ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - “หลวงพ่อคูณ” เริ่มฉันอาหารได้เองบ้างแล้ว ขณะที่ยังรับอาหารทางสายยางต่อเนื่อง แพทย์เฝ้าติดตามอาการอย่างใกล้ชิด ในช่วงที่ให้ยารักษาวัณโรคปอดอีก 3 สัปดาห์ เผย ผลเอกซเรย์พบปอดเกือบหายเป็นปกติ มีเพียงบางส่วนของเนื้อปอดที่ไม่ขยายตัว ซึ่งต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง คาดอีก 1 เดือน ให้ยาครบจะหารือการกำหนดวันกลับวัดบ้านไร่
วันนี้ (16 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานคืบหน้าอาการอาพาธของพระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ซึ่งพักรักษาอาการอาพาธวัณโรคปอด อยู่ที่ห้องผู้ป่วยพิเศษ วีไอพี 9821 อาคารเฉลิมพระเกียรติ ชั้น 8 โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ตั้งแต่เมื่อวันที่ 4 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยคณะแพทย์ได้ให้ยาวัณโรคเข้าสู่สัปดาห์ที่ 5 แล้ว
ล่าสุด อาการโดยรวมดีขึ้น หลวงพ่อคูณ มีใบหน้าที่สดชื่นกว่าทุกวัน พูดคุยกับลูกศิษย์อย่างอารมณ์ดี แพทย์เวร ลูกศิษย์ และพยาบาล ได้นำหลวงพ่อคูณ ชั่งน้ำหนักซึ่งน้ำหนักเพิ่มขึ้นอีก 0.4 กิโลกรัม (กก.) เป็น 37 กก.ก่อนนั่งรถเข็ญออกไปบริเวณหน้าห้องพักเพื่อสูดอากาศบริสุทธิ์ ต่อมาบุรุษพยาบาลได้นำเครื่องเอ็กซเรย์ปอดมาทำการตรวจบริเวณหน้าอก ก่อนกลับเข้าจำวัด
นพ.พินิศจัย นาคพันธุ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจ และ หลอดเลือดโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา แพทย์ประจำตัวหลวงพ่อคูณ เปิดเผยว่า อาการโดยภาพรวมดีขึ้น อ่อนเพลียน้อยลง รับอาหารทางสายยางได้หมด และสามารถฉันภัตตาหารได้เองบ้างแล้วตั้งแต่เมื่อวานนี้ และมาวันนี้ก็บ่นว่า หิว ส่วนระดับน้ำตาลในเลือดอยู่ในภาวะที่ควบคุมได้ ผลการตรวจเลือดและเอ็กซเรย์พบว่าทุกอย่างดีขึ้น ภาวะแทรกซ้อนจากยายังไม่มี
“ส่วนน้ำในเยื่อหุ้มปอดจนถึงวันนี้หายไปเกือบหมดแล้ว แต่ยังมีบางส่วนของเนื้อปอดที่ไม่ขยายตัว ซึ่งคงต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง ส่วนน้ำหนักหลวงพ่อคูณอยู่ที่ 37 กก.เป็นที่พอใจของคณะแพทย์” นพ.พินิศจัย กล่าว
อย่างไรก็ตาม การรักษาหลวงพ่อคูณยังถือว่ายังอยู่ในช่วงอันตรายที่ต้องเฝ้าระวังติดตามอย่างใกล้ชิดวันต่อวัน เพราะหลวงพ่อมีปัญหาเรื่องของหัวใจและน้ำตาลต่ำเมื่อสองสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่การรักษาก็ดีขึ้นตามลำดับ นับจากนี้ไปอีก 2 สัปดาห์น่าจะเห็นผลการรักษาที่ชัดเจนยิ่งขึ้น ซึ่งตอนนี้ยาฉีดรักษาวัณโรคปอดยังเหลืออีกประมาณ 3 สัปดาห์ ถึงจะครบกำหนด
“ฉะนั้นคิดว่าคงอีกประมาณ 1 เดือนถึงจะสรุปได้ว่าจะให้หลวงพ่อกลับไปพักฟื้นที่วัดได้เมื่อใด” นพ.พินิศจัย กล่าว
