พิษณุโลก - สุดรัดทน ยายวัย 80 ต้องเลี้ยงหลานไม่สมประกอบ ด้วยการกักอยู่ในคอกนานนับ 10 ปี ไร้หน่วยงานรัฐช่วยเหลือ ชาวบ้านสุดทนขอให้หาที่อยู่อย่าง “มนุษย์” ให้
วันนี้ (17 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านหมู่ที่ 8 บ้านเผ่าไทย ต.ชมพู อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก ว่า มีครอบครัวที่สุดลำเค็ญ ยายวัย 80 ปี ต้องแบกรับภาระเลี้ยงหลานชายวัย 23 ปี สติไม่สมประกอบ ด้วยการขังไว้ในคอกหลังบ้านนานร่วม 10 ปี
จึงเดินทางไปตรวจสอบที่บ้านเลขที่ 41 หมู่ 8 ต.ชมพู พบ นางแส่ว มีสอน อายุ 80 ปี ยายเลี้ยงหลานชายชื่อ นายปียพงษ์ อินตาถึง หรือ น้องโอ อายุ 23 ปี ในคอกหลังบ้าน สภาพเป็นคอกที่ตีแปะด้วยไม้กระดาน ขนาดความกว้างประมาณ 3 x3 เมตร ปูพื้นด้วยไม้กระดานแผ่น มุงด้วยหลังคาสังกะสี ที่น้องโอ ผู้สติไม่สมประกอบ ต้องอาศัยหลับนอนกินอยู่ขับถ่ายอยู่ในคอกนั้นตลอดทั้งวันและคืน
แม่ของน้องโอเป็นลูกของยายแส่ว แต่เสียชีวิตตั้งแต่น้องโอ ยังเด็กๆ จึงมาอยู่ในความดูแลของยายสูน น้องสาวของยายแส่ว ตั้งแต่อายุ 2-3 ขวบ ยายสูนก็เลี้ยงน้องโอเรื่อยมา กระทั่งน้องโออายุ 8-9 ขวบ ยายสูน ผู้เลี้ยงดูน้องโอเสียชีวิตลง การเลี้ยงดูน้องโอจึงมาตกอยู่ที่ยายแส่ว และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ก็อยู่ในสภาพถูกเลี้ยงอยู่ในคอกหลังบ้านยายแส่ว ขณะที่ตัวน้องโอเอง มีพี่สาวอยู่สองคน แต่ได้แยกย้ายไปทำงานที่กรุงเทพฯ นานแล้ว
สภาพความเป็นอยู่ของน้องโอเป็นที่น่าเวทนาเมื่อได้พบเห็น น้องโอ อยู่ในสภาพไม่สวมกางเกง สวมเสื้อยืดเพียงตัวเดียว เนื่องจากสติไม่สมประกอบตั้งแต่วัยเด็ก และไม่ชอบนุ่งห่มเสื้อผ้า และเมื่อมาอยู่ในความรับผิดชอบของยายแส่ว ก็เลี้ยงดูได้เพียงตามมีตามเกิด ตามกำลังของยายแส่ว
ในวัยเด็ก น้องโอ สามารถเดินได้ แต่ไม่รู้เรื่อง ไม่สามารถพูดคุยได้ แต่สามารถฟังเข้าใจ แต่เมื่อโตขึ้น และถูกเลี้ยงดูในคอกมานานร่วม 10 ปี ส่งผลให้น้องโอไม่สามารถเดินได้ ต้องอยู่สภาพนั่งยองๆ ตลอดเวลา และมักจะโยกตัวไปมาตลอดเวลาเช่นกัน จะกิน-อึ-ปัสสาวะ ก็อยู่ในคอกสภาพนี้ มีเพียงยายแส่ว คอยดูแลเก็บอึและล้างน้ำทำความสะอาดให้เพียงคนเดียว สภาพความเป็นอยู่ก็ลำบาก มียุงตอมตามตัวตลอดเวลา
ยายแส่ว มีสอน ยายผู้แบกภาระหนักอึ้งและแก่ชรา หูก็ไม่ค่อยได้ยิน เปิดเผยว่า ก็ต้องเลี้ยงกันไป ไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะไม่สามารถปล่อยหลานออกไปข้างนอกได้ เกรงว่าหลานจะได้รับอันตราย เพราะเป็นคนไม่สมประกอบ และไม่มีญาติคนไหนจะรับผิดชอบได้ จึงทำคอกไว้อย่างนี้มานานเป็นเวลาสิบกว่าปีแล้ว ทุกวันตนจะคอยดูแลหลานคนนี้ตลอด เช้า กลางวันเย็นจะคอยหาข้าวและน้ำมาให้กิน ตกเย็นก็จะนำมุ้งมากลางให้ แต่หลานตนไม่ชอบกลางมุ่ง เวลานอนก็จะดึงมุ่งมาห่มพันตัวไว้
นอกจากเลี้ยงน้องโอ๋ ที่ไม่สมประกอบแล้ว ยายแส่ว ยังต้องรับภาระเลี้ยงเหลน วัย 2 ขวบ เป็นลูกสาวของหลาน ชื่อน้องยุ้ย ที่บ้านอีก 1 คนด้วย ที่คลอดแล้วนำมาให้เลี้ยงไว้ที่บ้าน และแม่น้องยุ้ย ก็ต้องออกไปทำงานรับจ้างทุกวัน
ดังนั้น ทุกวัน ยายแส่ว ต้องเลี้ยงน้องโอหลานที่พิการ และเหลนคือ น้องยุ้ยอยู่ตลอดเวลา จึงเป็นภาระหนักอึ้งของยายแส่ว ที่วัยร่วงโรยมาถึง 80 ปีแล้ว
นางตลับ เสวิสิทธิ์ อายุ 42 ปี หลานของยายแส่ว ที่อยู่บ้านข้างเคียง เปิดเผยว่า สภาพการเลี้ยงดูน้องโอเป็นอย่างนี้นานแล้ว พวกตนก็จะคอยดูแลอยู่ตลอด ยายแส่ว ก็ไม่กล้าปล่อยออกไปข้างนอก เกรงว่า น้องโอจะได้รับอันตราย และไม่สามารถตามทัน เวลาน้องโอหิว ก็จะตะโกนร้องดังๆ ว่า “แม่ๆ “ ยายแส่ว และเพื่อนบ้านก็จะหาขนม น้ำส้มมาให้ แต่ส่วนใหญ่แล้วความรับผิดชอบทั้งหมดอยู่ที่ยายแส่ว ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร
ลูกหลานก็ต่างมีภาระต้องออกไปทำงานรับจ้างในตัวเมืองกันหมด จะส่งเงินมาให้ใช้บ้าง ส่วนยายแส่ว เอง ก็มีรายได้เพียงเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเดือนละ 500 บาท และเบี้ยคนพิการของน้องโออีก 500 บาท ไม่รู้ว่าเมื่อสิ้นบุญยายแส่ว แล้ว น้องโอจะเป็นอย่างไร อยากให้หน่วยงานภาครัฐเข้ามาดูแล จะรับไปอยู่สถานสงเคราะห์หรือให้ชีวิตความเป็นอยู่ของน้องโอดีขึ้นก็จะดีมาก
นายสงวน วีระปิง ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 8 ต.ชมพู อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก เปิดเผยว่า เห็นครอบครัวนี้มานานแล้ว เมื่อน้องโออยู่ในความดูแลของนายสูนตั้งแต่เด็ก ก็ยังเดินและวิ่งเล่นได้ เมื่อยายสูนเสียชีวิต ยายแส่วจึงมาดูแล และอยู่ในสภาพคอกขังมานาน คงอยู่ในสภาพเส้นเอ็นยึด จึงไม่สามารถเดินได้เหมือนเดิม ต้องอยู่ในสภาพนั่งยองๆ พวกตนและเพื่อนบ้านก็ช่วยได้เพียงหาขนม หาอาหารมาให้ อยากให้หน่วยงานรัฐเข้ามาดูแล อยากให้อยู่ในสภาพสมศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ มากกว่าอยู่ในสภาพนี้