ศูนย์ข่าวศรีราชา - สนามชลบุรีแข่งขันหาเสียง ทั้งปราศรัย ทั้งติดป้ายโฆษณานโยบายพรรค-ตัวผู้สมัครชิงเก้าอี้ ส.ส.เต็มเมืองชล พรรคพลังชล แข่งเพื่อไทย ส่วน ปชป.ป้องกันแชมป์ ด้าน Vote No ของพรรคฟ้าดิน มาแรง คอการเมืองฟันธง ครั้งไม่มียกทีมแน่นอน
ขณะที่ข่าวคราวทางด้านการเมืองทั้งในระดับประเทศและท้องถิ่น หรือเริ่มคุกรุ่นขึ้นเป็นลำดับเนื่องจากใกล้ถึงวันเลือกตั้ง 3 ก.ค.มาขึ้นมาทุกขณะ ในท้องถิ่นก็คึกคักไม่แพ้กัน สำหรับสนามชลบุรี ซึ่งพรรคที่มีความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง เท่าที่เห็นอยู่ในปัจจุบันก็จะมี 3 พรรคหลักอย่างพรรคเพื่อไทย พรรคพลังชล และพรรคประชาธิปัตย์ ที่เดินหน้าหาเสียงกันอย่างจริงจังจะมีก็แต่ป้ายโฆษณาของ “เสี่ยชูวิทย์” เบอร์ 5 เบอร์ 2 พรรคชาติไทยพัฒนาเพื่อแผ่นดินและเบอร์ 21 พรรคชาติไทยพัฒนา เท่านั้น ที่มีอยู่อย่างประปราย แต่ที่คึกคักไม่แพ้กัน คือพรรคเพื่อฟ้าดิน ที่ขึ้นป้ายโหวตโนทั่วเมือง
สนามเลือกตั้ง ส.ส.เขตชลบุรี ซึ่งมีเก้าอี้ ส.ส.8 ตำแหน่ง ขณะนี้พรรคพลังชล พรรคการเมืองท้องถิ่นแข่งกับผู้สมัครพรรคเพื่อไทย ชิงคะแนนเสียงแย่งเก้าอี้เป็น ส.ส.เนื่องจากผู้สมัครนั้นส่วนใหญ่รู้จักกันดีเป็นคนกลุ่มเดียวกันมาก่อน เคยร่วมงานเป็น ส.ส.ในสังกัด บางคนเคยได้รับความไว้วางใจให้เป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี คุมฐานคะแนนเสียงเดียวกันมา บางคนก็เป็น อดีต ส.จ.ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดี รวมทั้งยังเคยแข่งขันกันระระดับท้องถื่นมาแล้วก็มี
ขณะเดียวกัน ที่พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะแชมป์ที่เคยได้คะแนนเสียงจากพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยชลบุรี ที่เทคะแนนให้จำนวนมาก ได้ครองไป 8 เก้าอี้ ส.ส.เขตใหญ่ทั้ง 3 เขต แบบยกทีม และยังได้คะแนน ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ อีก 1 รวมเป็น 9 เก้าอี้ ส.ส.ซึ่งถือว่าเป็นการชนะอย่างถล่มทลายทุกเขต ส.ส.แต่ละคนมีคะแนนเสียงเป็นแสนขึ้นไป ก็ต้องทำการป้องกันแชมป์ในการเลือกตั้ง ส.ส.แบบเขตในครั้งนี้
การช่วงชิงเก้าอี้ ส.ส.ชลบุรี กำลังดำเนินไปอย่างเข้มข้น ทั้งการปราศรัยหาเสียง และการติดป้ายโฆษณาไปตามถนนหนทางสายต่างๆทั่วจังหวัดชลบุรี และแจกบัตรเล็กแนะนำตัวอีกจำนวนมาก ภาพที่เห็นอยู่นี้เป็นภาพป้ายต่างๆ ของหลายพรรคการเมือง รวมทั้งของพรรคเพื่อฟ้าดิน ที่รณรงค์เรื่อง Vote No ตามถนนสายต่าง ๆ ของตัวเมืองชลบุรี และยังมีป้ายของผู้รักชาติ รักแผ่นดิน-พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ติดตามอาคารร้านค้าของพวกเขาติดอยู่ทั่วเมืองด้วย
อย่างไรก็ตาม เป็นที่คาดหมายกันว่า พรรคพลังชล จะได้ 3-4 เก้าอี้ ส.ส.ส่วนพรรคเพื่อไทย จะได้ 2 เก้าอี้ และชิงเก้าอี้ที่ 3 เช่นเดียวกับพรรคประชาธิปัตย์ ที่คาดการณ์กันว่า จะได้ 2 เก้าอี้ ส.ส.และชิงเก้าอี้ที่ 3 เช่นกัน เหตุที่เป็นเช่นนี้ เพราะว่าการแบ่งเขตเลือกตั้งให้เป็นเขตเล็กมี ส.ส.ได้ เขตละ 1 คนนั้น ทำให้พรรคการเมืองในแต่ละพรรค ที่ผู้สมัครคนไหนมีฐานเสียงจัดตั้งหนาแน่น
รวมทั้งหมู่บ้านไหน ตำบลใด ซึ่งบรรดาหัวคะแนนต่างก็รู้กันดีว่าใครเป็นใคร และใครพวกใครอยู่ฝ่ายไหน มีตำแหน่งอะไรในท้องถิ่นเป็นเครือข่ายกันหรือไม่ จึงมีความได้เปรียบ ทางด้านคะแนนเสียง จากฐานจัดตั้งอย่างมาก ทั้งสามารถกำหนดทิศทางของ คะแนนเสียงได้เป็นอย่างดี
แต่ที่แน่ๆ ในการเลือกตั้งครั้งนี้ ประชาชนจะพิจารณาตัวบุคคลในการตัดสินใจเลือกใครมาเป็นผู้แทนของตนเองแน่นอน ดังนั้น จะไม่มีพรรคการเมืองพรรคใดพรรคหนึ่งได้ ส.ส.มาถึง 8 เก้าอี้ ชนะแบบยกทีม ปัจจัยหลายๆ อย่าง พร้อมทั้งพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยในชลบุรีส่วนใหญ่ที่เคยเทคะแนนให้พรรคประชาธิปัตย์ ในการเลือกตั้งครั้งที่แล้วนั้น ขณะนี้พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยส่วนใหญ่ต่างมุ่งไปทาง Vote No คือ ไปใช้สิทธิเลือกตั้งเข้าคูหากากบาทที่ช่องไม่ประสงค์ลงคะแนน ส่วนพันธมิตรฯอีกส่วนหนึ่งที่มีอยู่ก็จะพากันไปลงคะแนนเสียงให้พรรคประชาธิปัตย์
อีกทั้งยังมีพันธมิตรฯอีกส่วนหนึ่ง แต่ก็ถือว่าเป็นส่วนน้อยมีความผูกพันกับคนในพื้นที่บางคนมีญาติลงสมัคร ส.ส.กับพรรคในพื้นที่ก็จะลงคะแนนให้พรรคการเมืองนั้น คะแนนเสียงจะตัดกันไปมา จึงเป็นเหตุทำให้ไม่มีพรรคการเมืองใดจะได้ชนะเก้าอี้ ส.ส.อย่างยกทีมครอง 8 เก้าอี้ ส.ส.อีกต่อไป ส่วนขณะที่เสียง Vote No นั้นก็มีกระแสแรงสุดจะคาดการณ์ได้