตเลือกตั้งภูธร จ.นครราชสีมา กล่าวว่า เมื่อวันที่ 26มิ.ย.ที่ผ่านมาซึ่งเป็นวันเลือกตั้งล่วงหน้า ได้นำกำลังตำรวจ 10 นาย ลงพื้นที่ตรวจสอบการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งโดยได้บุกตรวจค้นที่บ้านเลขที่ 54 หมู่ 6 บ้านนาตะคุ ต.งิ้ว อ.ห้วยแถลง พบชาวบ้านรวมกลุ่มกันอยู่ประมาณ 30 คน มีพฤติกรรม ที่เรียกกันว่าประชุมระดับแกนนำ มีนักการเมืองท้องถิ่นในพื้นที่ซึ่งเป็นหัวคะแนนของผู้สมัครส.ส.รายหนึ่งรวมอยู่ด้วย
เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่ละคนต่างวิ่งหนีแตกกระเจิงไปคนละทิศละทางเหลือเพียงหลักฐานเป็นกระดาษโพยรายชื่อชาวบ้าน 1 แผ่น ระบุชื่อชาวบ้านรวม13 คน ตัวเลขจ่ายเงินคนละ 100 บาท และจ่าหัวว่าค่าน้ำมัน 200 บาท จึงเรียก นางสัมฤทธิ์ เจ้าของบ้านพร้อมกับชาวบ้านที่มีชื่อในแผ่นกระดาษอีก3 คน มาสอบสวน ทุกคนรับสารภาพว่าเป็นค่าจ้างไปฟังการปราศรัยของผู้สมัคร ส.ส. ของพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดินซึ่งในขั้นตอนการสอบสวนได้มีการบันทึกภาพวิดีโอไว้เป็นหลักฐานอย่างหนาแน่นพร้อมกับส่งเป็นหนังสือประสานงานให้ กกต.นครราชสีมา
ด้าน พ.อ.สันธิรัตน์ มหัทธนชาติ ผอ.กต.นครราชสีมา กล่าวว่า เรื่องนี้กกต.นครราชสีมา ได้รับหนังสือแจ้งจากทางตำรวจแล้ว เมื่อช่วงเช้าวันนี้ซึ่งตนได้เซ็นรับเรื่องไว้ จากนั้นได้ส่งให้กกต.ฝ่ายสืบสวนสอบสวนรับไปดำเนินการตามขั้นตอนโดยอำนาจหน้าที่แล้ว กกต.จะพิจารณาการกระทำผิดในแต่ละเรื่องแต่ละกรณีเพื่อนำไปสู่การแจกใบเหลือง-ใบแดง
ส่วนกรณีของการจับกุมชาวบ้านที่รับเงินไปฟังการปราศรัยของผู้สมัครส.ส.ในเขต 9 ยังต้องรอคำสั่งจาก กกต.กลางที่จะต้องพิจารณาว่าคดีนี้มีมูลเพียงพอหรือไม่ ก่อนสั่งการให้กกต.จังหวัดดำเนินการสืบสวนสอบสวนเพิ่มเติม รวมทั้งต้องมีชาวบ้านผู้มีสิทธิเลือกตั้ง หรือหัวคะแนน หรือผู้สมัคร ส.ส.ฝ่ายที่ได้รับความเสียหายจากการกระทำดังกล่าว เข้ามาร้องเรียนต่อทางกกต.อีกครั้งเพื่อเปิดคดีก่อนจะทำสำนวนสอบสวนให้ครบถ้วนส่งให้กกต.กลางพิจารณาความผิดซึ่งเป็นคนละส่วนกันกับการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
วันนี้ (28 มิ.ย.) ที่ สภ.ห้วยแถลง อ.ห้วยแถลง จ.นครราชสีมา พ.ต.อ.วชิรวิชญ์ กฤษณ์ฤทธิศักย์รอง ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา เดินทางไปตรวจสอบการดำเนินการสอบสวนผู้กระทำกฎหมายเลือกตั้งเพิ่มเติม หลังชุดเฉพาะกิจป้องกันและปราบปรามการทุจริตเลือกตั้ง ตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา ได้ทำการจับกุมนางสัมฤทธิ์ (นามสมมติ) ชาวบ้านหมู่ 6 ต.งิ้วอ.ห้วยแถลง จ.นครราชสีมา พร้อมหลักฐานเป็นแผ่นกระดาษระบุรายชื่อชาวบ้านรวม 13 คนพร้อมตัวเลขเงินคนละ 100 บาท และระบุค่าน้ำมัน 200 บาทเชื่อว่าเป็นโพยรายชื่อชาวบ้านที่ไปรับฟังการปราศรัยหาเสียงของผู้สมัครส.ส.รายหนึ่งในพื้นที่เขตเลือกตั้งที่ 9 จ.นครราชสีมา ก่อนควบคุมตัวมาสอบสวนและบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.ห้วยแถลง
ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมาเบื้องต้นได้สอบปากคำชาวบ้านที่มีรายชื่ออยู่ในโพยดังกล่าวแล้ว 3 คน ทุกคนรับสารภาพว่าได้รับเงินคนละ 100 บาท จากนางสัมฤทธิ์ เป็นค่าจ้างให้ไปฟังการปราศรัยหาเสียงของ นายพลพีร์ สุวรรณฉวี ผู้สมัครส.ส. เขต 9 พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน (ชพน.) ที่เปิดเวทีปราศรัยที่วัดบ้านหนองม่วงหวาน ต.งิ้ว อ.ห้วยแถลง เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.แต่เงินจำนวนดังกล่าวได้นำไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวันจนหมดแล้วโดยตำรวจได้บันทึกวิดีโอการสอบปากคำไว้เป็นหลักฐานด้วย
ล่าสุดพนักงานสอบสวน สภ.ห้วยแถลง ได้ติดตามชาวบ้านที่ปรากฏชื่อในกระดาษมาสอบสวนเพิ่มเติมอีก 9 คน แต่ปรากฏว่าทุกคนไม่มาให้ปากคำตามนัด จึงส่งเอกสารเบื้องต้นให้กกต.นครราชสีมา รับทราบ
พ.ต.ท.สันติสุข สุวรรณรัตน์ พนักงานสอบสวน สภ.ห้วยแถลง เจ้าของคดี เปิดเผยว่า เรื่องนี้ทางตำรวจชุดเฉพาะกิจเลือกตั้งของภูธร จังหวัดนครราชสีมาบุกตรวจค้นบ้านเป้าหมายที่มีพฤติกรรมส่อว่าจะทุจริตการเลือกตั้ง ก่อนค้นเจอหลักฐานดังกล่าว จากนั้นได้นำมาบันทึกประจำวันที่ สภ.ห้วยแถลงแล้วทำการสอบสวนผู้กระทำผิด เบื้องต้นสอบสวนไปแล้ว 4 ราย ยังเหลืออีก 9 ราย ซึ่งนัดมาสอบปากคำในวันนี้ แต่ทุกคนอ้างว่าต้องไปทำไร่ทำนาจึงไม่มาตามนัด ส่วนการสอบในเบื้องต้นได้ส่งบันทึกปากคำเป็นลายลักษณ์อักษรไปให้ กกต.จังหวัดแล้ว ตอนนี้ถือว่าตำรวจได้รับเรื่องนี้เป็นคดีอาญาแล้วและทำตามอำนาจหน้าที่ของตำรวจเท่านั้น
ด้าน พ.ต.ท.แดนไพร แก้วเวหล หัวหน้าชุดเฉพาะกิจป้องกันและปราบปรามการทุจริตเลือกตั้งภูธร จ.นครราชสีมา กล่าวว่า เมื่อวันที่ 26มิ.ย.ที่ผ่านมาซึ่งเป็นวันเลือกตั้งล่วงหน้า ได้นำกำลังตำรวจ 10 นาย ลงพื้นที่ตรวจสอบการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งโดยได้บุกตรวจค้นที่บ้านเลขที่ 54 หมู่ 6 บ้านนาตะคุ ต.งิ้ว อ.ห้วยแถลง พบชาวบ้านรวมกลุ่มกันอยู่ประมาณ 30 คน มีพฤติกรรม ที่เรียกกันว่าประชุมระดับแกนนำ มีนักการเมืองท้องถิ่นในพื้นที่ซึ่งเป็นหัวคะแนนของผู้สมัครส.ส.รายหนึ่งรวมอยู่ด้วย
เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่ละคนต่างวิ่งหนีแตกกระเจิงไปคนละทิศละทางเหลือเพียงหลักฐานเป็นกระดาษโพยรายชื่อชาวบ้าน 1 แผ่น ระบุชื่อชาวบ้านรวม13 คน ตัวเลขจ่ายเงินคนละ 100 บาท และจ่าหัวว่าค่าน้ำมัน 200 บาท จึงเรียก นางสัมฤทธิ์ เจ้าของบ้านพร้อมกับชาวบ้านที่มีชื่อในแผ่นกระดาษอีก3 คน มาสอบสวน ทุกคนรับสารภาพว่าเป็นค่าจ้างไปฟังการปราศรัยของผู้สมัคร ส.ส. ของพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดินซึ่งในขั้นตอนการสอบสวนได้มีการบันทึกภาพวิดีโอไว้เป็นหลักฐานอย่างหนาแน่นพร้อมกับส่งเป็นหนังสือประสานงานให้ กกต.นครราชสีมา
ด้าน พ.อ.สันธิรัตน์ มหัทธนชาติ ผอ.กต.นครราชสีมา กล่าวว่า เรื่องนี้กกต.นครราชสีมา ได้รับหนังสือแจ้งจากทางตำรวจแล้ว เมื่อช่วงเช้าวันนี้ซึ่งตนได้เซ็นรับเรื่องไว้ จากนั้นได้ส่งให้กกต.ฝ่ายสืบสวนสอบสวนรับไปดำเนินการตามขั้นตอนโดยอำนาจหน้าที่แล้ว กกต.จะพิจารณาการกระทำผิดในแต่ละเรื่องแต่ละกรณีเพื่อนำไปสู่การแจกใบเหลือง-ใบแดง
ส่วนกรณีของการจับกุมชาวบ้านที่รับเงินไปฟังการปราศรัยของผู้สมัครส.ส.ในเขต 9 ยังต้องรอคำสั่งจาก กกต.กลางที่จะต้องพิจารณาว่าคดีนี้มีมูลเพียงพอหรือไม่ ก่อนสั่งการให้กกต.จังหวัดดำเนินการสืบสวนสอบสวนเพิ่มเติม รวมทั้งต้องมีชาวบ้านผู้มีสิทธิเลือกตั้ง หรือหัวคะแนน หรือผู้สมัคร ส.ส.ฝ่ายที่ได้รับความเสียหายจากการกระทำดังกล่าว เข้ามาร้องเรียนต่อทางกกต.อีกครั้งเพื่อเปิดคดีก่อนจะทำสำนวนสอบสวนให้ครบถ้วนส่งให้กกต.กลางพิจารณาความผิดซึ่งเป็นคนละส่วนกันกับการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ตำรวจ