ชพน.ขนนักกีฬาทีมชาติช่วยผู้สมัคร ส.ส.อุบลฯ หาเสียง

อุบลราชธานี -พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน ขนนักกีฬาทีมชาติปลูกจิตสำนึกนักเรียน ม.ปลาย ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง พร้อมโชว์ฝีมือแกะสลักเทียน ทำเส้นขนมจีน ด้านอดีต ส.ส.พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน ชี้ หากได้รับเลือกตั้ง พร้อมสานต่อนโยบายเปิดด่านค้าขายชายแดนไทย-ลาว ถาวร

วันนี้ (21 มิ.ย.) น.ต.ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน นักฟุตบอลทีมชาติไทย น.ส.เยาวภา บุรพลชัย นักเทควันโดเหรียญทองแดงโอลิมปิกเกมส์ 2004 ทั้งสองเป็นผู้สมัคร ส.ส.ระบบเขต กรุงเทพฯ พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน พร้อมด้วย นายภราดร ศรีชาพันธุ์ นักเทนนิสอาชีพ และ นางสุนารี ราชสีมา นักร้องเพลงลูกทุ่ง รองโฆษกพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน ลงพื้นที่ อ.บุณฑริก จ.อุบลราชธานี หาเสียงช่วย นายสุชาติ ตันติวนิชชานนท์ ผู้สมัครเขตเลือกตั้งที่ 9 จ.อุบลราชธานี

เมื่อขบวนแห่นำคณะนักกีฬาเข้าสู่ตัวอำเภอ ประชาชนสองข้างทางให้การต้อนรับ วิ่งมาขอจับมือแสดงความยินดี เมื่อขบวนรถแล่นเข้าไปที่โรงเรียนบุณฑริกวิทยาคาร ซึ่งเป็นโรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายประจำอำเภอ เพื่อหาเสียงกับคณะครูและเด็กนักเรียนมัธมศึกษาตอนปลาย ซึ่งมีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงเป็นครั้งแรกประมาณ 300 คน

“น้องวิว” เป็นตัวแทน กล่าวกับเด็กนักเรียนที่มาให้การต้อนรับอย่างคับคั่ง โดยขอให้น้องนักเรียนทุกคนที่มีสิทธิออกไปใช้สิทธิลงคะแนน ทั้งชวนพ่อแม่คุณตาคุณยายและคนข้างบ้านออกไปใช้สิทธิให้มากๆ โดยเลือกผู้สมัครที่ตนเองชื่นชอบ โดยเฉพาะ นายสุชาติ ตันติวนิชชานนท์ พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน ส่งลงสมัครแข่งขัน ให้เข้าไปส่งเสริมการกีฬาของชาติไทยให้ก้าวไปข้างหน้า เพราะแม้น้องวิวเรียนไม่เก่ง แต่ก็ได้ดีเพราะเล่นกีฬา จึงขอให้น้องนักเรียนเอาเป็นตัวอย่าง เพื่อความก้าวหน้าในชีวิตในวันข้างหน้า

จากนั้นคณะหาเสียงพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน ได้ไปช่วยแกะสลักต้นเทียนพรรษาที่วัดป่าศรีมงคล ซึ่งในการส่งต้นเทียนเข้าพรรษาเข้าแข่งขันเมื่อปีที่ผ่านมา ต้นเทียนของวัดแห่งนี้ได้รับรางวัลชนะเลิศต้นเทียนพรรษาประเภทแกะสลัก พร้อมกับไปทดลองทำข้าวปุ้นซาว หรือเส้นขนมจีน ซึ่งเป็นอาหารหลักของชาวอำเภอบุณฑริก และคณะนักกีฬาได้ทดลองชิมเส้นขนมจีนที่ทำขึ้นเอง

ด้าน นายสุชาติ ตันติวนิชชานนท์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งครั้งนี้ และเป็น อดีต ส.ส.หลายสมัยของเขตเลือกตั้งที่ 9 กล่าวว่า หากได้รับเลือกตั้งจะผลักดันให้รัฐบาลเปลี่ยนแปลงด่านค้าขายชายแดนด้านช่องตาอู ระหว่างอำเภอบุณฑริก กับเมืองกุสุมาล แขวงจำปาสัก ประเทศลาว ซึ่งเดิมเป็นด่านผ่อนปรนค้าขายกันเพียงสัปดาห์ละ 3 วัน เป็นด่านถาวรที่สามารถเปิดค้าขายได้ตลอดทั้งสัปดาห์

เนื่องจากปัจจุบันด่านช่องตาอู เดิมเคยมีมูลค่าการค้าระหว่างกันวันละไม่กี่หมื่นบาท เป็นวันละกว่า 5 แสนบาท โดยสินค้าที่ฝั่งไทยส่งไปจำหน่ายเป็นสินค้าในกลุ่มสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภค รวมทั้งอุปกรณ์ก่อสร้าง ส่วนสินค้าจากประเทศลาวจะเป็นของป่าหายาก โดยเฉพาะอาหารป่าในกลุ่มเห็ด หน่อไม้ และพืชผัก ปัจจุบันฝั่งไทยมีจำนวนน้อยลง จากป่าไม้ถูกทำลายลง

เมื่อเปิดเป็นด่านผ่านแดนถาวร จะทำให้ประชาชนไทยและลาว ที่ค้าขายผ่านแดนระหว่างกันทางด้านนี้ มีเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ดีขึ้นกว่าอดีตแน่นอน