ศูนย์ข่าวศรีราชา - เมืองพัทยาร่วมกับกรมเจ้าท่าจัดประชาพิจารณ์รอบ 2 โครงการถมทรายชายหาดพัทยา พบประชาชนเห็นชอบผ่านฉลุย
วันนี้ (20 มิ.ย.54) ที่ศาลาว่าการเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี นายอิทธิพล คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา เป็นประธานเปิดการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนเกี่ยวกับโครงการจัดทำแผนแม่บทในการถมทรายชายหาดพัทยา โดยมีคณะผู้บริหาร หัวหน้าส่วนราชการ ตัวแทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้นำชุมชนและประชาชนเข้าร่วมกว่า 200 คน
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับแนวทางการจัดการโครง การดังกล่าว หลังจากที่พบว่าปัจจุบันชายหาดเมืองพัทยา ระยะทางประมาณ 2.7 กิโลเมตรนั้นถูกน้ำทะเลกัดเซาะอย่างรุนแรง จนคาดการณ์กันว่าหากไม่มีการดำเนินการแก้ไขและป้องกันอย่างถูกต้องอาจทำให้เมืองพัทยาสูญเสียชายหาด ซึ่งถือว่าเ้ป็นจุดขายที่สำคัญด้านการท่องเที่ยวไป
ศ.ดร.ธนวัฒน์ จารุพงษ์สกุล หัวหน้าโครงการวิจัยจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งได้รับมอบ หมายให้เข้ามาดำเนินการศึกษาผลกระทบและวางแผนแม่บทในการแก้ไขปัญหา เปิดเผยว่าจากการตรวจ สอบสภาพชายหาดแต่เดิมในปี 2495 นั้นพบว่าชายหาดพัทยามีเนื้อที่รวมกว่า 60 ไร่ มีขนาดความกว้างของชายหาดถึง 35 เมตร
ขณะที่ในปี 2554 ชายหาดพัทยามีเนื้อที่เหลือเพียง 8.5 ไร่ ขณะที่ความกว้างเหลือเพียง 3.5-5 เมตร โดยพบว่าค่าเฉลี่ยของการถูกกัดเซาะนั้นอยู่ที่ 1.8 เมตรต่อปี ซึ่งหากยังปล่อยให้สถานการณ์เป็นเช่นนี้ต่อไปคาดว่าในเวลาไม่เกิน 3-5 ปี ชายหาดพัทยาจะถูกน้ำกัดเซาะจนหายไปทั้งหมด
ซึ่งปัจจุบันทางทีมวิจัยได้เสนอทางเลือกในการแก้ไขปัญหาไว้ในแผนจำนวน 4 ทางเลือกหลัก ได้ แก่ 1.การนำทรายมาเติมชายหาดในระยะความกว้าง 35 เมตร ในระยะทางความยาว 2.7 กม. 2.การนำทรายมาเติมในระยะ 35 เมตรเช่นกัน แต่จะมีการนำถุงทรายมากันแนวในระยะ 15 เมตร ซึ่งวิธีนี้จะต้องนำทรายมาเติมใหม่ในปีที่ 14 โดยวิธีนี้จะใช้งบประมาณ 323.73 ล้านบาท
3.การนำทรายมาเติมชายหาดในระยะ 35 เมตร พร้อมการนำถุงทรายมากันแนว 15 เมตร และการก่อสร้างแนวกันคลื่นบริเวณหัวแหลมบาลีฮายในระยะ 725 เมตร ซึ่งวิธีนี้จะต้องนำทรายมาเติมใหม่ในระยะเวลาอีก 25 ปีข้างหน้า แต่ต้องใช้งบประมาณสูงถึง 521.83 ล้านบาท และวิธีที่ 4.คือการเติมทรายในระยะ 35 เมตรจากฝั่ง พร้อมนำถุงทรายมากันแนวในระยะ 15 เมตร และการสร้างคันดักทรายใต้น้ำบริเวณช่วงหัวหาดและท้ายหาดในระยะความยาว 50 เมตร ซึ่งวิธีนี้จะต้องนำทรายมาเติมในเวลา 14 ปี โดยวิธีนี้จะใช้งบประมาณราว 329.4 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามความคิดเห็นของประชาชนส่วนใหญ่มีแนวคิดที่เห็นชอบกับโครง การอย่างเต็มที่ พร้อมเสนอแนวทางเลือกที่ 2 เพื่อแก้ไขปัญหาชายหาดอย่างถาวร ซึ่งจากนี้เมืองพัทยาจะได้ทำการสรุปข้อมูลที่ได้ ก่อนรวบรวมเสนอต่อสำนักนโยบายด้านแผนและสิ่งแวดล้อมเพื่อขอความเห็น ชอบในการจัดทำโครงการต่อไป
วันนี้ (20 มิ.ย.54) ที่ศาลาว่าการเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี นายอิทธิพล คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา เป็นประธานเปิดการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนเกี่ยวกับโครงการจัดทำแผนแม่บทในการถมทรายชายหาดพัทยา โดยมีคณะผู้บริหาร หัวหน้าส่วนราชการ ตัวแทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้นำชุมชนและประชาชนเข้าร่วมกว่า 200 คน
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับแนวทางการจัดการโครง การดังกล่าว หลังจากที่พบว่าปัจจุบันชายหาดเมืองพัทยา ระยะทางประมาณ 2.7 กิโลเมตรนั้นถูกน้ำทะเลกัดเซาะอย่างรุนแรง จนคาดการณ์กันว่าหากไม่มีการดำเนินการแก้ไขและป้องกันอย่างถูกต้องอาจทำให้เมืองพัทยาสูญเสียชายหาด ซึ่งถือว่าเ้ป็นจุดขายที่สำคัญด้านการท่องเที่ยวไป
ศ.ดร.ธนวัฒน์ จารุพงษ์สกุล หัวหน้าโครงการวิจัยจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งได้รับมอบ หมายให้เข้ามาดำเนินการศึกษาผลกระทบและวางแผนแม่บทในการแก้ไขปัญหา เปิดเผยว่าจากการตรวจ สอบสภาพชายหาดแต่เดิมในปี 2495 นั้นพบว่าชายหาดพัทยามีเนื้อที่รวมกว่า 60 ไร่ มีขนาดความกว้างของชายหาดถึง 35 เมตร
ขณะที่ในปี 2554 ชายหาดพัทยามีเนื้อที่เหลือเพียง 8.5 ไร่ ขณะที่ความกว้างเหลือเพียง 3.5-5 เมตร โดยพบว่าค่าเฉลี่ยของการถูกกัดเซาะนั้นอยู่ที่ 1.8 เมตรต่อปี ซึ่งหากยังปล่อยให้สถานการณ์เป็นเช่นนี้ต่อไปคาดว่าในเวลาไม่เกิน 3-5 ปี ชายหาดพัทยาจะถูกน้ำกัดเซาะจนหายไปทั้งหมด
ซึ่งปัจจุบันทางทีมวิจัยได้เสนอทางเลือกในการแก้ไขปัญหาไว้ในแผนจำนวน 4 ทางเลือกหลัก ได้ แก่ 1.การนำทรายมาเติมชายหาดในระยะความกว้าง 35 เมตร ในระยะทางความยาว 2.7 กม. 2.การนำทรายมาเติมในระยะ 35 เมตรเช่นกัน แต่จะมีการนำถุงทรายมากันแนวในระยะ 15 เมตร ซึ่งวิธีนี้จะต้องนำทรายมาเติมใหม่ในปีที่ 14 โดยวิธีนี้จะใช้งบประมาณ 323.73 ล้านบาท
3.การนำทรายมาเติมชายหาดในระยะ 35 เมตร พร้อมการนำถุงทรายมากันแนว 15 เมตร และการก่อสร้างแนวกันคลื่นบริเวณหัวแหลมบาลีฮายในระยะ 725 เมตร ซึ่งวิธีนี้จะต้องนำทรายมาเติมใหม่ในระยะเวลาอีก 25 ปีข้างหน้า แต่ต้องใช้งบประมาณสูงถึง 521.83 ล้านบาท และวิธีที่ 4.คือการเติมทรายในระยะ 35 เมตรจากฝั่ง พร้อมนำถุงทรายมากันแนวในระยะ 15 เมตร และการสร้างคันดักทรายใต้น้ำบริเวณช่วงหัวหาดและท้ายหาดในระยะความยาว 50 เมตร ซึ่งวิธีนี้จะต้องนำทรายมาเติมในเวลา 14 ปี โดยวิธีนี้จะใช้งบประมาณราว 329.4 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามความคิดเห็นของประชาชนส่วนใหญ่มีแนวคิดที่เห็นชอบกับโครง การอย่างเต็มที่ พร้อมเสนอแนวทางเลือกที่ 2 เพื่อแก้ไขปัญหาชายหาดอย่างถาวร ซึ่งจากนี้เมืองพัทยาจะได้ทำการสรุปข้อมูลที่ได้ ก่อนรวบรวมเสนอต่อสำนักนโยบายด้านแผนและสิ่งแวดล้อมเพื่อขอความเห็น ชอบในการจัดทำโครงการต่อไป
