xs
xsm
sm
md
lg

สภาที่ปรึกษาฯ เดินหน้าเวทีสุดท้ายระดมความเห็นเรื่อง AC 4 ภูมิภาค

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวศรีราชา - สภาที่ปรึกษาฯ เดินหน้าจัดเวทีสุดท้ายที่ชลบุรี เรื่องการเตรียมความพร้อมของประเทศไทยเข้าสู่ประชาคมอาเซียนหรือ AC ด้วยปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

เมื่อเร็วๆ นี้ สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ได้จัดเวทีสัมมนาระดมความคิดเห็นภาคกลาง ซึ่งเป็นภาคสุดท้ายในเวที 4 ภูมิภาค ณ โรงแรมแอมบาสซาเดอร์ ซิตี้ จอมเทียน จังหวัดชลบุรี เรื่อง “การเตรียมความพร้อมของประเทศไทยเข้าสู่ประชาคมอาเซียน หรือ AC ด้วยปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” โดยมีนายอำพล เสนาณรงค์ องคมนตรี มาเป็นประธานในพิธีเปิดการจัดเวทีสัมมนา นายวิชิต ชาตไพสิฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี นายโอภาส เตพละกุล ประธานสภาที่ปรึกษาฯ พร้อมผู้เข้าร่วมสัมมนาจาก 27 จังหวัดภาคกลาง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกว่า 350 คน ร่วมให้การต้อนรับ โดย นายวิชิต ชาตไพสิฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ได้กล่าวให้การต้อนรับในฐานะเจ้าของพื้นที่พร้อมทั้งแนะนำจังหวัดชลบุรี และสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆให้กับคณะและผู้เข้าร่วมสัมมนาได้รู้จักอย่างกว้างขวาง

ด้าน นางภรณี ลีนุตพงษ์ รองประธานสภาที่ปรึกษาฯ ได้กล่าวรายงานถึงความเป็นมาว่า การจัดเวทีสัมมนาในครั้งนี้ เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจ และเตรียมความพร้อม เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนที่จะมีผลในปี 2558 โดยมีวิทยากรผู้ทรง คุณวุฒิในด้านต่างๆ ร่วมให้ความเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ของปัญหาและผลกระทบด้านต่างๆ ตลอดจนศักยภาพการใช้ประโยชน์ในด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคมและวัฒนธรรม รวมถึงการประยุกต์ใช้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นายอำพล เสนาณรงค์ องคมนตรี กล่าวเปิดเปิดการสัมมนาความว่า ประเทศอาเซียนมี 10 ประเทศ คือ ไทย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย สิงคโปร์ บรูไน ลาว เวียดนาม พม่า และกัมพูชา ประชาคมอาเซียน ประกอบด้วย 3 เสาหลักคือ การเมืองมีความมั่นคง ด้านสังคมและวัฒนธรรม รวมถึงด้านเศรษฐกิจ มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มอำนาจการต่อรองและเพิ่มขีดความสามารถของประเทศอาเซียนสู่ระดับโลก สามารถเคลื่อนย้ายฐานการผลิตได้อย่างเสรี ลดกำแพงภาษีระหว่างประเทศ และเปิดโอกาสให้คลายข้อพิพาทในประเทศสมาชิกได้อย่างสันติ การเข้าสู่ประชาคมอาเซียน มีผลกระทบทั้งด้านบวกและด้านลบต่อประเทศไทย

เนื่องจากประเทศอาเซียนจะมีความเกี่ยวข้องกับสังคมในเกือบทุกมิติ ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม แรงงาน สาธารณสุข ดังนั้นจึงต้องมีการบูรณาการร่วมกัน ระหว่างองค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน สถาบันการศึกษา ผู้ประกอบการรายใหญ่และรายย่อย นักวิชาการ รวมถึงสื่อมวลชน ภายใต้การน้อมนำพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในเรื่องปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้ในทุกโอกาส ตั้งแต่ระดับครอบครัว สังคม ตลอดจนประเทศและระหว่างประเทศ และต้องเสริมสร้างพื้นฐานจิตใจของประชาชนให้มีความสำนึกในคุณ ธรรม จึงจะทำให้การประยุกต์ใช้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผลต่อไป

นอกจากนี้ยังได้จัดการสัมมนากลุ่มย่อย โดยแบ่งออกเป็น 6 กลุ่มย่อย คือ กลุ่มเกษตรกรรม, กลุ่มอุตสาหกรรมแรงงาน และโครงสร้างพื้นฐาน, กลุ่มเศรษฐกิจมหภาค การเงิน การคลัง และการบริการ, กลุ่มศึกษา ศาสนา วัฒนธรรมและวิทยาศาสตร์, กลุ่มสุขภาพ คุณภาพชีวิต และกีฬา และกลุ่มยุติธรรม สิทธิมนุษยชน และการมีส่วนร่วม ซึ่งหลังจบการสัมมนาทั้ง 4 ภูมิภาคแล้วจะเป็นการสัมมนาประจำปีในเรื่องเดียวกันที่กรุงเทพมหานคร จากนั้นสภาที่ปรึกษาฯ จะรวบรวมความคิดเห็นที่ได้จากการสัมมนาทั้งหมด มาสังเคราะห์และวิเคราะห์เพื่อจัดทำเป็นความเห็นและข้อเสนอแนะเสนอต่อคณะรัฐมนตรีต่อไป

กำลังโหลดความคิดเห็น