อุตรดิตถ์ - เกษตรกรชาวสวนอำเภอลับแลจังหวัดอุตรดิตถ์ยิ้มหลังราคาทุเรียนพันธ์หลง-หลินลับแล ราคาพุ่งสูงกว่ากิโลกรัมละ 300 บาท
จากคำกล่าวที่ว่า “ข้าวจะสุกจากเหนือมาใต้ ผลไม้จะสุกจากใต้มาเหนือ” ทำให้ที่จังหวัดอุตรดิตถ์เรียกได้ว่าเป็นแหล่งสุดท้ายของประเทศที่จะมีทุเรียนไว้ให้กิน โดยเฉพาะที่อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ได้มีการปลูกทุเรียนกันมากว่า 100 ปีแล้ว ซึ่งเป็นทุเรียนพันธุ์พื้นเมือง แต่ได้มีการผสมข้ามพันธุ์กันไปมา เมื่อได้พันธุ์ดีก็ขยายพันธุ์ออกไปเรื่อยๆ ซึ่งนอกจากจะเป็นการเพิ่มปริมาณต้นทุเรียนแล้วก็ยังเป็นการให้กำเนิดทุเรียนพันธุ์ดีของเมืองลับแลอีกด้วย นั่นก็คือ ทุเรียนพันธุ์หลงลับแล และพันธุ์หลินลับแล นั่นเอง
ทุเรียนหลินลับแลจะมีลักษณะต่างจากหลงลับแลตรงที่ผลของมันจะแบ่งเป็นพูเห็นได้ชัด มีร่องพูลึก ส่วนขนาดนั้นก็จะเท่าๆ กับพันธุ์หลงลับแล คือไม่ใหญ่มาก และรสชาตินั้นก็ยังอร่อยหวานมัน มีกลิ่นหอมอ่อนๆไม่ฉุนเหมือนทุเรียนพันธุ์อื่น และปลูกยากเจริญเติบโตช้ากว่าทุเรียนพันธุ์อื่น ซึ่งกว่าจะเก็บผลผลิตออกมาจำหน่ายค่อนค้างลำบากและเสียเวลาในการปลูก ทุเรียนพันธุ์หลงและหลินลับแลจึงมีราคาแพงและหากินได้ยาก
โดยปีนี้ราคาทุเรียนพันธุ์หลงลับแลในช่วงปลายฤดูอยู่ที่ราคา 300 บาทและทุเรียนพันธุ์หลินลับแลราคาอยู่ที่ 350 บาทต่อกิโลกรัม
