การเมืองแทรกงานเทียนอุบลฯ ต้อง“ทำต้นเทียนด้วยใจ” เพราะถูกหั่นงบ!

อุบลราชธานี-งามหน้า!การเมืองไทยแทรกแซงไม่เว้นแม้งานบุญประเพณี ล่าสุดแผลงฤทธิ์ดึงงบใช้จัดงานแห่เทียนพรรษา ไปหนุนบารมีตระกูลนักการเมืองดังเมืองสุพรรณ ทำให้การจัดงานปีนี้ หน่วยงานต้องจัดงานแห่เทียนที่ทำติดต่อกันมายาวนานกว่า 70 ปี จนเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกด้วยงบประมาณน้อยนิด

วันนี้(18 มิ.ย.) ที่ล็อบบี้โรงแรมสุนีย์แกรนด์ อ.เมือง จ.อุบลราชธานี นายสุรพล สายพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานีพร้อมหน่วยงานที่จัดงานประเพณีแห่เทียนพรรษาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน โดยงานแห่เทียนประจำปี 2554 ใช้ชื่อว่า “ฮุ่งเฮืองเมืองธรรม งามล้ำเทียนพรรษา ภูมิปัญญาชาวอุบล” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-31 ก.ค.

โดยปีนี้มีต้นเทียนแกะสลักขนาดใหญ่ร่วมประกวด 9 ต้น ขนาดเล็ก 15 ต้น ต้นเทียนติดพิมพ์ขนาดใหญ่ 10 ต้น และขนาดเล็ก 9 ต้น ต้นเทียนโบราณ 9 ต้น และต้นเทียนที่ทำโดยศิลปินรุ่นใหม่อีก 3 ต้น รวมมีต้นเทียนเข้าร่วมประกวดทั้งสิ้น 55 ต้น

การจัดทำต้นเทียนขนาดใหญ่ทั้งประเภทติดพิมพ์และแกะสลักได้รับงบประมาณสนับสนุนจากเทศบาลนครอุบลราชธานี และจังหวัดต้นละ 100,000 บาท ส่วนต้นเทียนขนาดเล็กและต้นเทียนของศิลปินรุ่นใหม่ได้รับต้นละ 80,000 บาท สำหรับรางวัลชนะเลิศต้นเทียนขนาดใหญ่ได้รับถ้วยรางวัลพระราชทานของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมเงินสดประเภทละ 200,000 บาท ต้นเทียนขนาดเล็กชนะเลิศได้รับรางวัลเงินสดประเภทละ 100,000 บาท

สำหรับกิจกรรมตลอดการจัดงานมีการแสดงของต้นเทียนนานาชาติ การเยือนชุมชนดูวิถีชีวิตการทำต้นเทียน ขบวนพิธีอัญเชิญเทียนพรรษาและผ้าอาบน้ำฝนพระราชทานทางชลมาร์ค การเวียนเทียนในวันอาสาฬหบูชา และการตั้งแสดงต้นเทียนพรรษารอบสนามทุ่งศรีเมืองและขบวนแห่เทียนพรรษาในวันเสาร์ที่ 16 ก.ค.

ด้านนายสุรพล สายพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกล่าวว่า ในช่วงเทศกาลแห่เทียนเข้าพรรษา มีการประชาสัมพันธ์ให้ธุรกิจร้านค้าทั้งโรงแรมที่พักรีสอร์ท ร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหาร แหล่งท่องเที่ยวบันเทิง รถโดยสารอย่าฉวยโอกาสขึ้นราคากับนักท่องเที่ยวเป็นอันขาด เพราะจะทำให้ภาพพจน์ของจังหวัดเสียหาย มีผลต่อการเข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดในอนาคต

ขณะที่ น.ส.ยุพา ปานรอด ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานอุบลราชธานี ตอบข้อซักถามของสื่อมวลชนกรณีกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจัดงบประมาณใช้ส่งเสริมเทศกาลแห่เทียนวันเข้าพรรษา ซึ่งปีนี้กระทรวงจัดงบมากถึงกว่า 14 ล้านบาท แต่ปรากฏจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นจังหวัดต้นแบบในการจัดงานแห่เทียนเข้าพรรษาได้งบสนับสนุนเพียง 5 แสนบาท น.ส.ยุพาระบุว่า ความจริงได้รับงบสนับสนุนเป็นเงินสดจำนวน 7 แสนบาท ที่เหลืออีกกว่าล้านบาท ใช้งบประจำสำนักงาน ททท.อุบลราชธานี ในการจัดงาน

ส่วนงบประมาณที่เหลือถูกจัดสรรให้ จ.นครราชสีมา และ จ.สุพรรณบุรี โดยจังหวัดสุพรรณบุรีได้รับงบประมาณไปมากที่สุด ซึ่ง น.ส.ยุพาไม่ได้ระบุตัวเลขว่าได้เท่าไหร่ แต่ยอมรับว่าต้องถอยให้กับทางการเมืองที่เป็นผู้จัดงบในปีนี้

ขณะเดียวกันจากการสอบถามจากช่างทำต้นเทียน จ.อุบลราชธานี ซึ่งได้รับการว่าจ้างให้ไปทำต้นเทียนให้ จ.สุพรรณบุรี กล่าวว่า การจัดทำต้นเทียนขนาดใหญ่ของจังหวัดสุพรรณบุรีประจำปี 2554 ได้รับงบสนับสนุนจัดทำต้นเทียนต้นละ 800,000 บาท โดยให้ทำทั้งสิ้น 10 ต้น เพื่อใช้เป็นต้นเทียนประจำแต่ละอำเภอของจังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งมีทั้งสิ้น 10 อำเภอ

รายงานข่าวแจ้งต่อว่า ปัจจุบันกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มีนายชุมพล ศิลปอาชา น้องชายนายบรรหาร ศิลปอาชา เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวง