xs
xsm
sm
md
lg

คุณป้าวัย 50 ปี โวย กกต.มั่วพบชื่อถูกไปใช้สิทธิล่วงหน้าสิงคโปร์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นางปราณี  เจียรสุคนธ์  อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 88/8 หมู่ 3 บ.ภูเขาทอง ต.หนองญาติ องเมือง จ.นครพนม  ร้องขอทวงสิทธิเลือกตั้งคืนหลังจากมีชื่อปรากฏแจ้งใช้สิทธิล่วงหน้าที่ประเทศสิงคโปร์
นครพนม - คุณป้าวัย 50 ปีโวยหลัง กตต.นครพนมแจ้งชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง พบไปใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าสิงคโปร์ ขณะเจ้าตัวไม่รู้เรื่องแจ้ง กกต.-ตำรวจกลับปัดความรับผิดชอบ เชื่อเป็นขบวนการโกงเลือกตั้ง ร้องผ่านสื่อเรียกร้องทวงสิทธิคืน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางปราณี เจียรสุคนธ์ อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 88/8 หมู่ 3 บ.ภูเขาทอง ต.หนองญาติ องเมือง จ.นครพนม ได้นำเอกสารเข้าร้องเรียนทวงสิทธิการเลือกตั้งผ่านสื่อ มวลชน กรณี กกต.จังหวัดนครพนม มีเอกสารแจ้งให้ไปตรวจสอบรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ในเขตเลือกตั้งที่ 1

แต่พบว่า รายชื่อของตน ตามบัตรประจำตัวประชาชนเลขที่ 348-0100-080-279 ลำดับเลือกตั้งที่ 173 ระบุว่าไปใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าที่ต่างประเทศ คือ ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งได้มีการยื่นคำร้องขอใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2554 ทั้งที่เจ้าตัวไม่ทราบเรื่องมาก่อน และยืนยันว่าไม่เคยไปแจ้งลงเลือกตั้งล่วงหน้า

หลังทราบเรื่องได้ไปแจ้ง กกต.จังหวัด และแจ้งความลงบันทึกประจำวันที่ สภ.เมืองนครพนม แต่เบื้องต้นทาง กกต.แจ้งว่าไม่สามารถจะแก้ไขได้ จึงร้องทุกข์ผ่านสื่อ เรียกร้องทวงสิทธิ์คืน เชื่อว่าเป็นฝีมือขบวนการโกงการเลือกตั้ง

นางปราณี เจียรสุคนธ์ อายุ 50 ปี เล่าว่า เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2554 ที่ผ่านมา ตนได้รับเอกสารจาก กกต.จังหวัดนครพนม ที่แจ้งรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งที่ 1 จ.นครพนม แต่พบรายชื่อตัวเองระบุว่า มีการแจ้งใช้สิทธิล่วงหน้าที่ต่างประเทศ ทั้งที่คนในครอบครัว คือ สามีกับลูก กลับมีชื่อและมีสิทธิตามปกติที่เคยมีการเลือกตั้งมาหลายครั้ง

จึงไปตรวจสอบที่ กกต.นครพนม พบว่ามีข้อมูลไปใช้สิทธิ์ล่วงหน้าจริง ยิ่งงงไปใหญ่ เพราะในชีวิตเกิดมาไม่เคยไปทำงาน หรือเดินทางไปต่างประเทศเลย แต่พอสอบถาม กกต.นครพนม ว่าจะแก้ไขอย่างไร กับได้รับการปฏิเสธว่าไม่สามารถแก้ไขได้ ต้องรอตรวจสอบการใช้สิทธิครั้งต่อไป ก่อนไปแจ้งความที่ สภ.เมืองนครพนม เพราะเกรงว่าจะเกิดปัญหาภายหลัง

ที่สำคัญเรื่องนี้ทาง กกต.ต้องมีการแก้ไข และตรวจสอบถึงความผิดพลาด ไม่ใช่ปล่อยไปตามเรื่อง แล้วหากเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายตนจะไม่ติดคุกหรือ หากผิดพลาดจริงถือว่ามั่วมาก

แต่สำหรับความคิดของตนเชื่อว่าเป็นขบวนการโกงการเลือกตั้งอีกรูปแบบหนึ่ง จึงร้องเรียนผ่านสื่อ เพื่อให้ กกต.ดำเนินการแก้ไข เพราะตนเสียสิทธิ์ ต้องการทวงสิทธิ์คืน และทราบว่ามีปัญหาแบบนี้อีกหลายคน จึงอยากให้ผู้ที่เสียสิทธิ์ออกมาให้ข้อมูล กกต. แก้ไขเร่งด่วน

เบื้องต้นสอบถามไปยัง กกต.จังหวัดนครพนม ทราบว่า สำหรับปัญหาดังกล่าวพึ่งได้รับการร้องเรียน ส่วนขั้นตอนต้องให้เจ้าตัวไปแจ้งความที่ สภ.เมืองนครพนม เพื่อเป็นหลักฐาน ส่วนทาง กกต.จะต้องตรวจสอบถึงสาเหตุที่มาอีกครั้งหนึ่ง แต่ในการใช้สิทธิ์ครั้งนี้คงยังไม่ทัน เพราะต้องตรวจสอบขอถอนชื่อ ส่วนความผิดพลาดนั้นยังไม่ทราบสาเหตุ
กำลังโหลดความคิดเห็น