กกต.กับสัตว์การเมือง !!

เกาะกระแส
โดย...ก้อนกรวด

00 ในที่สุดกกต.ก็บ้าจี้ไปตามแรงกดดันของพวก “นักเลือกตั้ง” นักธุรกิจการเมืองที่ดิ้นทุรนทุรายไปกับแผ่นป้าย “อย่าปล่อยสัตว์เข้าสภา” และรณรงค์ให้ “โหวตโน” ในวันที่ 3 ก.ค.มีมติด้วยเสียงข้างมากสั่งให้รื้อป้ายดังกล่าวออกไปโดยอ้างความผิดในสารพัดมาตรากับ “พรรคเพื่อฟ้าดิน” ที่ร่วมกับภาคประชาชนอ้างเป็นเจ้าของป้าย ซึ่งว่ากันไปทีละเรื่อง เริ่มจากเหตุผลของ กกต.ที่บอกว่าเป็นการทำผิดระเบียบ เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นเหตุผลที่ไร้สาระ สิ้นดี เพราะการรณรงค์ดังกล่าวเพื่อต้องการสกัดกั้นนักการเมืองเลวๆเข้าไปในสภา และไม่ยอมเป็นเครื่องมือสร้างความชอบธรรมของพวกนักการเมือง “สัตว์นรก” พวกนั้นเข้าไปมีอำนาจ ไปทุจริตคอรัปชั่น เพราะขนาด กกต.ยังรณรงค์ให้เลือกคนดีเข้าสภา แต่กลับสั่งห้ามไม่ให้ติดป้าย อย่าปล่อยสัตว์เข้าสภา พิลึกคนจริงๆ แม้ล่าสุด มีคำแถลงของ อภิชาต สุขะคานนท์ ออกมาแจงว่าแค่ให้แก้ไขขนาดป้ายลงมาตามระเบียบก็ว่ากันไปแต่เวลานี้ยังไม่มีรายละเอียด ไม่มีลายลักษณ์อักษรลงมาก็ถือว่ายังไม่มีอะไรเกิดขึ้น

00 กว่า 79 ปีของประชาธิปไตยที่ผ่านการเลือกตั้ง ยิ่งนานไปเราก็ยิ่งได้แต่นักการเมือง ที่เลวลงทุกที โกงมากขึ้นทุกที และความวุ่นวายของบ้านเมืองทุกวันนี้ ก็ไม่มีอะไรที่ซับซ้อนมากไปกว่าการที่ “ภาคประชาชนตื่นตัว” มากขึ้นเรื่อยๆ อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เนื่องจากทนไม่ไหว ขณะที่พวกนักการเมือง “ขี้ฉ้อ” เหล่านั้นต่างก็หาทางทำทุกทางเพื่อให้ตัวเองอยู่รอดด้วยการทำลายคนที่ “รู้ทัน” ทุกทางเช่นเดียวกัน บางครั้งถ้าพิจารณาดีๆจะเห็นว่าสารพัดสัตว์ที่เห็นในรูปนั้นล้วนมีคุณค่ากว่านักการเมืองที่เห็นอยู่ดาษดื่นจนเทียบกันไม่ได้เลย

00 สำหรับพรรคฟ้าดินหากมีความผิดก็อาจมีเพียงเล็กน้อยจิ๊บจ๊อย อาจไม่มีหมายเลขผู้สมัครปิดอยู่ที่ป้ายเท่านั้น ขณะที่เป้าหมายหลักที่แท้จริงคือการณรงค์ป้องกันนักการเมืองเลวๆเข้าสภา และที่สำคัญในบัตรเลือกตั้งที่พิมพ์โดยกกต.ก็ได้ระบุด้านล่างช่องขวาสุดว่า “สำหรับไม่ประสงค์ลงคะแนน” ซึ่งก็คือ “โหวตโน” นั่นเอง อย่างไรก็ดีหากจะเอาผิดมันก็ทำได้ โดยใช้วิธีพิจารณาตามตัวอักษรแบบเถรตรงโดยไม่พิจารณาเจตนารมณ์แท้จริง ขณะที่ความผิดในพรบ.ความสะอาดนั้น มันก็เป็นเพียงข้ออ้างที่นำมาใส่เพิ่มเติมเข้ามา ทั้งที่มันไม่ได้บังคับครอบคลุมมาถึงเรื่องการเลือกตั้ง

00 แต่ก็ไม่ว่ากันขอให้ทำตามขั้นตอนก็คือ กกต.ต้องทำหนังสือมาถึงพรรคเพื่อฟ้าดินเพื่อแก้ไขให้ถูกต้องเสียก่อน จะให้เจ้าหน้าที่เทศกิจ กทม.หรือตำรวจไปรื้อป้ายโดยพลการไม่ได้เป็นอันขาด ถ้าใครหน้าไหนอยากจะเสี่ยงก็ลองดูแล้วกัน ขณะเดียวกันการวินิจฉัยของกกต.ออกมาแบบนี้มันก็ดีเหมือนกันทำให้ “กระแสโหวตโน” แรงขึ้นไปอีก อย่างนี้เขาเรียกว่าสิ่งที่ต้องทำกลับไม่ทำ เช่นการป้องกัน จับพวกซื้อเสียง ข่มขู่ฝ่ายตรงข้ามกลับไม่ทำ หรือพวกอันธพาลที่ทำลายป้ายหาเสียง ประเภทนี้น่าจะเป็นอันตรายต่อการเลือกตั้งมากกว่าแต่ดันไม่ทำ กลับมาเข้มงวดเอากับ “ป้ายสารพัดสัตว์” ให้มันได้อย่างนี้สิบ้านเมือง แต่ถึงอย่างไรใช่ว่ารื้อป้ายได้แล้วทุกอย่างจะเงียบ จะจบ เพราะนี่เป็นกระแส เป็นความตื่นตัวของภาคประชาชน และอาจต้องขอบคุณด้วยซ้ำที่ “เรียกแขก” ให้!!

00 วกมาที่การเมืองน้ำเน่ากันต่อ หากสังเกตให้ดีจะเห็นว่า ทั้ง “เทพเทือก” กับ “หน้าหล่อ” อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กำลังเล่นบทเดียวกัน ผิดกับเมื่อก่อนที่แยกกันเล่นคนแรกเป็น “ผู้ร้าย” ขณะที่อีกคนเล่นบท “พระเอก” เป็น “เทพ” อะไรประมาณนั้น แต่นาทีนี้มันก็เหมือน “ตบะแตก” เก็บอาการไม่อยู่แล้วจึงต้องเผยตัวตนออกมาให้เห็นแล้ว หน้ามืดฟัดดะ ล่าสุดก็รวมหัวใช้ “วิชามาร” สารพัดทำลาย สนธิ ลิ้มทองกุล เพื่อหวังทำลาย “ขบวนการโหวตโน” ที่รู้ทันทุกเรื่อง โดยเฉพาะเกมบล็อก “เจ๊ปู” ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ด้วยความผิด “ซุกหุ้น” โกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงปฏิเสธลั่นว่าไม่เกี่ยวกับ แก้วสรร-หมอตุลย์ ก็ว่ากันไป แต่การที่บอกว่าการ โหวตโนเพื่อ “ช่วยแม้ว” นั้นเป็นการดูถูกสติปัญญาคนอื่นมากไปหน่อย เพราะต่อให้โหวตให้ปชป.มันก็ยังแพ้วันยังค่ำ เตรียมขุดหลุมไว้ล่วงหน้าได้เลย และที่เห็นนิสัยแบบนี้มากว่าสองปีมันถึงต้องโหวตโนยังไงละมาร์ค-เทือก และเชื่อว่าไม่มีใครเสียใจหรอกที่ทำแบบนี้ จะบอกให้ !!