ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมคุมเข้มการลักลอบผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เหล็กไม่ได้มาตรฐาน ทั้งใช้วัตถุดิบมีคุณภาพต่ำ และน้ำหนักไม่ตรงตามระบุ ขณะที่ในรอบปีนี้มีการจับกุมผู้กระทำผิดรวม 15 ราย การคิดเป็นน้ำหนักประมาณ 4,820 ตัน มูลค่าประมาณ 134 ล้านบาทโดยใน จ.สงขลา นั้นมีร้านค้าเข้าร่วมโครงการร้านได้มาตรฐานแล้ว 18 แห่ง
ภายหลังจากที่กระทรวงอุตสาหกรรมโดยคณะกรรมการมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม มีมติให้ผลิตภัณฑ์เหล็กเส้นต้องเป็นไปตามมาตรฐานของสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ประกอบด้วย เหล็กเส้นเสริมคอนกรีต ชนิดเหล็กเส้นกลม-เหล็กข้ออ้อย, เหล็กโครงสร้างรูปพรรณร้อนรีด และเหล็กโครงสร้างรูปพรรณขึ้นรูปเย็น
ล่าสุด นายชัยยง กฤตผลชัย เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ทำการมอบป้ายร้านจำหน่ายเหล็กที่ได้มาตรฐานใน จ.สงขลา จำนวน 18 แห่ง เพื่อเป็นสัญลักษณ์ให้ผู้บริโภคไว้วางใจเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เหล็กที่ได้คุณภาพและมาตรฐาน หลังจากที่พบว่าในขณะนี้มีการผลิตและจำหน่ายเหล็กที่ด้อยคุณภาพจำหน่ายในตลาด โดยได้น้ำหนักไม่ตรงตามที่ระบุ ทำให้ทั้งผู้ผลิตและจำน่ายได้กำไรจากการใช้วัตถุดิบคุณภาพต่ำ แต่เป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคอย่างที่ไม่คำนึงถึงความปลอดภัย
นายชัยยง กล่าวยอมรับว่ามีร้านค้าใน จ.สงขลา ที่เข้าร่วมโครงการยังไม่มากนักราว 20% จึงอยากให้ผู้บริโภคเองเกิดความตระหนักถึงความปลอดจึงอยากให้ผู้บริโภคเองเกิดความตระหนักถึงความปลอดภัยมากกว่าราคาถูก โดยก่อนซื้อนอกจากจะสังเกตจากป้ายรับรองจาก สมอ.แล้ว สามารถตรวจสอบเหล็กในเบื้องต้นว่าได้คุณภาพหรือไม่จากการวัดขนาดเหล็กว่าตรงกับที่ระบุไว้หรือไม่
ทั้งนี้ สมอ.ได้ติดตามควบคุมโรงงานผลิตให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพ และจะทำการสุ่มตรวจเหล็กจากร้านค้ารายย่อยอีกด้วย ซึ่งหากพบว่าร้านค้าใดกระทำผิดจะมีโทษปรับตั้งแต่ 5,000 - 50,000 บาท จำคุกไม่เกิด 1 เดือน ส่วนผู้ผลิตนั้นมีโทษปรับตั้งแต่ 2 ล้านบาท และจำคุก 2 ปี
สำหรับสถิติการติดตามควบคุมในปี 2554 ตั้งแต่วันแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2553- 31 พฤษภาคม 2554 พบผู้กระทำผิด 15 ราย แยกเป็นผู้ผลิต 2 ราย และผู้จำหน่าย 13 ราย และยึดอายัดผลิตภัณฑ์เหล็กก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐานจำนวน 754,516 เส้น คิดเป็นน้ำหนักประมาณ 4,820 ตัน มูลค่าประมาณ 134 ล้านบาท
